จีนใช้ทวิตเตอร์/FB โจมตีประท้วงฮ่องกง
ซานฟรานซิสโก : เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กระบุว่า พวกเขาได้พบแคมเปญที่จีนใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อต่อต้านการประท้วงในฮ่องกง
“ เราขอเปิดเผยปฏิบัติการข้อมูลที่รัฐบาลสนับสนุนเพื่อมุ่งเน้นประเด็นสถานการณ์ในฮ่องกง โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวประท้วงและการเรียกร้องเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง” ทวิตเตอร์ระบุในโพสต์ออนไลน์
เฟซบุ๊กระบุว่า ข้อแนะนำจากทวิตเตอร์ทำให้ทางเฟซบุ๊กได้มีการลบเพจ กลุ่มและบัญชีผู้ใช้งานที่สร้างขึ้นในจีน ซึ่งเกี่ยวข้องกับ “พฤติกรรมการประสานงานที่ไม่น่าไว้วางใจ” ซึ่งมุ่งเน้นกับการประท้วงที่ฮ่องกง
โดยทวิตเตอร์ระบุว่าได้ระงับทั้งหมด 936 บัญชีผู้ใช้งานที่สร้างขึ้นในจีน
ทวิตอเตอร์ถูกบล็อกในจีน แต่หลายคนยังสามารถเข้าถึงทวิตเตอร์ได้ผ่านเครือข่ายส่วนตัวเสมือน หรือ VPN ซึ่งจะปิดบังโลเคชั่นของผู้ใช้งาน
“จากการสืบสวนอย่างจริงจัง เรามีหลักฐานเชื่อถือได้ที่สนับสนุนว่า นี่เป็นปฏิบัติการประสานความร่วมมือที่รัฐบาลให้การสนับสนุน” ทวิตเตอร์ระบุ
“เราตรวจสอบพบบัญชีเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ที่มีพฤติกรรมประสานความร่วมมือกันในการกระจายข้อความที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงที่ฮ่องกง”
ทางเฟซบุ๊กได้ยกเลิก 7 เพจ 3 กลุ่ม และ 5 บัญชีผู้ใช้งานที่สร้างขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญทรงอิทธิพลที่มุ่งเน้นการประท้วงที่ฮ่องกง จากข้อมูลของ Nathaniel Gleicher หัวหน้าฝ่ายนโยบายความมั่นคงทางไซเบอร์
คนที่ร่วมในแคมเปญใช้ ‘กลยุทธ์อำพราง’ ทั้งบัญชีปลอมเพื่อแสดงตนเป็นสำนักข่าว เผยแพร่คอนเทนต์และชี้นำผู้คนให้เข้ามาอ่านเนื้อหาในข่าวปลอม
“พวกเขามักโพสต์เกี่ยวกับข่าวการเมืองท้องถิ่นบ่อยครั้ง และในอีกหลายประเด็นอย่างการประท้วงในฮ่องกง” Gleicher กล่าว
“ แม้กลุ่มคนที่อยู่เบิ้องหลังกิจกรรมนี้พยายามจะปกปิดตัวตน แต่จากการสืบสวนของเราพบลิงก์ที่เชื่อมโยงกับหลายบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน”
มีประมาณ 15,500 บัญชีผู้ใช้งานที่ติดตามอย่างน้อย 1 ในเพจเฟซบุ๊กของแคมเปญนี้ จากข้อมูลของเฟซบุ๊ก
ความเคลื่อนไหวในการประท้วงที่ฮ่องกงเกิดขึ้นจากการคัดค้านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปจีน แต่หลังจากรัฐบาลฮ่องกงระงับร่างกฎหมายนี้แล้ว การประท้วงกลับลุกลามบานปลายเป็นการการเรียกร้องสิทธิในระบอบประชาธิปไตย
ตลอดหลายสัปดาห์ของการประท้วงที่มีผู้เข้าร่วมชุมชุมประท้วงหลายล้านคนในฮ่องกง ข่าวลือออนไลน์และทฤษฎีสมคบคิดได้แพร่กระจายก่อให้เกิดความสับสนและความไม่ไว้วางใจอยู่ลึกๆ
มีการตัดต่อภาพฟุตเทจทหารเกาหลีใต้ปี 2554 เหมือนเป็นการบุกเข้ามาของทหารจีน มีการขยายขนาดการชุมนุมให้ใหญโตขึ้น โดยพลเมืองฮ่องกงถูกรุมล้อมด้วยความขัดแย้งจากผู้เห็นต่างทางการเมืองทั้งสองฝ่าย
มีการเลือกใช้วีดีโอและภาพความรุนแรงของการประท้วง หรือเหตุรุนแรงมาตัดต่อเพื่อสนับสนุนความคิดเห็นอย่างเจาะจง และแพร่กระจายอย่างรวดเร็วบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และยังมีการสนทนาเป็นกลุ่มส่วนตัวในเว่ยป๋อและ WhatsApp ด้วย