ศก.จีน Q3 โต 6% ชะลอตัวสุดใน 27 ปี
ปักกิ่ง – เศรษฐกิจจีนไตรมาส 3 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ ถูกกระทบจากดีมานด์ในประเทศและสงครามการค้าสหรัฐฯ – จีนที่ยืดเยื้อ จากการรายงานของทางการจีนเมื่อวันที่ 18 ต.ต.
โดยเศรษฐกิจจีนเติบโต 6.0% ในไตรมาสเดือนก.ค. – ก.ย. เมื่อเทียบกับที่เคยเติบโต 6.2% ในไตรมาส 2 จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
ตัวเลข ซึ่งสอดคล้องกับการสำรวจจาก 13 นักวิเคราะห์ของสื่อ AFP เป็นตัวเลขการเติบโตต่อไตรมาสที่ตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2535 แต่ยังคงอยู่ในเป้าหมายของรัฐบาลที่ตั้งเป้าไว้ที่ 6.0 – 6.5% สำหรับปีนี้ทั้งปี โดยในปี 2561 เศรษฐกิจจีนเติบโต 6.6%
“เศรษฐกิจของประเทศยังคงมีเสถียรภาพโดยรวมในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้” เหมาเฉิงหยง โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุ
“ภาคบริการและการผลิตไฮเทคเป็นพื้นที่สำคัญของการเติบโต ขณะที่การจ้างงานโดยทั่วไปยังมีเสถียรภาพ” เขาเสริม
รัฐบาลปักกิ่งมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดภาษีและผ่อนคลายกฎระเบียบการลงทุนจากต่างชาติในตลาดหลักทรัพย์
โดยเมื่อวันที่ 16 ต.ค. มาตรการล่าสุดในการพยุงเศรษฐกิจ คือ ธนาคารกลางของจีนระบุว่า จะอัดฉีดเงินจำนวน 200,000 ล้านหยวน เข้ามาในระบบการเงิน ผ่านธุรกรรมกู้ยืมระยะกลางให้ธนาคาร ซึ่งจะช่วยคงสภาพคล่องในตลาด
ความขัดแย้งทางการค้าและดีมานด์ในประเทศที่อ่อนแรงทำให้ IMF ลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของปี 2562 ลง จากเดิม 6.2% ลงมาอยู่ที่ 6.1% เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่ยังอยู่ในระหว่างการทำข้อตกลงก็ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจจีนด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคชาวจีนเริ่มเปิดกระเป๋าสตางค์เพื่อจับจ่ายใช้สอยอย่างช้าๆอีกครั้ง จากยอดค้าปลีกที่เติบโต 7.8% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับ 7.5% ในเดือนส.ค.
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. เกาเฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุว่า คณะผู้แทนในการเจรจาการค้าของจีนกำลังเร่งสรุปรายละเอียดเนื้อหาของข้อตกลง และทั้งสองฝ่ายต่างมุ่งหวังให้เกิดข้อตกลงเร็วขึ้น
โดยเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า เขาหวังที่จะลงนามในข้อตกลงร่วมกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนในการประชุมกลุ่มประเทศเอเปกที่ชิลีในเดือนพ.ย.
โฆษกเกาปฏิเสธที่จะให้รายละเอียด หรือเปิดเผยเนื้อหาของข้อตกลงบางส่วน หรือทั้งหมดของข้อตกลง โดยเขาระบุว่าจะพร้อมก่อนกำหนดกลางเดือนพ.ย.นี้