จีนจะแซงสหรัฐฯเป็นตลาดค้าปลีกใหญ่สุดในโลก
เศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวลง แต่จีนยังคงมีแนวโน้มที่จะแซงสหรัฐฯขึ้นเป็นตลาดค้าปลีกอันดับ 1 ของโลกได้เป็นครั้งแรก
การค้าปลีกในจีนจะมีมูลค่าสูงถึง 5.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีนี้ สูงกว่าสหรัฐฯประมาณ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อ้างอิงจากรายงานที่ตีพิมพ์โดยบริษัทวิจัย eMarketer เมื่อวันที่ 24 ม.ค.
ความมั่งคั่งของประชาชนชาวจีนที่เติบโตขึ้น และการพัฒนาอีคอมเมิร์ซอย่างรวดเร็วช่วยขับเคลื่อนให้การค้าปลีกของประเทศบูมอย่างต่อเนื่อง
“ ในหลายปีมานี้ ผู้บริโภคในจีนมีรายได้มากขึ้น ทำให้หลายล้านคนกลายเป็นชนชั้นกลางรุ่นใหม่ ” Monica Peart ผอ.ฝ่ายประเมินอาวุโสที่ eMarketer ระบุ “ ผลลัพธ์ทำให้อำนาจในการซื้อและการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนสูงขึ้นมาก ”
บริษัทเน้นว่าความสำคัญของจีนเพิ่มขึ้นในฐานะตลาดสำหรับแบรนด์ทั่วโลกแม้การเติบโตโดยรวมจะชะลอตัวลง
โดยจีนเป็นตลาดรถยนต์และสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้วก่อนหน้านี้
ช่องว่างระหว่างตลาดค้าปลีกของจีนและสหรัฐฯ จะห่างออกไปมากขึ้นในหลายปีหน้า โดยจีนจะเติบโตอย่างเร็วไปจนถึงปี 2565 อ้างอิงจากข้อมูลของ eMarketer
บริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในจีน คืออาลีบาบาและ JD.com มีบทบาทสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมเติบโตอย่างก้าวกระโดด คาดการณ์ว่าจีนจะมีการใช้จ่ายค้าปลีกออนไลน์สูงกว่า 35% หรือเกือบ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนี้ เมื่อเทียบกับ 11% ในสหรัฐฯ eMarketer ระบุ
จีนเป็นสถานที่กำเนิดของ ‘วันคนโสด’ ซึ่งเป็นเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดประจำปีของอาลีบาบา ที่ทำยอดขายแซงหน้าเทศกาลช้อปปิ้งสำคัญของสหรัฐฯ คือ Black Friday และ Cyber Monday รวมกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคชาวจีนกำลังรู้สึกได้ถึงผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและสงครามการค้ากับสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าตัวเลขการเติบโตของยอดขายค้าปลีกจะอ่อนแรงลงมาอยู่ที่ 7.5% ในปี 2562 นี้ ลดลงมาจากเดิม 8.5% ในปีที่แล้ว อ้างอิงจากข้อมูลของ eMarketer
ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิลออกโรงเตือนนักลงทุนเมื่อต้นเดือนม.ค.นี้ว่า ยอดขายไอโฟนในจีนต่ำกว่าที่คาดการณ์ในช่วงไตรมาสเทศกาลวันหยุด โดยเขาระบุในจดหมายถึงนักลงุทนว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 บริษัทไม่ได้ตระหนักว่าเศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัวลงบ้างแล้ว
ขณะที่ Michelle Lam นักวิเคราะห์การลงทุนของธนาคาร Societe Generale ระบุในรายงานถึงลูกค้าว่า “ การเติบโตของจีนกำลังสูญเสียโมเมนตัม การใช้จ่ายของผู้บริโภคก็ส่งสัญญาณชัดเจนถึงความซบเซาลง”
แต่นักวิเคราะห์อีกคนมองในแง่ดี
“ ขณะที่เราคาดว่าการเติบโตของการบริโภคจะชะลอตัวลง แต่เราคิดว่าความกังวลเรื่องผู้บริโภคของจีนดูจะมากเกินไป ” Tianjie He นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสที่ Oxford Economics ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 23 ม.ค.
“ เราไม่คาดว่าจะเห็นการชะลอตัวอย่างชัดเจนในปี 2562 ” เขาระบุ โดยเสริมว่าผู้บริโภคของจีนจะยังคงเป็น “ แรงขับเคลื่อนสำคัญที่หนุนให้เศรษฐกิจเติบโต”