Tencent กำไรพุ่ง 74%
บริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคของจีน Tencent รายงานเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ว่า กำไรของบริษัทที่แบ่งให้ผู้ถือหุ้นพุ่งทะยานสูงขึ้นถึง 74% ในปี 2560 โดยได้อานิสงส์จากการเติบโตอย่างมั่นคงของธุรกิจหลักของบริษัท
โดยกำไรของบริษัทที่แบ่งให้ผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 71,500 ล้านหยวน หรือราว 360,360 ล้านบาทในปี 2560 อ้างอิงจากรายงานที่โพสต์บนเว็บไซต์ของบริษัท
“ เรายังเติบโตอย่างมั่นคงในทุกส่วนธุรกิจหลักของบริษัท ” บริษัทระบุ โดยอ้างถึงการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพทั้งในธุรกิจส่วนเกมออนไลน์คอนเทนต์ดิจิทัล โฆษณา การจ่ายเงิน และบริการคลาวด์
ทั้งนี้ รายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 56% มาอยู่ที่ 237,760 ล้านหยวน หรือราว 1.19 ล้านล้านบาท ในปี 2560
รายได้จากเกมพีซีเพิ่มขึ้น 13% เป็น 12,800 ล้านหยวน หรือราว 64,512 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากเกมสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น 59% มาอยู่ที่ 16,900 ล้านหยวน หรือราว 85,176 ล้านบาท และรายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้นถึง 49%
นอกจากนี้ บริษัทยังรายงานว่า สมาชิกผู้ใช้บริการเติบโตขึ้น 22% เมื่อเทียบกับปีก่อนเป็น 135 ล้านราย โดยได้แรงขับเคลื่อนจากบริการสตรีมมิงวีดีโอและเพลง
“ ในปี 2560 Tencent มีกลุยุทธ์สำคัญที่ช่วยหนุนความเป็นผู้นำของเรา ” หม่าหัวเถิง หรือ โพนี หม่า ประธานและซีอีโอของ Tencent โดยชี้ให้เห็นถึงสถานะของบริษัทที่เป็นผู้นำในบริการวีดีโอ ซึ่งมีผู้ใช้งานรายวันและสมาชิกรายเดือนสูงสุด
“ มองไปข้างหน้า เรากำลังเพิ่มการลงทุนในหลายบริการทั้งวีดีโอ การจ่ายเงิน บริการคลาวด์ เทคโนโลยี AI และค้าปลีกอัจฉริยะ ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ของเราในเวลาอันใกล้ แต่สิ่งที่เราเชื่อสามารถสร้างมูลค่าและโอกาสในการเติบโตในระยะยาว ” หม่ากล่าว
บัญชีผู้ใช้งานรายเดือนของบริการฝากข้อความ QQ อยู่ที่ 783 ล้านบัญชีในปีที่แล้ว ลดลง 9.8% จากปีก่อน ขณะที่บัญชีผู้ใช้งานรายเดือนของ Weixin และ WeChat อยู่ที่ 989 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 11.2%
เมื่อวันที่ 21 มี.ค.หุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกงลดลง 0.86% มูลค่าของบริษัทในตลาดอยู่ที่ 4.39 ล้านล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 17.73 ล้านล้านบาท สูงกว่ามูลค่า 488,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ของเฟซบุ๊ก
ทั้งนี้ หม่าหัวเถิง หรือ โทนี หม่า ประธานและซีอีโอของ Tencent เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชียในปัจจุบัน โดยเขาติดอันดับเป็นมหาเศรษฐีโลกอันดับ 17 จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์เมื่อต้นปีนี้ นอกจากนี้ Tencent ยังสยายปีกไปถือหุ้นในบริษัทชั้นนำอย่างเทสลา สแน็ปแชท และบริการสตรีมมิงเพลงอันโด่งดังอย่าง Spotify อีกด้วย.