ชานมในเซี่ยงไฮ้ยอดขายทะลุ 2,000%
สงครามการค้าสหรัฐฯและจีนไม่ได้ทำให้สถานการณ์เลวร้ายและมืดมนไปเสียทั้งหมด
ในช่วงเวลาที่การส่งออกของจีนไปยังสหรัฐฯที่มีมูลค่ามากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 9.3 ล้านล้านบาท ต้องเผชิญกับอัตราภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้นถึง 25% แบรนด์ชานมที่มีเรื่องราวและต้นกำเนิดจากเซี่ยงไฮ้อย่าง ไวท์ แรบบิท มียอดขายชานม
มากถึง 2,000% ทั้งหมดนี้เป็นเพราะแบรนด์อันเป็นความภาคภูมิใจของจีน
ชาวจีนต่างเต็มใจลิ้มรสชานมดังกล่าวในราคาที่แพงถึง 500 หยวน หรือ 2,253 บาท ซึ่งปกติแล้วขายในราคาเพียงแค่ 19-23 หยวน หรือประมาณ 85-105 บาทเท่านั้น
หวัง เสียวเลี่ยง วัย 40 ปี ต่อแถวเพื่อรอคิวซื้อชานมจากร้านไวท์ แร็บบิท หรือ กระต่ายขาว เป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ท่ามกลางนักช็อปอีกหลายร้อยรายในช่วงกลางวันของวันเสาร์
เขาบอกว่า “มันไม่ใช่แค่รสชาติเท่านั้นนะครับ เรายังได้สนับสนุนแบรนด์ท้องถิ่น เมื่อยามที่รัฐบาลสหรัฐฯวางแผนจะทำลายการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนน่ะครับ”
ผู้ผลิตทอฟฟี่หวานรสนมอย่างกระต่ายขาวกลายเป็นที่รู้จักระดับโลกในปี พ.ศ.2515 เมื่อโจวเอินไหล ผู้นำของจีน ได้นำเสนอไวท์ แร็บบิท ให้กับริชาร์ด นิกสัน ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น
เมื่อราวสิ้นเดือนก่อน บริษัทกวนเซิงหยวน กรุ๊ป ผู้ผลิตของผลิตภัณฑ์ตรากระต่ายขาว ได้เปิดตัวร้านชั่วคราวที่ศูนย์การค้า CapitaMall LuOne บนถนนซูเจียหุย ในเซี่ยงไฮ้ ร่วมกับบริษัทคู่ค้าท้องถิ่นอีก 2 ราย เพื่อขายชานมตรากระต่ายขาว ทางบริษัทผลิตและขายชานมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 60 ปี โดยตั้งใจว่าจะสร้างผลิตภัณฑ์หลากหลายเพื่อฟื้นแบรนด์ขึ้นมาใหม่อีกครั้งด้วยชื่อ กระต่ายขาว
แม้ว่าจะเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดชานม แต่ชานมของกระต่ายขาว ก็ยังได้รับการต้อนรับหนาแน่นและเป็นที่สนใจอย่างมาก
อ้างอิงจากโพสต์บนโซเชียลมีเดีย เผยว่าผู้ซื้อบางราย ใช้เวลา 4-5 ชม.ในการยืนรอเข้าคิวเพื่อซื้อชานม 1 แก้ว และการได้รับความนิยมอย่างมากจนกลายเป็นกระแสของนักดื่มชานม ยิ่งแสดงให้เห็นถึงจังหวะที่ดีสำหรับการเก็งกำไร หลังจากผู้บริโภคใช้เวลาหลายชั่วโมงในการยืนรอต่อคิว ทางกระต่ายขาว ก็มีแนวทางขายชานมราคาแพงเป็นพิเศษให้กับลูกค้าที่ความอดทนต่ำ ในการรอคิว
ทางผู้ค้ากำไรระบุว่า หลังขายผลิตภัณฑ์ชานมของกระต่ายขาวในแต่ละวัน จะได้กำไรอย่างน้อยหลายร้อยหยวน โดยปกติแล้ว ชานมจะขายในราคาเก็งกำไรประมาณ 100 หยวน แต่ลูกค้าบางรายยอมซื้อชานมในราคาต่อแก้วที่แพงถึง 500 หยวนเลยทีเดียว
มีตัวเลขประมาณการว่า ในจีนแผ่นดินใหญ่ขณะนี้มีร้านชานมและชาผลไม้ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดราว 1 ล้านแห่ง โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือผู้ซื้อกลุ่มมิลเลนเนียล