ฟอร์ดยอดขายร่วง 43% ในจีน
ยอดขายรถยนต์แบรนด์ยักษ์ใหญ่อเมริกันอย่างฟอร์ดดิ่งร่วงลงถึง 43% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งสัญญาณว่ายอดขายรถยนต์กำลังชะลอตัวลงอย่างมากในจีน
นับเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่ยอดขายรถยนต์ลดต่ำลงในจีนซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ฟอร์ด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่กำลังตึงเครียดยิ่งขึ้น แม้จะเป็นความจริงว่ายอดขายรถยนต์ฟอร์ดในจีนพึ่งพาการเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทในประเทศก็ตาม
ยอดขายรถยนต์ลดลงเกือบทุกแบรนด์ในจีน ไมเคิล ดันน์ ประธานบริษัท ZoZo Go ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาการลงทุนที่ติดตามการดำเนินการของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ขับอัตโนมัติและรถยนต์พลังงานไฟฟ้าระบุ และนี่เป็นครั้งแรกที่มีสัญญาณของวิกฤตให้เขาเห็น หลังเกิดวิกฤตการเงินในหลายประเทศในเอเชียช่วงปี 2540 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ รถยนต์แบรนด์อื่นก็มีชะตากรรมที่ไม่ต่างจากฟอร์ดนัก โดย โฟล์กสวาเกนเพิ่งมีรายงานเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ว่า ยอดขายรถยนต์ในจีนลดลงเกือบ 11% ในเดือนก.ย. และก่อนหน้านั้น ในวันที่ 8 ต.ค. GM ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์อเมริกันอันดับ 1 ระบุว่า ยอดขายในจีนร่วงลงถึง 15% ในไตรมาส 3 ขณะที่จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ปิดโรงงานในอังกฤษแห่งหนึ่งนาน 2 สัปดาห์หลังยอดขายรถยนต์ในจีนดิ่งฮวบลงถึง 46% ในเดือนก.ย.
“ หลังจากหลายปีที่ตลาดรถยนต์จีนเติบโตแบบพุ่งทะยาน ในที่สุดก็หวนกลับลงมาสู่พื้นดิน” บริษัทที่ปรึกษา Trivium ที่มีฐานอยู่ในปักกิ่งระบุในรายงานเมื่อวันที่ 9 ต.ค. โดยยอดขายรถยนต์ในจีนลดลงทั้งในเดือนก.ค.และส.ค. อ้างอิงจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีน
จากการวิเคราะห์ มี 3 ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนให้ดีมานด์รถยนต์ลดต่ำลง โดยปัจจัยแรกคือการปราบปรามการให้สินเชื่อโดยตรงผ่านธุรกรรมออนไลน์ที่เกิดขึ้นในจีน ซึ่งทำให้เกิดระบบการเงินที่ปล่อยให้คนจีนที่มีฐานะไม่ร่ำรวยสามารถกู้ยืมเงินได้ในอัตราที่สูงกว่าธนาคารเสนอ
ปัจจัยที่ 2 คือความระมัดระวังรอบคอบในการใช้จ่ายเงินของบรรดาผู้บริโภคชาวจีนที่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงนี้
“ ในช่วงเวลาที่ดี คนจีนเป็นคนที่ใช้เงินแบบดุเดือดและกล้าได้กล้าเสียมากๆ แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาของความผันผวนไม่แน่นอน พวกเขาจะเป็นพวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง”
ผู้บริโภคชาวจีนแสดงออกถึงความกังวลที่อยู่ในใจมากกว่าท่าทีการขาดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เห็นในสหรัฐฯ “ และมันเป็นเหมือนโรคติดต่อที่แพร่กระจายออกไป” เขาเสริม
และปัจจัยสุดท้ายคือสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเร่งความไม่แน่นอนให้ชาวจีนจำนวนมากรู้สึกได้ และส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว
ฟอร์ดมีปัญหาที่ไม่เหมือนบริษัทอื่นในจีน เนื่องจากบริษัทไม่มีสินค้ารุ่นใหม่ออกสู่ตลาดนานกว่า 1 ปีแล้ว และผู้บริโภคชาวจีนเริ่มมองหารถยนต์แบรนด์อื่นที่มีรุ่นใหม่กว่า คาดการณ์ว่าฟอร์ดจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดจีนในอีก 2 -3 เดือนหน้า เขากล่าว
ทั้งนี้ ฟอร์ดยังไม่ให้ความเห็นกับสื่อในประเด็นนี้.