การผลิตจีนหดตัว 3 เดือนต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ผลสำรวจภาคเอกชนในการผลิตของจีนชี้ว่า กิจกรรมโรงงานหดตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ หรือ PMI ในภาคการผลิตของ Caixin/Markit อยู่ที่ 49.9 จุดในเดือนก.พ. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขที่อ่านได้ในเดือนม.ค.คือ 48.3 จุด และดีกว่า 48.5 จุด จากการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตในเดือนก.พ.ยังคงวนเวียนอยู่ในระดับหดตัว ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมานานตั้งแต่ต้นปี 59 โดยตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 จุดคือสัญญาณการหดตัว ขณะที่ตัวเลขมากกว่า 50 คือการขยายตัว
ดัชนี PMI ของ Caixin คือการสำรวจภาคเอกชนที่มุ่งเน้นที่ธุรกิจที่มีขนาดเล็กกว่า และเสนอทางเลือกให้เหมือนเป็นการเหลือบมองบรรยากาศโดยรวมในการดำเนินธุรกิจ โดยดัชนีนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในฐานะอีกหนึ่งทางเลือก นอกจากดัชนี PMI จากทางการ
“ ดีมานด์การผลิตในประเทศปรับตัวขึ้น และดีมานด์ต่างประเทศไม่ทรุดลงแรงเหมือนในปีที่แล้ว” จงเจิ้งเฉิง ผอ.ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคประจำ CEBM Group ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Caixin ระบุ โดยเขาชี้ว่า คำสั่งซื้อใหม่เพื่อการส่งออกปรับลดลงมาอยู่ในแดนลบ
โดยผลสำรวจของเอกชนมีขึ้นหลังจากมีการเผยแพร่ดัชนี PMI ของทางการเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ซึ่งชี้ให้เห็นถึงกิจกรรมการผลิตที่ปรับลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน อยู่ที่ 49.2 จุดในเดือนก.พ. จากเดิม 49.5 จุดในเดือนม.ค. อ้างอิงจากข้อมูลที่เปิดเผยโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน โดยการผลิตต่ำสุดในรอบ 3 ปี
ผลการสำรวจทั้งสองส่งสัญญาณรวมกันถึงความแข็งแกร่งในวงรอบการผลิตในเดือนก.พ. โดยโพลเอกชนชี้ให้เห็นถึงความหวังจากกิจกรรมในเดือนก่อนหน้านี้
นักลงทุนจับตาตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดของจีนสำหรับสัญญาณของปัญหาทั้งในประเทศจีนเอง และข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน
ทั้งนี้ ข้อมูลด้านการผลิตมีขึ้นไม่กี่วันก่อนที่จะมีการประชุมประจำปีของสภา ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 5 มี.ค.มีการคาดการณ์ในวงกว้างว่ารัฐบาลจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เช่นการลดภาษี เพื่อหนุนเศรษฐกิจของประเทศ
บรรดาผู้นำของจีนจะเปิดเผยเป้าหมายสำคัญทางเศรษฐกิจและการเงินสำหรับปีนี้ ซึ่งอาจเป็นการบอกใบ้ถึงจุดยืนนโยบายในอนาคตของรัฐบาลจีน
ทั้งนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 61 ชะลอตัวอยู่ที่ 6.6% ( เป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบ 28 ปี) ลดลงมาจากเดิมคือ 6.8% ในปี 60.
