จีนใช้ทรัมป์เป็นเครื่องหมายการค้า
จีนหยิบยื่นโอกาสให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ในการแผ่ขยายแบรนด์ของเขา หลังจากมีการอนุมัติให้หลายสิบคำขอใช้ชื่อของเขาเป็นเครื่องหมายการค้าในการจดทะเบียนได้
คำขอมากมายของจีน จากอุตสาหกรรมที่หลากหลายตั้งแต่โรงแรมไปจนถึงระบบรักษาความปลอดภัย มีขึ้นในช่วงการกรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว
ประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเป็นเจ้าของประมาณ 70 แบรนด์ในจีน ให้คำมั่นว่าจะไม่มีการตกลงทางธุรกิจใหม่กับต่างประเทศขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศสหรัฐฯ
โดยนักวิจารณ์เตือนว่า การอนุมัติให้ใช้ชื่อของเขาเป็นแบรนด์สินค้าอาจเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ได้
สมาคมผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคำยื่นขอใช้ 38 เครื่องหมายการค้าที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ได้เป็นการชั่วคราวและหากไม่มีผู้ใดคัดค้าน ก็จะได้รับการจดทะเบียนภายใน 90 วัน
ทั้งนี้ เป็นเรื่องปกติในจีนที่บรรดาคนดังจะใช้ชื่อของพวกเขาเป็นเครื่องหมายการค้าในการทำธุรกิจ ถึงแม้ว่าจะไม่มีความตั้งใจที่จะใช้ก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้อื่นมาใช้ชื่อของพวกเขาเพื่อหาประโยชน์ได้
ทั้งนี้ ก่อนวันทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามโอนธุรกิจทั้งหมดให้กับลูกชายทุกคนของเขา ถึงแม้จะมีคำวิจารณ์ว่า การกระทำเช่นนี้ยังไม่เพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของครอบครัวเขาก็ตาม
เมื่อข่าวของการขอใช้ชื่อของประธานาธิบดีทรัมป์เป็นเครื่องหมายการค้าถูกเปิดเผยออกมาในปีนี้ ผู้เชี่ยวชาญในการเมืองสหรัฐฯหลายคนให้ความเห็นว่า การอนุญาตให้ใช้ชื่อของเขาอาจถูกพิจารณาว่าเป็นผลประโยชน์ตอบแทน ในรูปแบบค่าลิขสิทธิ์ เงินเดือน หรือผลกำไรที่รัฐบาลในต่างประเทศมอบให้ก็เป็นได้
นายนอร์แมน ไอเซน ทนายความด้านจริยธรรมของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามากล่าวว่า นี่อาจมีความเสี่ยงในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน
“ มีความกังวลเรื่องข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญว่า ผลประโยชน์ที่หลั่งไหลจากต่างประเทศเข้ามาที่ประธานาธิบดีจะทำให้การตัดสินใจของผู้นำประเทศผิดเพี้ยนไป และเครื่องหมายการค้าก็อาจเป็นส่วนหนึ่งในประเด็นนี้ได้”
ขณะเดียวกัน นายริชาร์ด เพนเทอร์ อดีตทนายความด้านจริยธรรมของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ บุชก็ให้ความเห็นว่า จำนวนการอนุมัติคำขอใหม่อาจก่อให้เกิดคำถามที่ว่า ทางปักกิ่งกำลังพยายามทำตัวให้เป็นที่พอใจของผู้นำสหรัฐฯ
“ เครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร หรือลิขสิทธิ์ตามปกติจากรัฐบาลต่างประเทศอาจไม่ผิดในเรื่องผลประโยชน์ตอบแทนของรัฐธรรมนูญ แต่ด้วยการอนุมัติให้ใช้เครื่องหมายการค้าจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้นอาจทำให้เกิดคำถามที่ว่า อย่างน้อยก็อาจมีการเอื้อประโยชน์ในเรื่องความสะดวกสบายแฝงอยู่ในนี้บ้าง”.