ตลาดหุ้นจีนดิ่ง ลดความกังวลฟองสบู่
ตลาดการเงินของจีนปลอดภัยขึ้นในปีนี้ หลังจากตลาดหุ้นเป็นขาลง โฆษกจากธนาคารประชาชนจีนระบุเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ตลาดหุ้นจีนปิดทำการในวันที่ 30 ธ.ค. และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิทจบปีนี้เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.อยู่ที่ 2,493.9 จุด ลดลงเกือบ 25% สำหรับปี 2561 ถือเป็นปีที่ตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา โดยดัชนีพุ่งขึ้นถึง 3,587 จุดในเดือนม.ค. แต่ดิ่งเหวลงถึง 31% จากระดับนั้นในเดือนต.ค.
ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง สงครามการค้ากับสหรัฐฯ และประเด็นการเงินของหลายบริษัท
“ ตลาดดิ่งลงมาก” โจวซูตง โฆษกและผู้อำนวยการทั่วไปของสำนักบริหารจัดการ ธนาคารประชาชนของจีน “ แต่ตลาดก็ไม่ตื่นกลัวมาก หุ้นดิ่งแต่ไม่มีบริษัทในตลาดล้มละลาย นี่เป็นกระบวนการปรับเปลี่ยนตลาดตามธรรมชาติ ผู้ที่อยู่ในตลาดมีประสบการณ์มากขึ้น”
“ หลังจากตลาดหุ้นลดดิ่งลงจาก 3,500 จุดลงมาอยู่ที่ 2,500 จุด ด้วยการประเมินว่า ระดับต่ำประมาณนี้คือปลอดภัยจริงๆ” โจวระบุ อ้างอิงจากการสัมภาษณ์เมื่อเย็นวันที่ 28 ธ.ค. “ มีฟองสบู่น้อยมาก เราปลอดภัยขึ้น เมื่อตลาดหุ้นปลอดภัย อุตสาหกรรมการเงินโดยรวมก็ปลอดภัยยิ่งขึ้น”
ทางการจีนมีการประกาศในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเพื่อให้การสนับสนุนตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่แล้ว การค้าในจีนขับเคลื่อนด้วยนักลงทุนค้าปลีกมากกว่าสถาบัน ทำให้ผลประกอบการของตลาดมีความสัมพันธ์กับการเติบโตทางเศรษฐกิจน้อยกว่าดัชนีในตลาดหุ้นที่มักเกิดขึ้นในประเทศอื่น แต่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิทแทบจะไม่ฟื้นตัวขึ้นจากที่อยู่ในแดนลบต่ำที่สุดในรอบเกือบ 4 ปีในเดือนต.ค. และยังคงอยู่ในระดับแค่ครึ่งเดียวจากที่เคยพุ่งสูงในปี 2558
อย่างไรก็ตาม ตรงข้ามกับที่รัฐบาลเคยเข้าไปแทรกแซงตลาดอย่างหนักในปี 2558 คราวนี้ รัฐบาลกลับให้การสนับสนุนเงินทุนภาคเอกชน และรัฐบาลท้องถิ่นได้จัดตั้งกองทุนให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนแก่บริษัทที่กำลังดิ้นรนอย่างหนัก
สัปดาห์ก่อน สมาชิกคณะกรรมการความมั่นคงและพัฒนาการเงินของสภารัฐจีนยังระบุว่า ควรมีการปฏิบัติตามแนวคิดเน้นการตลาด และลดการแทรกแซงของภาคบริหารในด้านการค้า อ้างอิงจากโพสต์ออนไลน์
เมื่อโจวและผู้แทนคนอื่นจากธนาคารกลางถูกขอให้ขยายความเรื่องแถลงการณ์ โจวหลาน ผู้ช่วยผู้อำนวยการบริหารของฝ่ายตลาดการเงิน ยกตัวอย่างถึงความสำเร็จของธนาคารประชาชนในการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เขาไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับรายละเอียดและเวลาในการปฏิรูปการเงินในจีน
โดยรวมแล้ว โจวย้ำว่า เขาเชื่อมั่นในความมั่นคงทางการเงินของจีน และชี้ว่าธนาคารขนาดใหญ่มีสถานะการเงินที่ดี
ระบบการเงินจะครบวงรอบคร่าวๆทุก 10 ปี ดังนั้น นี่จึงเป็นเวลาซึ่งความเสี่ยงที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นจะแสดงตัวออกมาก เขากล่าว
“ จีนเป็นประเทศที่อยู่ในระหว่างการเปลี่ยนผ่าน การปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจที่เน้นแนวคิดการตลาด มีระบบตลาดมากมายที่ยังปรับเปลี่ยนไม่สมบูรณ์ ” เขากล่าว.