‘สี’ อยากทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ
ปักกิ่ง (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนระบุว่า จีนอยากทำข้อตกลงการค้าเบื้องต้นกับสหรัฐฯ และพยายามหลีกเลี่ยงสงครามการค้าแต่ไม่กลัวที่จะโต้กลับเมื่อจำเป็น
นักเศรษศาสตร์เตือนว่า ข้อพิพาททางการค้าที่ยืดเยื้อของสองประเทศมหาอำนาจเพิ่มความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจทั่วโลก กระทบซัพพลายเชน การลงทุนและความเชื่อมั่นทางธุรกิจ
“ เราต้องการให้มีข้อตกลงในเฟส 1 บนพื้นฐานของการให้เกียรติซึ่งกันและกันและความเท่าเทียมกัน” ประธานาธิบดีสีกล่าวกับผู้แทนในการประชุมนานาชาติ
“ หากจำเป็น เราจะสู้กลับ แต่เราได้ทำงานเพื่อพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้มีสงครามการค้า เราไม่ได้เป็นคนเริ่มสงครามการค้านี้ และนี่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ”
ผู้นำจีนตอบคำถามจากผู้แทนในงาน New Economy Forum ที่จัดโดยบลูมเบิร์ก LP ที่มหาศาลาประชาคมในกรุงปักกิ่งของจีน
ตลาดการเงินทั่วโลกผันผวนในสัปดาห์นี้จากความกังวลล่าสุดว่าการเจรจาการค้าจะสะดุด เนื่องจากคาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะลงนามในกฎหมาย 2 ฉบับที่สนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกง ซึ่งเป็นเขตบริหารพิเศษของจีน
จีนเชิญคณะผู้แทนเจรจาการค้าสหรัฐฯให้ไปพูดคุยกันรอบใหม่ในกรุงปักกิ่ง จากรายงานของสื่อวอลล์สตรีทเจอร์นัล โดยเสริมว่าจีนหวังว่าจะมีการเจรจาก่อนวันหยุดเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าในวันที่ 28 พ.ย.
เจ้าหน้าที่จีนชี้ว่า ประธานาธิบดีสีและทรัมป์อาจลงนามในข้อตกลงได้ช่วงต้นเดือนธ.ค. ผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุว่า วันที่ควรจับตามองคือ 15 ธ.ค. ที่สหรัฐฯจะเริ่มเก็บภาษีเพิ่มเติมกับสินค้าจีนมูลค่า 156,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงรายการสินค้าที่เป็นของขวัญในช่วงเทศกาลวันหยุด อย่างสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องประดับตกแต่งในเทศกาลคริสต์มาส
“ อย่างที่เราพูดเสมอ เราไม่อยากเริ่มสงครามการค้า แต่เราก็ไม่กลัว” สีกล่าว
ในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 20 พ.ย. รองนายกรัฐมนตรีหลิวเฮ่อของจีน ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาการค้าระบุว่า เขามองในแง่ดีเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าในเฟส 1 จากรายงานของสื่อบลูมเบิร์ก
เฟรด วู ผู้ก่อตั้ง Capital Group บริษัทลงทุนทั่วโลกที่มีฐานที่มั่นในจีนระบุว่า “ ทั้งสองประเทศควรลงนามในข้อตกลงยิ่งเร็วยิ่งดี หรืออย่างน้อยก็พักรบ และนั่นจะเป็นการอัดฉีดเสถียรภาพเข้ามาในตลาดและเศรษฐกิจ”.