จีนนำสหรัฐฯ ในเทคโนโลยี 5G

ทั่วโลกแข่งขันกันเพื่อเป็นเจ้าของเทคโนโลยี 5G และจีนกำลังเป็นผู้ชนะ อ้างอิงจากรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 16 เม.ย.โดย CTIA ซึ่งเป็นสมาคมการค้าสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไร้สายของสหรัฐฯ
โดยผลการศึกษา ซึ่งจัดทำโดยบริษัทวิจัยโทรคมนาคม Analysys Mason และ Recon Analytics พบว่า จีนมีความพร้อมที่สุดสำหรับเทคโนโลยีไร้สายที่เร็วที่สุดในเจเนเรชั่นต่อไป เกาหลีใต้ตามมาเป็นที่ 2 ขณะที่สหรัฐฯรั้งอันดับ 3
ทั่วโลกต่างพยายามที่จะมุ่งไปสู่โครงข่ายเทคโนโลยี 5G ซึ่งจะสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดทั้งในการขับเคลื่อนรถยนต์อัตโนมัติ เทคโนโลยีเสมือนจริงและเมืองอัจฉริยะ โดยประเทศใดที่มีโครงข่าย 5G สมบูรณ์และใช้งานได้ก่อนเป็นเจ้าแรกจะดึงดูดการลงทุนมหาศาลจากทั่วโลกและได้เปรียบในการจ้างงาน
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมไร้สายของสหรัฐฯเตรียมพร้อมที่จะอีดฉีดเงินลงทุนสูงถึง 275,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในเทคโนโลยี 5G ซึ่งจะสามารถสร้างงานใหม่ได้มากถึง 3 ล้านอัตรา และหนุนจีดีพีของประเทศได้ถึง 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อ้างอิงจากผลการศึกษาในปี 2560 ที่จัดทำโดย CITA
แต่ตอนนี้ มีความกลัวเกิดขึ้นว่า สหรัฐฯกำลังจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
“จีนเป็นผู้นำในเทคโนโลยี 5G โดยได้อานิสงส์จากการรวมกันของโมเมนตัมที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมและการสนับสนุนจากรัฐบาล” อ้างอิงจากรายงานของ CITA
โดย CITA วิเคราะห์ว่า จีนมีแผนจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ในขอบข่ายเชิงพาณิชย์ภายในปี 2563 และบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนก็สามารถทำได้ตามเวลาที่กำหนดไว้ รัฐบาลจีนเองก็สนับสนุนเงินทุนในส่วนนี้อย่างเหมาะสม
“จีนได้ประโยชน์จากการประสานความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมในส่วนของกิจการโทรคมนาคม” Dan Hays ที่ปรึกษาประจำ PricewaterhouseCoopers ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องโทรคมนาคมกล่าว
ขณะเดียวกัน เกาหลีใต้ได้โมเมนตัมที่ดีจากการเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปีนี้ ทำให้มีการจัดการล่วงหน้าทั้งการลงทุน การวิจัย และการทดสอบ อ้างอิงจากรายงาน
ส่วนสหรัฐฯ ที่อยู่อันดับ 3 ยังคงทำได้เพีงแค่การเข้าใกล้ผู้นำ โดยบริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยีไร้สายทั้ง Verizon และ AT&T ต้องการที่จะเริ่มใช้เทคโนโลยี 5G ของตัวเองในตลาดที่คัดสรรแล้วภายในสิ้นปี 2561 นี้
แม้ในสถานการณ์ปัจจุบัน สหรัฐฯจะตามหลังทั้งสองประเทศในเอเชียอยู่ แต่ผู้เชี่ยวชาญยังเชื่อว่า สหรัฐฯจะขยับขึ้นเป็นประเทศผู้นำในเทคโนโลยี 5G ได้ในที่สุด
“เราอาจเพลี่ยงพล้ำในช่วงแรกของสงคราม 5G แต่เราจะไม่แพ้ในสงครามนี้อย่างแน่นอน” Hays กล่าวอย่างมั่นใจ
ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สั่งห้ามการเข้าซื้อเพื่อควบรวมกิจการ Qualcom จาก Broadcom มูลค่า 117,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากความกังวลเรื่องความมั่นคงระดับประเทศ
สหรัฐฯกังวลว่า Broadcom ซึ่งมีนักลงทุนจากจีนเป็นบอร์ดบริหาร จะได้ประโยชน์จากการควบรวมกิจการกับ Qualcom ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนารายใหญ่ของสหรัฐฯ และได้ลงทุนทำวิจัยอย่างหนักในด้านเทคโนโลยี 5G หากมีการควบรวมกิจการเกิดขึ้น จะยิ่งหนุนให้จีนทิ้งห่างสหรัฐฯ ในเทคโนโลยีด้านนี้ออกไปอีก.