ค้าปลีกและผลผลิตอุตสาหกรรมจีนพลาดเป้า
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.จีนรายงานตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมและค้าปลีกเดือนพ.ย.ที่พลาดเป้า อ้างอิงจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติชี้ให้เห็นสัญญาณการชะลอตัวท่ามกลางกรณีพิพาททางการค้ากับสหรัฐฯ
โดยผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนพ.ย.เติบโต 5.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ถือเป็นตัวเลขที่ชะลอตัวมากที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี เท่ากับตัวเลขการเติบโตในเดือนม.ค. – ก.พ.ปี 2559 อ้างอิงจากบันทึกสถิติของรอยเตอร์
ขณะที่การเติบโตในการผลิตอุตสาหกรรมลดลงต่ำกว่า 5.9% จากการวิเคราะห์ของโพลจากรอยเตอร์ที่เคยทำนายไว้ก่อนหน้านี้
ยอดค้าปลีกเติบโต 8.1% ในเดือนพ.ย. ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่อ่อนแรงลงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา อ้างอิงจากบันทึกสถิติของรอยเตอร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์อยู่ที่ 8.8% โดยตัวเลขค้าปลีกลดลงจากตัวเลขเดิม 8.6% ในเดือนต.ค.
การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น 5.9% จากเดือนม.ค. – พ.ย. สูงกว่าตัวเลข 5.8% ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ขณะที่ FAI เติบโต 5.7% จากเดือนม.ค.- ต.ค.
มีการจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจากจีนอย่างใกล้ชิดท่ามกลางกรณีพิพาททางการค้าระหว่างสองประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ชูประเด็นที่สหรัฐฯขาดดุลการค้ากับจีนจำนวนมหาศาลมาเป็นต้นตอความขัดแย้ง
ถึงแม้ความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ จะยกระดับขึ้น แต่ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนยังสร้างความประหลาดใจให้เป็นส่วนใหญ่ในปี 2561
โดยเฉพาะในภาคการผลิตตัวเลขก่อนหน้านี้ซึ่งยังคงเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากผู้ส่งออกเร่งส่งสินค้าก่อนที่จะมีมาตรการภาษี
ตัวเลขที่อ่อนแรงลงของจีนเดือนพ.ย.แสดงให้เห็นว่า การเร่งรีบจัดส่งสินค้าในช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้ช่วยอุดรูรั่วและบรรเทาแรงกดดันที่มีต่อเศรษฐกิจจีน Sue Trinh หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของเอเชียประจำ RBC Capital Markets ในฮ่องกงระบุ
ข้อมูลผลผลิตอุตสาหกรรมและค้าปลีกที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.นั้น “ น่าเกลียดมาก” เธอเสริมในโน้ตที่ส่งให้ลูกค้าในวันเดียวกัน
สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า หลังจากเผยแพร่ข้อมูล ซึ่งผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯยังไม่ชัดเจน รอยเตอร์รายงาน
“ ผลกระทบเลวร้ายที่สุดยังไม่เกิดขึ้น และรัฐบาลจะต้องกังวลมาก โดยเฉพาะการเติบโตของการบริโภคที่ดิ่งเหว” Trinh ระบุในรายงาน
ในการประชุมกลุ่มประเทศ G-20 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ประธานาธิบดีทรัมป์ตกลงที่จะไม่ขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนจาก 10% เป็น 25% มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนม.ค.ปีหน้าอย่างที่เขาขู่ไว้ อ้างอิงจากแถลงการณ์ของทำเนียบขาว แต่หากทั้งสองประเทศไม่สามารถตกลงกันได้ภายในกำหนดเวลา 90 วันของการสงบศึกทางการค้า สหรัฐฯจะขึ้นภาษีตามที่ขู่ไว้ทันที.