ภาคบริการของจีนโตเพิ่ม
การเติบโตในภาคบริการของจีนเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย.เนื่องจากธุรกิจใหม่และการจ้างงานมีการขยายตัวเร็วขึ้นกว่าเดิม อ้างอิงจากผลสำรวจเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ส่งสัญญาณแข็งแกร่งอย่างที่จีนต้องการเพื่อคงตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของ Caixin/Markit ไต่ระดับขึ้นมาอยู่ที่ 52.9 ในเดือนเม.ย. จากที่เคยต่ำที่สุดในรอบ 4 เดือนอยู่ที่ 52.3 ในเดือนมี.ค. แต่ยังคงอ่อนแรงกว่าตัวเลขใน 2 เดือนแรกของปีนี้ (ตัวเลข 50 เป็นเส้นแบ่งระหว่างการขยายตัวกับการหดตัว)
โดยตัวเลขที่อ่านได้ใกล้เคียงกับตัวเลขชี้วัดทางการที่ไม่ใช่ภาคบริการที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ ซึ่งชี้ว่าดัชนี PMI ของภาคบริการในเดือนเม.ย.อยู่ที่ 54.8 จากเดิม 54.6 ในเดือนมี.ค.
การเติบโตในภาคบริการทำให้ผู้กำหนดนโยบายของจีนพอใจเนื่องจากจีนตั้งเป้าที่จะหนุนดีมานด์ในประเทศในช่วงเวลาที่กำลังมีประเด็นการทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลว่าจะมีการสูญเสียโมเมนตัมทางเศรษฐกิจในจีน
ในขณะที่มีการเผยแพร่ดัชนีภาคบริการของ Caixin คณะผู้แทนการค้าของสหรัฐฯก็กำลังอยู่ในระหว่างการประชุมพูดคุยกับตัวแทนของจีนในประเด็นสำคัญทางการค้าอยู่ในจีนเช่นกัน
ทั้งนี้ ภาคบริการมีสัดส่วนคิดเป็นมากกว่าครึ่งของเศรษฐกิจของจีน ค่าจ้างที่ปรับสูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคชาวจีนมีกำลังซื้อมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยผลสำรวจชี้ว่า การเติบโตของคำสั่งซื้อในธุรกิจใหม่ในเดือนเม.ย.ช่วยหนุนสภาพตลาด รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาดทำให้ตัวเลขภาคบริการของจีนเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน
นอกจากนี้ โครงการใหม่ๆและความพยายามผลักดันศักยภาพในการดำเนินการช่วยหนุนให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย.ด้วย
แรงกดดันเงินเฟ้อยังคงนิ่งในภาคส่วนบริการเนื่องจากราคาปัจจัยการผลิตชะลอตัวลงมากที่สุดในรอบ 6 เดือนในเดือนเม.ย.นี้ ขณะที่ราคาที่ผู้ประกอบการภาคบริการปรับขึ้นมีไม่มากนัก
ทั้งนี้ ตัวเลขคาดการณ์ทางธุรกิจในปีนี้ปรับขึ้นเล็กน้อยในเดือนเม.ย.โดยได้แรงหนุนจากการขยายขนาดของบริษัทที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง สภาพตลาดที่ปรับปรุงขึ้นและฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
ดัชนี PMI ของ Caixin ที่ครอบคลุมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการชี้ให้เห็นรูปแบบการเติบโตที่มั่นคงเหมือนกัน โดยเพิ่มขึ้นเป็น 52.3 ในเดือนเม.ย.จากเดิมในเดือนมี.ค.อยู่ที่ 51.8 สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่มีเสถียรภาพ
“ผลประกอบการของภาคบริการดีกว่าภาคการผลิตอย่างเห็นได้ชัด” จงเจิ้งเฉิง นักวิเคราะห์จาก CEBM กล่าว
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจจะลดลงมาอยู่ที่ 6.5% ในปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามเป้าของจีน แต่ต่ำกว่าตัวเลขการเติบโตที่ดีกว่าคาดการณ์คือ 6.9% ในปีก่อน โดยปัจจัยสำคัญคือการเข้มงวดกับภาคการเงินจากหน่วยงานภาครัฐและความขัดแย้งด้านการค้ากับสหรัฐฯ อ้างอิงจากโพลล์ของรอยเตอร์.