จีนมีแผนลดภาษีรายได้ กระตุ้นคนใช้จ่ายเงิน
สภาจีนร่างกฎหมายลดภาษีรายได้บุคคล ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคและลดความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมกันในสังคม
โดยจีนพยายามที่จะลดดอกเบี้ยเงินออมและเงินลงทุน พยายามสร้างสัดส่วนการเติบโตจากการบริโภคในครัวเรือน นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า รายได้ครัวเรือนหลังหักภาษีจะโน้มน้าวใจให้ผู้บริโภคใช้จ่ายเงินมากขึ้น
จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก อ้างอิงจากค่าสัมประสิทธิ์จีนี ที่มีตัวเลขอยู่ที่ 0.40 จากข้อมูลของทางการ ซึ่งเป็นระดับที่ทางธนาคารโลกจัดว่าเป็น ‘ความเหลื่อมล้ำขั้นรุนแรง’ โดยผลสำรวจขององค์กรภาคเอกชนในปี 2559 มีการประเมินว่า ตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้
แผนการลดภาษีรายได้บุคคลเน้นไปที่ผู้ที่มีรายได้ระหว่าง 6,300 – 9,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ( 209,475 – 299,250 บาท)และขยายฐานภาษีที่ต่ำที่สุด 3 ประเภทคือ 3% ,10% และ 20% ให้ครอบคลุมผู้จ่ายภาษีหลายล้านคน ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องจ่ายภาษีในอัตราที่สูงกว่านี้ โดยคาดการณ์ว่า ผู้ที่ต้องจ่ายภาษีในอัตรา 20% จะมีรายได้อยู่ระหว่าง 16,000 – 45,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ( 532,000 บาท – 1.49 ล้านบาท)
ผู้เสียภาษีบุคคลเกือบทั้งหมดจะจ่ายภาษีน้อยลง โดยกลุ่มผู้ที่มีรายได้ระหว่าง 27,000 – 45,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี ( 897,750 บาท – 1.49 ล้านบาท) จะได้รับส่วนลดภาษีสูงสุด อ้างอิงจากการวิเคราะห์โดยธนาคารเพื่อการลงทุน China International Capital Corp
ผู้เสียภาษีที่มีรายได้ 31,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี ( 1.03 ล้านบาท) จะจ่ายภาษีในอัตราที่ลดลงถึง 8.1% ขณะที่ผู้ที่มีรายได้มากกว่า 90,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี ( 2.99 ล้านบาท) จะจ่ายภาษีลดลง 4.2%
คณะกรรมการประจำสภาประชาชนแห่งชาติของจีน ผ่านร่างกฎหมายภาษีที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนจนถึงวันที่ 28 ก.ค. โดยคาดการณ์ว่าร่างกฎหมายสุดท้ายจะมีผลในเดือน ต.ค.
แผนการล่าสุดยังรวมถึงมาตรการใหม่ที่จะสู้กับผู้ที่หลบเลี่ยงภาษี ซึ่งจะเป็นมาตรการเด็ดขาด มาตรการเหล่านี้ยังรวมถึงการจัดเก็บภาษีอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีการเอาเงินไปพักไว้ยังต่างประเทศที่ไม่ต้องเสียภาษี และเป็นการปราบปรามการบริหารจัดการเชิงพาณิชย์ที่ไม่สมเหตุสมผลซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเลี่ยงภาษี
การลดภาษีจะไม่ส่งผลกระทบสำคัญกับเงินงบประมาณของจีน เพราะประเทศพึ่งพารายได้จากภาษีส่วนบุคคลน้อยกว่าเศรษฐกิจภาคส่วนอื่นๆ โดยในปี 2560 รายได้จากภาษีส่วนบุคคลของจีนอยู่ที่ 180,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 5.98 ล้านล้านบาท คิดเป็น 8% ของมูลค่าภาษีที่จัดเก็บได้ทั้งหมด ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐฯ ภาษีรายได้บุคคลคิดเป็นครึ่งหนึ่งจากภาษีที่จัดเก็บได้ทั้งหมด
นอกจากนี้ คาดการณ์ว่าอัตราภาษีที่ลดลงจะไม่ส่งผลต่อรายได้ของประเทศโดยรวม โดยในปีที่แล้ว รายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 11% รวมถึง 19% ของภาษีรายได้ที่เพิ่มขึ้นมา ทั้งนี้ ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นรายได้ภาษีส่วนที่ใหญ่ที่สุดของจีน คิดเป็น 39% ของภาษีที่จัดเก็บได้ทั้งปี ขณะที่ภาษีเงินได้นิติบุคคลคิดเป็น 22%
จีนยังมีแผนจะจัดเก็บภาษีทรัพย์สิน แต่กระบวนการยังคงมีความขัดแย้ง และคาดการณ์ว่า จะมีผลบังคับใช้ในอีกหลายปีข้างหน้า.