เปลี่ยนรมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่กระทบจีน
จีนแถลงเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ว่า หวังว่าการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ จะไม่ส่งผลกระทบกับการพัฒนาความสัมพันธ์และพื้นที่สำคัญของความร่วมมือระหว่างกัน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ สั่งปลดนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเมื่อวันที่ 13 มี.ค. โดยระบุว่า จะแต่งตั้งนายไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการ CIA เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ อย่างไรก็ตาม ชื่อของนายปอมเปโอต้องผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาก่อน
นายลู่กัง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนระบุในการแถลงข่าวประจำวันว่า นายทิลเลอร์สันยังคงมีความใกล้ชิดกับจีนในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศ และจีนชื่นชมความพยายามของเขาในการส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
เขากล่าวว่า จีนหวังที่จะทำงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของสหรัฐฯ เพื่อคงการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีให้แข็งแรงและมีเสถียรภาพ
โดยเสริมว่า จีนหวังที่จะประสานความร่วมมือกับสหรัฐฯในประเด็นสำคัญระหว่างประเทศและภูมิภาค
“ เราหวังว่าโมเมนตัมที่ดีในสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งเจตนาที่ดีทางการเมืองจากทั้งสหรัฐฯและเกาหลีเหนือเพื่อพูดคุยกันโดยตรงจะยังคงอยู่ต่อไป ” นายลู่กล่าว
ไม่กี่ชั่วโมงหลังถูกปลด นายทิลเลอร์สันกล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยเรียกร้องให้มีช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านที่ดีไปสู่นายปอมเปโอ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในกระทรวงต่างประเทศให้มุ่งมั่นทำงานในหน้าที่อย่างเต็มกำลัง
โดยเขายังได้พูดถึงสิ่งที่ต้องทำต่อไปว่า “ ยังคงมีงานอีกมากที่ต้องทำเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนของความสัมพันธ์ในอนาคตกับจีน เราจะต้องดีลกับอีกประเทศหนึ่งตลอด 50 ปีข้างหน้า และจะเป็นช่วงเวลาของความมั่งคั่งของเรา ปลอดจากความขัดแย้งระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ ”
นายทิลเลอร์สันกล่าวว่า เขาได้มอบหมายงานอย่างเป็นทางการให้กับกับนายจอห์น ซัลลิแวน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ และเขาจะทำงานจนถึงวันที่ 31 มี.ค.นี้
Jessica Chen Weiss ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยคอร์แนล และผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศจีนให้ความเห็นว่า จนถึงตอนนี้ มีสัญญาณบ่งชี้เพียงเล็กน้อยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ยังฟังความเห็นของที่ปรึกษาของเขา ขณะที่มีสัญญาณที่เด่นชัดว่าที่ปรึกษาของเขาต้องทำตามการตัดสินใจของเขา
“ นายปอมเปโอเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ แต่ก็มีประสบการณ์ด้านการทูตเพียงเล็กน้อย ดังนั้น ผู้นำในเอเชียและทั่วโลกยังคงต้องคาดเดาจากทวีตของทรัมป์และการตัดสินใจว่า สหรัฐฯ มีแผนจะใช้กลุยทธ์ใหม่ๆอะไรต่อไป ” เธอระบุในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา
เหรินจงจี รองประธานสถาบันการศึกษานานาชาติของจีน กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลชี้ให้เห็นว่า ผู้นำสหรัฐฯต้องการจัดตั้งทีมให้แข็งแกร่งเพื่อทำให้นโยบายของเขาสำเร็จลุล่วง ซึ่งไม่ใช่งานที่ง่ายเลย
เขากล่าวว่า ความสัมพันธ์จีน – สหรัฐฯ จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก “ ทรัมป์กำหนดนโยบายสหรัฐฯ ที่มีต่อจีน และการเปลี่ยนแปลงในระดับสูง การสื่อสารและความร่วมมือในประเด็นสำคัญระหว่างสองประเทศจะไม่ถูกกระทบ และจะมีการปรับปรุงมากยิ่งขึ้น ”
โดยเขาเสริมว่า หนทางเดียวที่จะจัดการความแตกต่างคือ ต้องมีการสื่อสารและปรึกษาหารือกัน ซึ่งจะเป็นการปรับเปลี่ยนผลประโยชน์ของทั้งสองชาติให้สอดคล้องกัน.