จีนเกินดุลการค้าสหรัฐฯทุบสถิติเดือนมิ.ย.
จีนเกินดุลการค้าสหรัฐฯสูงเป็นประวัติการณ์เกือบ 29,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 969,180 ล้านบาทในเดือนมิ.ย.เนื่องจากยอดส่งออกไปสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่ง
มีรายงานตัวเลขนี้หนึ่งสัปดาห์หลังสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนเริ่มต้นขึ้น โดยสหรัฐฯตั้งกำแพงภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 34 ,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจีนตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีมูลค่าเท่ากัน
ในสัปดาห์นี้ สหรัฐฯขู่จะขึ้นภาษีเพิ่มอีก 10% กับสินค้านำเข้าของจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะเริ่มเห็นผลกระทบจากมาตรการภาษีในตัวเลขเดือนก.ค.
“ เราคาดการณ์ว่าตัวเลขการค้าในเดือนก.ค.อาจจะน่าผิดหวัง เพราะมาตรการภาษีของสหรัฐฯรอบแรกมีผลบังคับใช้ ” เอมี จวง นักวิเคราะห์จาก ธนาคาร Nordea ในสิงคโปร์ให้ความเห็น
“ เรายังไม่ได้คาดการณ์ถึงตัวเลขที่ดิ่งฮวบ เพราะภาษีตั้งเป้าแค่สินค้ามูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นสัดส่วนเล็กน้อบเมื่อเทียบกับการค้าโดยรวมของจีน ” เธอกล่าว
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี ยอดส่งออกของจีนไปสหรัฐฯเติบโตขึ้น 13.6% จากปีก่อน ขณะที่ยอดนำเข้าจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 11.8% มูลค่าการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่ 133,760 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากเดิม 117,510 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีที่แล้ว
ในฐานะผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลก จีนขู่จะใช้มาตรการภาษีเช่นเดียวกันกับสหรัฐฯ และยังระบุอีกว่าจะยื่นคำร้องต่อองค์การการค้าโลกด้วย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯขู่ว่าจะมีมาตรการภาษีเพิ่มเติมหากจีนตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหสหรัฐฯเช่นกัน
ขณะที่จีนยังคงได้ประโยชน์จากดีมานด์ที่แข็งแกร่งทั่วโลกสำหรับสินค้าจีนในปัจจุบัน ความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นกับสหรัฐฯอาจส่งผลกระทบต่อทั้งสองฝ่าย
เอมี จวงเตือนว่า จีนอาจได้รับผลกระทบหากสหรัฐฯเดินหน้าตั้งกำแพงภาษีกับสินค้าจีนเพิ่มเติมในรอบใหม่ที่มีมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ “ไม่เพียงแต่ผู้ส่งออกของจีนที่จะย่ำแย่แต่ผู้บริโภคชาวอเมริกันก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน” เธอกล่าวกับสื่อ BBC
“ สินค้าเป้าหมายจำนวนมากที่รวมถึงสินค้าบริโภคพื้นฐานจะส่งผลกระทบต่อตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ”
ขณะที่นักวิเคราะห์รายอื่นให้ความเห็นว่า ข้อมูลล่าสุดชี้ว่าเป็นเรื่องยากสำหรับสหรัฐฯที่จะชนะสงครามการค้าครั้งนี้ เนื่องจากคนอเมริกันยังต้องการซื้อสินค้าที่ผลิตในจีน
David Kuo ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Motley Fool สิงคโปร์ระบุว่า “ ภาษีของสหรัฐฯจะเพิ่มค่าใช้จ่ายในการนำเข้าสินค้าจากจีน แต่มีแนวโน้มว่าจะไม่อาจยับยั้งผู้บริโภคในสหรัฐฯได้ทั้งหมด ”
แต่เขาระบุว่า จีนมีทางเลือกอื่น โดยจีนอาจลดผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯที่มีต่อผู้ส่งออกด้วยการลดค่าเงินหยวนเพื่อทำให้สินค้าของจีนมีราคาถูกกว่าสำหรับผู้บริโภคชาวอเมริกัน อย่างไรก็ตาม เงินหยวนที่อ่อนค่าลงจะทำให้จีนนำเข้าสินค้าสหรัฐฯในราคาที่แพงขึ้น
“ เราจะกลับไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ ไม่ง่ายนักที่จะเอาชนะสงครามการค้า ” Kuo ระบุ เนื่องจากจีนส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯมากกว่าที่จะนำเข้ามาจากสหรัฐฯ.