หัวเว่ยเปิดกว้างพร้อมขายชิป 5G ให้แอปเปิล
หัวเว่ย “เปิดกว้าง” ที่จะขายชิปไฮสปีด 5G ให้กับผู้ขายสมาร์ทโฟนที่เป็นคู่แข่ง รวมทั้งหนึ่งในคู่แข่งรายใหญ่อย่างแอปเปิล ถือเป็นการเปลี่ยนแนวคิดครั้งสำคัญของบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเด็นทรัพย์สินทางปัญญาของตัวเอง
ผู้ผลิตอุปกรณ์โครงข่ายโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในโลกสามารถเติบโตในตลาดผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วด้วยแบรนด์สมาร์ทโฟนของตัวเอง จากส่วนแบ่งในตลาดทำให้หัวเว่ยเป็นผู้ขายรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก
หัวเว่ยเริ่มต้นด้วยการขายโทรศัพท์มือถือราคาถูก แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ บริษัทได้เปลี่ยนกลยุทธ์ไปมุ่งเน้นการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในตลาดสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ ด้วยการต่อสู้กับแอปเปิลและซัมซุง โดยส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหว คือหัวเว่ยพัฒนาการผลิตชิปของตัวเอง รวมทั้งโมเดมในการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน 5G และโปรเซสเซอร์เพื่อเพิ่มพลังให้อุปกรณ์ของตัวเอง โดย 5G เป็นระบบอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ซึ่งถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงกว่าเดิมมาก
จนถึงตอนนี้ เทคโนโลยีเหล่านี้ใช้เฉพาะในอุปกรณ์ของหัวเว่ยเท่านั้น ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้
ในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC เหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและซีอีโอหัวเว่ยจะพิจารณาขายชิป 5G ให้กับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายอื่นรวมทั้งแอปเปิล“ เราเปิดกว้างให้แอปเปิลในเรื่องนี้” เหรินกล่าว
ที่ผ่านมา แอปเปิลไม่มีแนวโน้มจะต้องการใช้ชิปคิริน 980 ของหัวเว่ย เพราะมีของตัวเองอยู่แล้ว แต่ชิป 5G อาจทำให้แอปเปิลสนใจ
แอปเปิลยังไม่ได้ออกอุปกรณ์ที่รองรับ 5G ที่ผ่านมา บริษัทเคยใช้โมเดมจาก Qualcomm และ Intel สำหรับไอโฟน แต่ในรุ่นล่าสุด แอปเปิลใช้แต่ Intel เพราะยังมีกระบวนการฟ้องร้องทางกฎหมายเรื่องสิทธิบัตรกับ Qualcomm
ทาง Qualcomm มีโมเดมที่สนับสนุน 5G ขณะที่ Intel ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดจนถึงปี 63 หมายความว่าหัวเว่ยอาจกลายเป็นทางเลือกที่ดีของแอปเปิลที่ต้องการเปิดตัวไอโฟนที่รองรับ 5G ในปีนี้
อย่างไรก็ตาม หัวเว่ยยังเผชิญกับแรงกดดันทางการเมืองครั้งสำคัญ โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่าบริษัทมีความเสี่ยงกับความมั่นคงของชาติ เพราะอุปกรณ์อาจใช้เป็นเครื่องมือสอดแนมความลับให้รัฐบาลจีน โดยหัวเว่ยปฏิเสธคำกล่าวหานี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนของหัวเว่ยไม่ได้ขายผ่านผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ในสหรัฐฯ บริษัทจึงมีส่วนแบ่งในตลาดสหรัฐฯค่อนข้างน้อย
ธุรกิจสินค้าบริโภคที่หัวเว่ยกลายเป็นธูรกิจที่ใหญ่ที่สุดในปี 61 แซงหน้าธุรกิจเครือข่ายหลักหัวเว่ยเปิดตัวสมาร์ทโฟนแบรนด์หัวเว่ยครั้งแรกในปี 53 เป็นรุ่นราคาถูก และในช่วง 2 – 3 ปีแรกบริษัทวางขายแต่รุ่นราคาถูก
เหรินยอมรับว่าบริษัทอาจทำผิดพลาดเรื่องกลยุทธ์การตั้งราคาสมาร์ทโฟน แต่ระบุว่าเขาได้เรียนรู้มากจากเรื่องนี้
“เราตั้งราคาจากค่าใช้จ่ายของเรา ซึ่งค่อนข้างต่ำ ค่าใช้จ่ายของเราต่ำจากเหตุผล 2 ข้อ ข้อแรกคือ เทคโนโลยีของเราก้าวหน้าเร็วมาก เราสามารถจัดการลดค่าใช้จ่ายของผลิตภัณฑ์เราได้ ข้อ 2 คือ ต้องขอบคุณการจัดการของตะวันตก ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของเราก็ต่ำด้วย” เขากล่าว “ นี่ทำให้เราตั้งราคาในระดับต่ำได้ ซึ่งทำให้บริษัทตะวันตกยากที่จะแข่งขันกับเรา” .