จีนชี้สหรัฐฯเริ่มสงครามการค้าก่อน
สองประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกคือสหรัฐฯและจีนเริ่มต้นทำสงครามการค้าแล้ว
โดยจีนกล่าวหาว่า สหรัฐฯเป็นผู้เริ่มเปิดฉากก่อนเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. เมื่อทำเนียบขาวแถลงว่า สหรัฐฯจะมีการปรับขึ้นภาษีเป็น 25% มูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯกับสินค้าส่งออกของจีน
การประกาศครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันถึงภัยคุกคามจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่เคยพูดเรื่องกำแพงภาษีไว้เป็นครั้งแรกในเดือนมี.ค. และหลังจากนั้น มีการเจรจาด้านการค้าระหว่างทั้งสองฝ่ายอีกหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนหลังจากนั้น
“สหรัฐฯมีการเปลี่ยนความคิดเห็นไปมาอยู่ตลอด และตอนนี้ได้มีการประกาศสงครามแล้ว” กระทรวงพาณิชย์ของจีนแถลง
รัฐบาลจีนระบุว่า จะตอบโต้สหรัฐฯด้วยการขึ้นภาษีแบบเดียวกัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้กับสินค้าประมาณ 1,100 รายการ และตั้งเป้าที่อากาศยาน หุ่นยนต์ การผลิต และอุตสาหกรรมยานยนต์
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุว่า “จีนไม่ต้องการสงครามการค้า” โดยเสริมว่า จีนจะสู้กลับอย่างรวดเร็ว เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ โลกาภิวัตน์ และระบบการค้าโลก
“เราจะออกมาตรการปรับขึ้นภาษีโดยทันที ซึ่งจะเหมาะสมกับขนาด และความเข้มข้นที่จะเกิดกับสหรัฐ”
โดยทางปักกิ่งระบุว่า “ในขณะเดียวกัน ข้อตกลงทางเศรษฐกิจและการค้าทั้งหมดที่สำเร็จลุล่วงในการเจรจาก่อนหน้านี้จะเป็นโมฆะทั้งหมด” ซึ่งรวมถึงการตกลงเบื้องต้นที่จีนจะเพิ่มปริมาณการซื้อสินค้าด้านพลังงานและการเกษตรจากสหรัฐฯ
เหมือนกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ กำแพงภาษีของจีนจะออกมาบังคับใช้เป็น 2 ระลอก กระทรวงการคลังระบุ โดยปักกิ่งจะขึ้นภาษีกับสินค้าอเมริกัน 545 รายการมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมทั้งสินค้าเกษตร รถยนต์และอาหารทะเล เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.เป็นต้นไป
โดยจะมีการขึ้นภาษีกับสินค้าที่เหลืออีก 114 รายการ รวมถึงเคมีภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ และผลิตภัณฑ์พลังงานเป็นรอบที่ 2
ขณะที่สหรัฐฯ ตั้งเป้ากับสินค้าส่งออกของจีน 800 รายการ มูลค่าประมาณ 34,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. และอีก 280 รายการหลังทำประชาพิจารณ์
เรื่องนี้ก่อให้เกิดความกังวลว่าจะเป็นสงครามการค้าครั้งใหญ่ ซึ่งจะส่งผลร้ายกับทั้งผู้บริโภค บริษัท และเศรษฐกิจทั่วโลก ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเกือบ 200 จุดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. หลังมีการประกาศมาตรการภาษีจากสหรัฐฯ
ตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจถูกปรับลดลงจากการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น เห็นได้จากธนาคารกลางของเยอรมนีที่ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปในวันที่ 15 มิ.ย.
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯได้มีมาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากแคนาดา เม็กซิโก และสหภาพยุโรป ซึ่งทุกประเทศสัญญาจะตอบโต้สหรัฐฯ โดยเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. สมาชิก 28 ประเทศในสหภาพยุโรปเห็นพ้องกันที่จะมีกำแพงภาษีออกมาในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้.