ชาวจีนประหยัดการใช้จ่าย
ผู้บริโภคในจีนจำนวนมากใช้จ่ายเงินระมัดระวังมากขึ้น จากความกังวลเรื่องความไม่แน่นอนในอนาคต
“ การบริโภคที่ลดลงเป็นความเสี่ยงขนาดใหญ่ที่สุด เพราะทุกคนรู้เกี่ยวกับการลงทุนที่ลดลง ทุกคนรู้เกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้า” เฉินเจียนกวง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่ JD Digits ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ JD.com ให้ความเห็น
“ ความเชื่อมั่นของทุกคน ความเชื่อมั่นในสถานการณ์ของเงินหยวนลดลง และการบริโภคถูกกระทบทันที” เฉินพูดให้สัมภาษณ์กับ CNBC เป็นภาษาจีนกลางเมื่อวันที่ 20 พ.ย . “ ในอีก 2 – 3 เดือนหน้า การบริโภคจะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง”
โดยยอดขายค้าปลีกลดลงมาอย่างน่าผิดหวังอยู่ที่ 8.6% ในเดือนต.ค. แตกต่างจากปีที่แล้วที่มีตัวเลขเดิมอยู่ที่เกือบ 10% หรือสูงกว่า
ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในจีน ซึ่งเป็นตลาดรถที่ใหญ่ที่สุดในโลก ร่วงลงมากว่า 11.5% ในสองเดือนล่าสุด เป็นตัวเลขติดลบครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปี อ้างอิงจากตัวเลขทางการที่แสดงในข้อมูลของ Wind Info
เศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลงในปีนี้ จากความพยายามของรัฐบาลที่จะลดการพึ่งพาการเติบโตด้วยการเพิ่มหนี้ ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับธุรกิจที่จะหาแหล่งเงินทุน และสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน ยิ่งเพิ่มความผันผวนให้มากยิ่งขึ้น
ค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลงและตลาดหุ้นที่ดิ่งร่วง ( ดัชนีเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นติดในกลุ่มตลาดหุ้นที่มีตัวเลขย่ำแย่ที่สุดในปีนี้) ยิ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นให้แย่ลง
ผู้บริโภคชาวจีนจำนวนมากติดกับดักหนี้ มีภาระหนักเรื่องสินเชื่อบ้าน อ้างอิงจากตัวเลขของ McKinsey’s Zipser หนี้ครัวเรือนสูงกว่า 100% ของรายได้ต่อปีในจีน ซึ่งสูงกว่าในสหรัฐฯ
แต่แรงกดดันเช่นนั้น ก็ยังไม่อาจหยุดให้ชาวจีนจำนวนหนึ่งช้อปได้ โดยจีนมีการเติบโตในค้าปลีก 8.6% สูงกว่าสหรัฐฯที่มีตัวเลขอยู่ที่ 4.6% ต่อปีในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ชี้ว่า โดยส่วนใหญ่ชาวจีนใช้จ่ายมากขึ้นกับการเดินทาง การดูแลสุขภาพ และเพลิดเพลินมากขึ้นกับกลุยุทธ์การขายใหม่ๆ โดยตัวเลขในภาคส่วนนี้ช่วยผู้ค้าปลีกที่มีหน้าร้านให้เติบโตขึ้น
มีการเปิดห้างสรรพสินค้าใหม่ในกรุงปักกิ่งถึง 37 ห้างในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา จากข้อมูลของลินดา หยู ผู้จัดการฝ่ายวิจัยของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ JLL เธอเสริมว่า การเปิดร้านขายชุดกีฬา และอุปกรณ์ในบ้านมีการเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ เราคิดว่าผู้บริโภคชาวจีนยังมีสถานะที่ดี แต่ไม่โชว์ให้เห็นว่ามี ผู้คนยังให้ความสนใจในการมีชีวิตที่ดี”
ทางการจีนพยายามหนุนความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นและเศรษฐกิจด้วยการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สนับสนุนแผนซื้อหุ้น และพยายามปรับปรุงสถานการณ์การให้สินเชื่อกับธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายเช่นนั้นจะสามารถช่วยให้ผู้บริโภคชาวจีนเชื่อมั่นในการใช้จ่ายมากขึ้น.