แจ็ค หม่าเกษียณตัวเอง
ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริหารของอาลีบาบากรุ๊ป – แจ็ค หม่า จะเกษียณตัวเองจากบริษัทในวันที่ 10 ก.ย.โดยจากการที่เขาเคยเป็นอดีตครูสอนภาษาอังกฤษทำให้เขามุ่งมั่นอยากจะทำการกุศลด้านการศึกษามากกว่า นิวยอร์กไทม์รายงาน
โดยหม่า ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารบริษัทที่เป็นที่รู้จักกันดี จะยังคงอยู่ในบอร์ดบริหารและยังคงเป็นที่ปรึกษาในการจัดการให้กับบริษัทต่อไป นิวยอร์กไทม์รายงานเมื่อวันที่ 7 ก.ย.
ยังไม่มีความชัดเจนว่าบริษัทจะแต่งตั้งประธานคนใหม่หรือไม่ โดยหม่า ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งอาลีบาบาในปี 2542 ลงจากตำแหน่งซีอีโอในปี 2556
ปัจจุบันเขาทำหน้าที่เป็นหน้าตาของบริษัทในอีเวนท์ทางการเมืองและทางธุรกิจในระดับโลก โดยทางอาลีบาบายังไม่ให้ความเห็นในประเด็นนี้
ทั้งนี้ หม่า ซึ่งเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับ 3 ในจีนมีทรัพย์สินทั้งหมดมูลค่า 36,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1.20 ล้านล้านบาท) อ้างอิงจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส ซึ่งทางนิวยอร์กไทม์นำมารายงานโดยระบุว่าการเกษียณตัวเองของเขาไม่ใช่การสิ้นสุดของยุค แต่เป็นการเริ่มต้นของยุคต่างหาก
โดยหม่า ซึ่งจะมีอายุครบ 54 ปีในวันที่ 10 ก.ย.นี้ เป็นผู้ดูแลโครงการการกุศลด้านการศึกษาและสิ่งแวดล้อมจำนวนหนึ่ง เขาเป็นเบอร์ต้นๆในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตของจีน และดึงดูดใจคนจำนวนมากในบรรดาผู้ประกอบการและกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมป๊อป โดยในอีเวนท์ต่างๆ เขาจะพบปะกับกลุ่มแฟนๆที่ชื่นชอบและรุมล้อมเขาอยู่บ่อยครั้ง
หม่ายังเป็นบุคคลสำคัญของจีนที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เขาเชิญบรรดาผู้นำระดับโลกให้มาเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของบริษัทที่เมืองหางโจว โดยในปีที่แล้วเขาได้พบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ซึ่งชมหม่าว่าเป็นคนฉลาดและมีความคิดเปิดกว้าง
อาลีบาบาก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มคน 18 คนที่มีหม่าเป็นผู้นำ ปัจจุบันเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีการจ้างพนักงานถึง 66,000 อัตรา
อ้างอิงจากรายงานผลประกอบการล่าสุดของบริษัท
บริษัทมีมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 420,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (13.82 ล้านล้านบาท ) หลังปิดการซื้อขายในวันที่ 7 ก.ย.โดยหม่ายังเป็นผู้บริหาร Ant Financial ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 4.93 ล้านล้านบาท ) หลังการระดมทุนรอบล่าสุด
โดยหม่าลงจากตำแหน่งในช่วงเวลาที่มีเลศนัยสำหรับบริษัทเทคโนโลยีของจีน เนื่องจากรัฐบาลจีนกำลังเพิ่มการคุมเข้มในอุตสาหกรรมซึ่งอาลีบาบาและ Tencent แข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อผู้บริโภคในประเทศ
ความตึงเครียดทางการค้าที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องก็เป็นความท้าทายใหม่สำหรับบริษัทเทคโนโลยีของจีน โดยเฉพาะบริษัทอย่างอาลีบาบาซึ่งกำลังขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้ ในช่วงครึ่งปีแรก รัฐบาลสหรัฐฯไม่อนุมัติให้มีการเข้าซื้อกิจการบริการโอนเงินคือ Moneygram International ของสหรัฐฯ มูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก Ant Financial ของหม่า โดยให้เหตุผลด้านความมั่นคง.