จีนไม่นำเข้าเนื้อสหรัฐฯจากสงครามการค้า
เป้าหมายหลักของสงครามการค้าจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ คือการกดดันให้จีนซื้อสินค้าอเมริกัน แต่เมื่อส่งผลกับการนำเข้าเนื้อจากสหรัฐฯที่มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ จีนอาจเปลี่ยนไปซื้อจากประเทศอื่น
มาตรการภาษีของจีนที่ตอบโต้สหรัฐฯ ส่งผลกระทบกับเนื้อหมูและเนื้อวัวจากสหรัฐฯ ทำให้มีราคาแพงขึ้น และผู้นำเข้าของจีนจึงตัดสินใจเปลี่ยนไปซื้อจากแหล่งอื่น ซึ่งคาดว่าเรื่องทำนองนี้จะเกิดขึ้นกับภาคส่วนธุรกิจอื่นเช่นกัน
“ เมื่อราคาของสหรัฐฯแพงขึ้นหลังจากมาตรการภาษี เราจะหาสินค้าจากแหล่งอื่น” จางลี่ฮุย ผู้จัดการประจำเซี่ยงไฮ้ของ PMI Foods ซึ่งเป็นบริษัทค้าเนื้อสัตว์ระดับโลกให้ข้อมูล
“ อย่างเช่นเนื้อวัว เราจะซื้อจากออสเตรเลียมากขึ้น ซื้อจากอเมริกาใต้มากขึ้น และอาจจะซื้อเพิ่มขึ้นอีกจากแคนาดา”
โดย PMI Foods ได้หยุดนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ หลังจากมีภาษีตอบโต้จากจีน ซึ่งทำให้มีราคาสูงขึ้นมาก
ผลกระทบของสงครามการค้า ที่ส่งผลในหลายภาคส่วน ยังคงยากที่จะคาดการณ์ แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า ผู้ส่งออกสหรัฐฯจะสูญเสียธุรกิจที่มีกับตลาดจีนอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ สหรัฐฯส่งออกเนื้อหมู เนื้อวัวและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องมูลค่าประมาณ 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปจีนในเดือนมิ.ย. ก่อนที่มาตรการภาษีจะเริ่มมีผลบังคับใช้ อ้างอิงจากสมาพันธ์ส่งออกเนื้อสัตว์สหรัฐฯ คิดเป็นประมาณ 10% ของยอดส่งออกเนื้อวัวและเนื้อหมูของสหรัฐฯ
ชัดเจนว่าจีนตั้งเป้าหมายกับการนำเข้าโภคภัณฑ์ เช่น เนื้อสัตว์ ถั่วเหลือง ข้าวสาลี และเคมีภัณฑ์ที่สามารถหาทดแทนได้ง่ายในตลาดโลก Julian Evans-Pritchard นักเศรษฐศาสตร์จีนประจำ Capital Economics ให้ความเห็น
ผู้เชี่ยวชาญการค้าระบุว่า การส่งออกของสหรัฐฯที่มีมูลค่าสูงสุดที่ส่งออกไปจีน อย่างเช่น เครื่องบินโบอิ้ง และรถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐฯ กำลังมีความเสี่ยง เนื่องจากจีนสามารถเปลี่ยนไปนำเข้าเครื่องบินแอร์บัสและรถยนต์จากยุโรปและญี่ปุ่นแทน
Cofco ยักษ์ใหญ่ด้านธัญพืชของจีนระบุว่า กำลังมองหาการนำเข้าถั่วเหลืองจากบราซิล และธัญพืชอื่นๆจากหลายประเทศ เช่น ยูเครนและรัสเซีย เพื่อทดแทนการนำเข้าจากสหรัฐฯ
Shanghai Xinshangshi International Trade Co ผู้นำเข้าอาหารของจีนนำเข้าเนื้อวัวและเนื้อหมูจากสหรัฐฯมูลค่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2560 และเคยมีแผนจะเพิ่มการนำเข้าเป็น 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีนี แต่ผลกระทบจากสงครามการค้า ซูเว่ย ผู้จัดการทั่วไปกำลังตัดสินใจเปลี่ยนไปนำเข้าสินค้าจากยุโรป ออสเตรเลียและอเมริกาใต้แทน
“ ช่องว่างของสินค้าจากสหรัฐฯจะถูกเติมเต็มเร็วๆนี้” ซูกล่าว
“ สำหรับสงครามการค้า หากผู้นำเข้าจีนยังต้องการคงปริมาณการค้าของเราให้เท่าเดิม จะส่งผลกระทบกับซัพพลายเออร์และผู้ส่งออกจากสหรัฐฯมากที่สุด”.