คนจนในจีนลดลง 85% ใน 6 ปี
ภายในสิ้นปีนี้ จำนวนชาวจีนที่ใช้ชีวิตอย่างยากจนจะมีอยู่ประมาณ 15 ล้านคน ลดลงอย่างน่าพอใจถึง 85% จากที่เคยมีคนจนเกือบ 100 ล้านคนในประเทศจีนเมื่อ 6 ปีก่อน ผอ.หน่วยงานของรัฐที่ต่อต้านความยากจนระบุเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.
หลิวหย่งฝู ผู้อำนวยการของ State Council Group Office Alleviation and Development ระบุว่า จะมีการกำจัดความยากจนในระดับยากลำบากที่สุดทั่วประเทศให้หมดไปภายในปี 2563
โดยเขากล่าวว่า ความสำเร็จในการลดความยากจนเกิดขึ้นพร้อมกันกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วของจีน
เขาได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่จัดโดยศูนย์ข้อมูลสภารัฐเพื่อทบทวนกระบวนการของประเทศในการลดความยากจนที่เริ่มตั้งแต่ปี 2521
ปีเดียวกับที่จีนปฏิรูปเศรษฐกิจและมีนโยบายเปิดประเทศ ทิศทางการบริหารจัดการใหม่ช่วยยุติความวุ่นวายในประเทศที่มีมานานหลายปี และเป็นการเริ่มต้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนแบบก้าวกระโดดด้วยตัวเลขสองหลัก
อ้างอิงจากสำนักงานของหลิว มีเกษตรกรในพื้นที่มากกว่า 700 คนที่ผลักดันตัวเองจนสามารถยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น หลุดพ้นจากความยากจนในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา เป็นความสำเร็จที่หลิวใช้คำว่า “ รุ่งโรจน์” เพื่ออธิบายถึงเรื่องราวความก้าวหน้าของพวกเขา
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตัวเลขความยากจนในพื้นที่ชนบทลดลงอย่างฮวบฮาบจาก 97.5% ลงมาอยู่ที่ 3.1% เท่านั้นจนถึงสิ้นปี 2560 และคาดการณ์ว่าจะลดลงต่ำกว่า 2% ในปีนี้ หลิวกล่าว
“ จำนวนคนจนจะต้องลดลงเป็นศูนย์” เขากล่าว โดยเสริมว่า ความยากจนที่สุดจะถูกกำจัดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของจีน แต่หลิวย้ำว่า ยังมีคนที่ยากจนอยู่ และรัฐบาลกลางจะถอดบทเรียนจาก 4 ทศวรรษที่ผ่านมา และเดินหน้าผลักดันมาตรฐานและมาตรการในรายละเอียดเพื่อเพิ่มรายได้ของประชาชน
โดยเขายังย้ำถึงความสำคัญขององค์กร (ไม่ว่าจะเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่ ) ในการต่อสู้กับความยากจน โดยพรรณนาว่าพวกเขาเป็นเหมือนผู้สร้างสรรค์ความร่ำรวยและเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรม
“ การลดความยากจนคือการเพิ่มรายได้ เพื่อเปลี่ยนคนไม่มีงานทำให้เป็นแรงงานมีทักษะ และจูงใจพวกเขาให้ตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง” เขากล่าว “ ผู้ประกอบการมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้”
องค์กรกว่า 40,000 แห่ง มีการจับคู่กับหมู่บ้านยากจนกว่า 30,000 แห่ง เป็นความพยายามที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมท้องถิ่น และชะลอการอพยพเข้าเมืองไปทำงานของคนหนุ่มสาว เขากล่าว
ผู้นำในส่วนกลางของจีนมีความพยายามอย่างที่สุดเพื่อต่อสู้กับความยากจนด้วยหลายมาตรการที่ตั้งเป้าในปี 2555 และในปีที่แล้ว การลดความยากจนเป็นหนึ่งใน “ 3 การต่อสู้ที่ยากลำบาก” ที่จีนต้องเอาชนะให้ได้ภายใน 3 ปีหน้า พร้อมกับการป้องกันความเสี่ยงด้านการเงิน และการแก้ปัญหามลภาวะ.