ยอดขายรถในจีนลดลงครั้งแรกใน 20 ปี
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2019/10/409ba970171136b62a00ff442467842a_XL.jpg)
ยอดขายรถยนต์ในจีน ซึ่งเป็นตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดิ่งลงเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี
โดยยอดขายรถยนต์ลดลงถึง 6% ลงมาอยู่ที่ 22.7 ล้านคันในปี 2561 อ้างอิงจากสมาคมผู้โดยสารรถยนต์ของจีน (CPCA)
ยอดขายรถยนต์ที่ปรับลดลงเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลง ซึ่งส่งผลกระทบกับผลประกอบการของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก
ข่าวนี้สอดคล้องกับข่าวที่แอปเปิลออกโรงเตือนว่ารายได้ของบริษัทอาจจะลดลงจากดีมานด์ไอโฟนที่ลดลงในตลาดจีน และซัมซุง ยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ที่คาดว่ากำไรของบริษัทจะลดลงเช่นกัน
ขณะที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในจีนอย่างแบรนด์จี๋ลี่ ก็คาดการณ์ว่า บริษัทจะมียอดขายที่ไม่หวือหวาเช่นกันในปีนี้
โดยแบรนด์รถยนต์ต่างชาติทั้งฟอร์ด โฟล์คสวาเกน จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ และเจเนรัล มอเตอร์ล้วนแล้วแต่รายงานยอดขายที่ลดลงหมดทุกแบรนด์ในช่วง 2 – 3 เดือนสุดท้ายของปี 61 ในตลาดจีน
ในเดือนธ.ค.ปีก่อน สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ของจีน (CAAM) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่รัฐบาลให้การสนับสนุนกล่าวโทษว่า ยอดขายที่ชะลอตัวลงเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ปรับเปลี่ยน และ “ เหตุผลระหว่างประเทศ ” โดยอ้างถึงสงครามการค้ากับสหรัฐฯ
ในปี 61 เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค.ทั้งสหรัฐฯและจีนต่างมีมาตรการภาษีกับสินค้านำเข้าของกันและกันมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
CAAM ระบุว่า ทางสมาคมคาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์ในจีนจะไม่เปลี่ยนแปลงในปี 62 และเสริมว่าแม้ดีมานด์ของน้ำมันดีเซลและเบนซินจะลดลง แต่ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะช่วยพยุงตลาดรถยนต์โดยรวมไม่ให้เจอกับสภาวะที่ดิ่งเหว
เงินอุดหนุนจากภาครัฐในการซื้อรถยนต์ช่วยจบปีที่แล้วที่ผู้บริโภคขาดแรงจูงใจในการซื้อรถยนต์คันใหม่
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ระบุว่า มีแผนจะแนะนำนโยบายที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคด้านรถยนต์ พร้อมทั้งอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
Ning Jizhe รองประธาน NDRC กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อภาครัฐของจีนว่า ยังคงมีศักยภาพที่ยอดขายรถยนต์จะเพิ่มขึ้น เขากล่าวว่าหลายนโยบาย เช่น โครงการแนะนำให้มีการซื้อรถยนต์ในชนบท หรือ ลดภาษียอดขายรถยนต์ อาจช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ในปีนี้ได้.