ปักกิ่งฟ้าใสที่สุดในรอบ 10 ปี
ประชาชนที่อาศัยในกรุงปักกิ่งสามารถหายใจเอาอากาศสะอาดบริสุทธ์ที่สุดในรอบทศวรรษได้เต็มปอด ถือเป็นการเริ่มต้นเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของนโยบายกำจัดมลพิษของภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ
จากค่ามลพิษที่ต่ำที่สุด 7 เดือนที่อ่านได้ในเมืองหลวงในปีนี้ (นับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา) มี 5 เดือนที่ค่ามลพิษต่ำเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ฤดูร้อนของปีที่แล้ว อ้างอิงจากข้อมูลที่รวบรวมโดยสถานทูตสหรัฐฯในกรุงปักกิ่ง เป็นผลมาจากการปฏิบัติตามนโยบายของภาครัฐที่เข้มงวดกับการเผาถ่านหินและการดูแลสภาพแวดล้อม โดยในเดือนก.ค.ระดับมลพิษเฉลี่ยอยู่ที่ 44 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือเป็นเดือนที่มีมลพิษต่ำที่สุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 นับตั้งแต่มีการบันทึกตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา
ตัวเลขที่ปรับปรุงดีขึ้นย้ำให้เห็นว่าจีนสามารถแก้ปัญหามลพิษที่เคยทำให้เกิดวิกฤตทางอากาศในปี 2556 ได้ โดยในปีนั้น ตัวเลขที่วัดได้สูงเป็น 35 เท่าจากตัวเลขที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ โดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิงผลักดันให้การต่อสู้กับปัญหามลพิษเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญลำดับต้นๆของจีน ธุรกิจทางตอนเหนือของจีนและครอบครัวนับล้านถูกกำหนดให้เปลี่ยนชนิดการใช้งานเชื้อเพลิง จากถ่านหินมาเป็นก๊าซธรรมชาติที่มีการเผาไหม้ที่สะอาดกว่าทั้งในอุตสาหกรรมพลังงานและการทำความร้อนในบ้าน
“ จีนทำตามคำมั่นที่ให้ไว้ว่า จะนำท้องฟ้าที่สดใสกลับมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน ” Tim Buckley ผอ.ฝ่ายศึกษาการเงินพลังงานที่ Institute for Energy Economics and Financial Analysis ให้ความเห็น “ จีนไม่ได้มีกฎข้อบังคับ หรือนโยบายใหม่ มาบังคับใช้เพิ่มอีก ”
ประเทศอื่นในโลกพลอยได้อานิสงส์จากอากาศที่สะอาดขึ้นในกรุงปักกิ่ง เนื่องจากจีนนำเข้าก๊าซเพิ่มขึ้นมากจนกลายเป็นผู้นำเข้าเชื้อเพลิงมากที่สุดในโลก และช่วยดันราคาก๊าซธรรมชาติเหลวในฤดูหนาวปี 2560 ให้พุ่งขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ การลดการผลิตของโรงงานเหล็กเพื่อควบคุมมลพิษ ช่วยหนุนให้ราคาเหล็กเส้นดีดกลับขึ้นมาสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีหนทางอีกยาวไกลให้เดิน และงบประมาณในการเปลี่ยนชนิดพลังงานเพื่อให้อากาศสะอาดก็กำลังเพิ่มขึ้น
จีนกำลังพยายามลดการพึ่งพาพลังงานที่ได้จากถ่านหินให้เหลือเพียง 58% ภายในปี 2563 จากประมาณ 60% ในปัจจุบัน จากการใช้ก๊าซธรรมชาติเพื่อทำความร้อนภายในบ้านและหม้อต้มอุตสาหกรรม และเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์สำหรับโรงงานถ่านหิน Laban Yu นักวิเคราะห์จาก Jefferies Group LLC ระบุในผลวิจัยเดือนก.ค.
มาตรการภาษีจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจหนุนให้ค่าใช้จ่ายในการนำเข้าพลังงานสูงขึ้น รัฐบาลจีนเล็งการนำเข้าก๊าซ LNG จากสหรัฐฯ ซึ่งรวมอยู่ในรายการสินค้าที่อาจได้รับผลกระทบจากภาษี 25% ส่งสัญญาณว่าประธานาธิบดีสีจิ้นผิงอาจมีเจตนาที่จะยอมรับความเจ็บปวดเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเปรียบจากการณีขัดแย้งกับสหรัฐฯ มากขึ้น
ที่ผ่านมา จีนเติบโตทางด้านอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วตามรอยประเทศตะวันตก แต่การทำให้อากาศสะอาดขึ้นอาจรวดเร็วยิ่งกว่า
“ เทคโนโลยีของเราดีกว่าเดิม มีแนวโน้มว่าจีนจะใช้เวลาเร็วขึ้นมากในการควบคุมมลพิษทางอากาศ ” เจียงเคจุน นักวิจัยที่สถาบันวิจัยพลังงานภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีนให้ความเห็น.