ราคาเนื้อหมูจีนพุ่ง 110% ดันเงินเฟ้อสูงสุดใน 8 ปี
ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ระบุว่า ราคาเนื้อหมูในจีนเพิ่มขึ้นถึง 110.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคพุ่งขึ้นในเดือนพ.ย. โดยโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรยังคงมีผลกระทบกับจำนวนสุกรในประเทศ
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 4.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้นจาก 3.8% ในเดือนต.ค. เป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปี 2555 จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
ราคาผู้บริโภคของจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีเสถียรภาพตลอดปีอยู่ที่ 1.9% โดย CPI ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 8.2% ในเดือนมี.ค.2551 ในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลก
โดยการขยายตัวในเดือนพ.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ 4.3% จากนักวิเคราะห์ในการสำรวจของสื่อบลูมเบิร์ก
ทั้งนี้ จีน ( ซึ่งเป็นประเทศที่บริโภคเนื้อหมูมากที่สุดในโลก ) ประสบปัญหาซัพพลายเนื้อหมูขาดแคลนจากวิกฤตโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร ทำให้มีการทำนายว่าโรคนี้จะทำให้จำนวนสุกรในจีนลดลงไปครึ่งหนึ่งภายในสิ้นปีนี้
ดีมานด์จึงเปลี่ยนไปหาโปรตีนรูปแบบอื่น ส่งผลทำให้ราคาเนื้อวัว แกะ ไก่ เป็ด และไข่ปรับเพิ่มขึ้นระหว่าง 11.8% – 25.7% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.ของปีที่แล้ว
“ เงินเฟ้ออาหารยังคงเพิ่มขึ้นจากปัญหาซัพพลายเนื้อหมูที่เกิดจากโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรเงินเฟ้อราคาเนื้อหมูเพิ่มขึ้น 108% เป็น 110% ในเดือนที่แล้ว ขณะที่เงินเฟ้อที่ไม่ใช่อาหาร ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คือยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 12 เดือน ขณะที่เงินเฟ้อหลัก ( ซึ่งแยกจากราคาอาหารและราคาพลังงาน) ปรับลดลดงเล็กน้อย” Julian Evans-Pritchard นักเศรษฐศาสตร์จีนอาวุโสที่ Capital Economics ระบุ
มีข่าวดีเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. เมื่อกระทรวงเกษตรและกิจการชนบทยืนยันว่า จำนวนสุกรเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับเดือนก่อน นี่เป็นเดือนที่สองติดต่อกันที่มีตัวเลขการขยายพันธุ์สุกรเพิ่มขึ้น
“ มีสัญญาณว่าเงินเฟ้อราคาเนื้อหมูอาจใกล้จะพีคสุดแล้ว ราคาเนื้อหมูปรับขึ้นเดือนต่อเดือนในเดือนที่แล้ว และจีนขยายพันธุ์สุกรได้มากขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบปี ” Evans-Pritchard เสริม
ตรงข้ามกับดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งสะท้อนราคาที่โรงงานบวกเพิ่มกับผู้ค้าส่งสำหรับสินค้าของพวกเขา ติดลบ 1.4% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.ของปีก่อน แต่เป็นตัวเลขที่ดีกว่าเดือนต.ค.ที่ติดลบ 1.6% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
แม้จะปรับขึ้นเล็กน้อย ราคาที่ติดลบยังชี้ว่าผู้ผลิตมีส่วนลดเพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าของพวกเขาจากผลกระทบของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวท่ามกลางสงครามการค้ากับสหรัฐฯ.
