สถานทูตจีนจี้แคนาดาหยุดแทรกแซงฮ่องกง
ออตตาวา – เมื่อวันที่ 19 ส.ค.สถานทูตจีนในกรุงออตตาวาเตือนแคนาดาให้หยุดแทรกแซงในกิจการภายในของฮ่องกง หลังจากแคนาดาออกแถลงการณ๋ร่วมกับสหภาพยุโรปปกป้อง“สิทธิพื้นฐานในการชมนุม” ของพลเมืองฮ่องกง
โดยเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ชาวฮ่องกงหลายแสนคนออกมาชุมนุมประท้วงกันอย่างสงบในสัปดาห์ที่ 11 ของการประท้วง สวนทางกับการประท้วงหลายครั้งก่อนหน้านี้ที่มีแต่ความรุนแรง
คืนก่อนการชุมนุมในวันที่ 18 ส.ค. คริสเทีย ฟรีแลนด์ รมว.กระทรวงต่างประเทศแคนาดา และเฟเดริกา โมเกรินี ประธานฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู ระบุว่า “ เสรีภาพขั้นพื้นฐาน รวมถึงการชุมนุมโดยสงบ ต้องคงอยู่ต่อไป ”
แถลงการณ์ร่วมแคนาดา – อียูยังแสดงถึงความกังวลเกี่ยวกับความรุนแรงที่ยกระดับขึ้น และสนับสนุนให้มีการทำข้อผูกพันจากทุกฝ่ายเพื่อลดความตึงเครียด
โดยสถานทูตจีนระบุในแถลงการณ์บนเว็บไซต์ แคนาดาควร “หยุดแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกงและของจีนทันที”
“ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน แคนาดาควรมีความระมัดระวังในคำพูดและการกระทำเกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวข้องในฮ่องกง” จากถ้อยแถลงของโฆษกสถานทูตจีนในแคนาดาที่ไม่ระบุนาม
“ การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงอย่างสงบกลับกลายเป็นความรุนแรงสุดโต่ง ในการเผชิญหน้ากับความรุนแรงเช่นนี้ รัฐบาลที่มีความรับผิดชอบไม่ควรก้าวก่าย” แถลงการณ์ระบุ
กระทรวงต่างประเทศของแคนาดายังไม่มีท่าทีขานรับกับเรื่องนี้ โดยทางกระทรวงระบุว่าแคนาดามีพลเมืองประมาณ 300,000 คนที่อาศัยอยู่ในฮ่องกง
ทั้งนี้ แคนาดามีกรณีพิพาททางการทูตกับจีนหลังจากแคนาดาควบคุมตัวเมิ่งว่านโจว ซีเอฟโอของบริษัทหัวเว่ยและลูกสาวผู้ก่อตั้งบริษัทตามหมายจับของสหรัฐฯเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
โดยไม่นานหลังจากเมิ่งถูกควบคุมตัว จีนก็จับผู้ต้องสงสัยชายชาวแคนาดา 2 คน และยังไม่ได้รับการปล่อยตัว นอกจากนี้ จีนยังระงับการนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์จากแคนาดาด้วย