จีนกังวลศก.เพราะสงครามการค้าไม่จบ

นายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงของจีนกระตุ้นให้รัฐบาลท้องถิ่นทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อหนุนให้เศรษฐกิจเติบโตตามเป้า โดยส่งสัญญาณว่ารัฐบาลปักกิ่งมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเกินคาดการณ์ ท่ามกลางสงครามการค้ากับสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 14 ต.ค.นายกฯหลี่กล่าวกับผู้ว่าการ 5 มณฑลว่า รัฐบาลท้องถิ่นต้อง “ตระหนักถึงความเร่งด่วนและความรับผิดชอบให้มากขึ้น” เพื่อคงเสถียรภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ และ “ต้องขับเคลื่อนการเติบโตให้ก้าวหน้า” กับแนวคิดในการทำงานของพวกเขา อ้างอิงจากแถลงการณ์ของรัฐบาลจีนบนเว็บไซต์
“ มีแรงกดดันด้านลบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกับเศรษฐกิจ และบริษัทจำนวนมากต้องดิ้นรนท่ามกลางดีมานด์ในประเทศที่อ่อนแรงลง” นายกฯหลี่กล่าว เขาเสริมว่า รัฐบาลท้องถิ่นต้องทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อ “ให้แน่ใจว่าจะบรรลุตามเป้าหมายของปีนี้ ”
โดยหลี่ยังกล่าวกับผู้ว่าการจากมณฑลชานซี เจียงซู เหอหนาน หูเป่ย และกวางตุ้งว่ารัฐบาลท้องถิ่นต้องกระชับ ‘แนวคิดที่สำคัญที่สุด’ ให้แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นศัพท์เฉพาะที่ทางพรรคคอมมิวนิสต์อธิบายถึงความจำเป็นที่ต้องคิดถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด และพยายามหาทางหลีกเลี่ยง
คำกล่าวของนายกฯหลี่ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลจีนชี้ให้เห็นว่าเป้าหมายเศรษฐกิจตลอดทั้งปี ( รวมทั้งการเติบโตของ GDP อยู่ที่ 6% ) กำลังมีความเสี่ยงที่จะพลาดเป้า โดยข้อความในวันที่ 14 ต.ค.ยังแสดงให้เห็นถึงการประเมินในแง่ลบมากขึ้นกับสภาพเศรษฐกิจของจีนเมื่อเทียบกับแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ของรัฐบาล
สงครามการค้าที่โต้ตอบกันไปมาระหว่างสหรัฐฯกับจีนส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและทำลายธุรกิจในจีน มีหลักฐานที่เห็นได้ชัดว่าปัญหาเศรษฐกิจกำลังขยายตัวลุกลามขึ้น อย่างเช่น ซัมซุง บริษัทยักษ์ใหญ่อิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ที่ปิดโรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือแห่งสุดท้ายในจีนไปเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ Pang Da Automobile Trade ซึ่งเป็นดีลเลอร์รถยนต์รายใหญ่ที่สุดในจีน ต้องเข้าสู่กระบวนการยื่นขอล้มละลายเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา
นายกฯ หลี่ไม่ได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ แต่กล่าวกับรัฐบาลท้องถิ่นให้ดำเนินการตามนโยบายที่มีอยู่ ซึ่งรวมถึงการลดภาษีรายได้บุคคลและธุรกิจ และลดค่าใช้จ่ายด้านการเงินให้กับธุรกิจขนาดเล็ก
นอกจากนี้ยังระบุให้ใช้ “พันธบัตรเพื่อจุดประสงค์พิเศษ” ( ซึ่งเป็นกระบวนการระดมเงินทุนให้กับโครงสร้างพื้นฐานและโครงการที่มีการวางแผนอื่นๆ ) เพื่อ “ขยายการลงุทนอย่างมีประสิทธิภาพ”
แลร์รี หู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนประจำ Macquarie Capital ในฮ่องกง ระบุในเอกสารว่า รัฐบาลปักกิ่งต้องยกระดับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
“ ไม่ว่าจะมี หรือไม่มีข้อตกลงการค้า เศรษฐกิจของจีนก็ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง” จนกว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมมากกว่า เขากล่าว การพักรบของสงคราม
การค้ากับสหรัฐฯ “ ยิ่งทำให้มีการหยุดชะงักและแย่ลงกว่าเดิม ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น”