ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ คุยจีน
คณะผู้แทนการค้าของสหรัฐฯเดินทางถึงกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 3 พ.ค.เพื่อพูดคุยหารือในหลายประเด็นสำคัญโดยเฉพาะภาษี โดยสื่อจีนรายงานว่า จีนพร้อมจะยืนหยัดเพื่อหยุดการบีบบังคับของสหรัฐฯถ้าจำเป็น แต่การเจรจากันคงเป็นเรื่องที่ดีกว่า
ข้อตกลงที่ก้าวหน้าซึ่งอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจพิ้นฐานของจีนดูจะเป็นไปได้ยากในระหว่างการเยือนเป็นเวลา 2 วันนี้
โดยมาตรการระยะสั้นของจีนอาจชะลอการตัดสินใจของสหรัฐฯที่จะใช้มาตรการภาษีมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.56 ล้านล้านบาทกับสินค้าส่งออกของจีน
คาดการณ์ว่าการพูดคุยหารือกันครั้งนี้ ซึ่งนำโดย Steven Mnuchin รมว.กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ และรองนายกรัฐมนตรีของจีน จะครอบคลุมคำร้องที่ค่อนข้างกว้างของสหรัฐฯเกี่ยวกับนโยบายการค้าของจีน ตั้งแต่การกล่าวหาว่าจีนบังคับให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี ไปจนถึงการเข้ามาให้ทุนสนับสนุนของรัฐบาลในการพัฒนาเทคโนโลยี
“ รู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาเยือนที่นี่ ขอบคุณ” รมว.คลังของสหรัฐฯกล่าวกับสื่อรอยเตอร์เมื่อเขามาถึงโรงแรมที่พัก และเมื่อถูกถามถึงว่าคาดหวังถึงผลลัพธ์แค่ไหน เขาก็ไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ
ทันทีที่ Mnuchin เดินทางถึง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯก็ทวีตว่า “ ทีมการคลังที่ยอดเยี่ยมของเราถึงจีนแล้ว พยายามที่จะเจรจาเรื่องการค้าเพื่อความเท่าเทียมกัน ผมรอคอยที่จะได้พบกับท่านประธานาธิบดีสีในไม่ช้า เราจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอ”
ตลอดช่วงการหาเสียงเลือกตั้งในปี 2559 ประธานาธิบดีทรัมป์มักพูดขู่ที่จะขึ้นภาษีเป็น 45% กับสินค้าที่นำเข้าจากจีนเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันกับแรงงานอเมริกัน ในเวลานั้น เขายังได้กล่าวหาจีนว่าควบคุมค่าเงินให้อ่อนค่าลงเพื่อความได้เปรียบในการส่งออกสินค้า แต่รัฐบาลของเขาไม่ให้ความสนใจในเรื่องนี้
สถานทูตสหรัฐฯในกรุงปักกิ่งระบุว่า คณะผู้แทนมีแผนจะพบกับเจ้าหน้าที่จากจีนทั้งสองวัน รวมถึง Terry Branstad เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ก่อนที่จะเดินทางกลับสหรัฐฯในช่วงเย็นวันที่ 4 พ.ค.
บทบรรณาธิการของสื่อไชน่าเดลี่รายงานว่า จีนต้องการพูดคุยเพื่อหาทางออกที่เหมาะสมเพื่อยุติความบาดหมางที่ดำเนินอยู่ และเป็นการดีหากผู้แทนสหรัฐฯ ฟังได้มากเท่าที่ต้องการจะคุย
จีนจะยืนหยัดอดทนต่อการบีบบังคับกลั่นแกล้งของสหรัฐฯเท่าที่จำเป็น และในฐานะของแชมป์โลกาภิวัตน์ การค้าเสรี และระบบพหุภาคี จีนจะมีแรงสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากประชาคมนานาชาติ อ้างอิงจากบทความ
นอกจากนี้ ในบทความยังระบุว่า “ สหรัฐฯต้องการเข้าถึงตลาดจีน แต่ไม่ควรใช้วิธีการทางการค้าที่เป็นเหมือนการบีบบังคับให้จีนเปิดประตู จีนได้เปิดกว้างในกระบวนการต่างๆอยู่แล้ว” โดยบทความยังเสริมว่า จีนคาดหวังว่าทางวอชิงตันจะตอบสนองเช่นเดียวกันและเปิดตลาดกว้างรับการลงทุนและการแข่งขันจากจีน
ขณะที่สื่อโกลบอลไทม์ของจีนซึ่งเป็นการเผยแพร่ข่าวสารรายวันจากพรรคคอมมิวนิสต์รายงานว่า จีนหวังว่าการพูดคุยในครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นแก้ไขข้อขัดเแย้งที่มีอยู่
การปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมิ.ย.หลังจากผ่านกระบวนการปรึกษาหารือเป็นเวลา 60 วัน
ขณะที่จีนซึ่งปฏิเสธเรื่องการบังคับให้ถ่ายทอดเทคโนโลยี ก็ขู่ว่าจะใช้มาตรการขึ้นภาษีเช่นกัน ด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าถั่วเหลืองและเครื่องบินจากสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการลดการขาดดุลการค้ากับจีนต่อปีลงถึง 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากที่ขาดดุลการค้ากับจีนมากถึง 375,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่สมาชิกของคณะผู้แทนการค้าสหรัฐฯมีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่บ้าง
คณะผู้แทนการค้าจากสหรัฐฯ ที่เดินทางมาจีนในครั้งนี้ยังรวมถึง Wilbur Ross รมว.กระทรวงพาณิชย์พร้อมกับผู้ช่วยสายเหยี่ยวที่ชำนาญเรื่องจีนอย่าง Robert Lighthizer ผู้แทนการค้าจากสหรัฐฯ และ Peter Navarro ที่ปรึกษาทำเนียบขาวด้านการค้าและการผลิต.