จีนตกลงสหรัฐฯยกเลิกภาษี
ปักกิ่ง (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 7 พ.ย. กระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุว่า จีนและสหรัฐฯตกลงที่จะยกเลิกภาษีในหลายเฟสในช่วงสงครามการค้าที่ยาวนานหลายเดือน โดยไม่ได้เจาะจงถึงกำหนดเวลา
คาดการณ์ว่าข้อตกลงการค้าชั่วคราวจะครอบคลุมถึงคำมั่นของสหรัฐฯ ที่จะยกเลิกภาษีซึ่งมีกำหนดจัดเก็บกับสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 15 ธ.ค.นี้มูลค่าประมาณ 156,000 ล้านดลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป และของเล่น
การยกเลิกภาษีเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับข้อตกลง จากถ้อยแถลงของเกาเฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ โดยเขาเสริมว่า ทั้งสองฝ่ายต้องยกเลิกภาษีที่จัดเก็บกับสินค้าของอีกฝ่ายไปพร้อมกันเพื่อให้บรรลุข้อตกลงการค้าในเฟสแรก
“ สงครามการค้าเริ่มต้นจากภาษี และควรยุติลงด้วยการยกเลิกภาษี” เขากล่าวในการแถลงข่าวประจำวัน
สัดส่วนการยกเลิกภาษีของทั้งสองฝ่ายในการบรรลุข้อตกลงในเฟส 1 ต้องเหมือนกัน แต่จำนวนที่ยกเลิกสามารถเจรจากันได้ เขาเสริม โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
“ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา การเจรจาของทั้งสองฝ่ายเป็นการปรึกษาหารือกันอย่างจริงจังและสร้างสรรค์เพื่อแก้ไขข้อกังวลหลักที่แตกต่างหลากหลายอย่างเหมาะสม” โฆษกกล่าว
“ ทั้งสองฝ่ายตกลงกันเพื่อยกเลิกภาษีเพิ่มเติมในหลายเฟส เนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีความก้าวหน้าในการเจรจา”
และอีกหนึ่งสัญญาณเชิงบวกคือรายงานข่าวจากสำนักข่าวซินหัวของจีนในวันที่ 7 พ.ย. ที่ระบุว่า กรมศุลกากรและกระทรวงเกษตรของจีนกำลังพิจารณายกเลิกกฎระเบียบที่เข้มงวดในการนำเข้าสัตว์ปีกจากสหรัฐฯ ที่ผ่านมา จีนห้ามนำเข้าสัตว์ปีกและไข่จากสหรัฐฯตั้งแต่เดือนม.ค. 2558 จากความกังวลเรื่องการระบาดของโรคไข้หวัดนก
ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุกับรอยเตอร์ก่อนหน้านี้ว่า ผู้แทนเจรจาของจีนต้องการให้สหรัฐฯ ยกเลิกภาษี 15% มูลค่าประมาณ 12,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯกับสินค้าจีนที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังคงหาทางยกเลิกภาษี 25% มูลค่าประมาณ 250,000 ล้านอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีตั้งแต่เครื่องจักรและเซมิคอนดักเตอร์ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์
เจ้าหน้าระดับสูงในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวกับสื่อรอยเตอร์เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ว่า กำลังหาสถานที่ใหม่ในการประชุม โดยสถานที่ซึ่งมีความเป็นไปได้คือกรุงลอนดอน โดยผู้นำทั้งสองจะพบกันหลังการประชุม NATO ซึ่งทรัมป์มีกำหนดจะเข้าร่วมในวันที่ 3 – 4 ธ.ค.นี้
โฆษกเกาปฏิเสธที่จะระบุว่าการประขุมจะมีขึ้นเมื่อไร และที่ไหน
ตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในปี 2560 รัฐบาลของเขากดดันจีนให้ควบคุมการให้เงินอุดหนุนรัฐวิสาหกิจและยุติการบังคับให้ถ่ายทอดเทคโนโลยีอเมริกันให้บริษัทจีน ซึ่งเหมือนเป็นราคาที่ต้องจ่ายเพื่อการทำธุรกิจในจีน