ภาคการผลิตจีนชะลอตัว

การเติบโตในภาคการผลิตของจีนในเดือนก.พ.ชะลอตัวเกินคาดการณ์ โดยปรับลดลงมาต่ำสุดในรอบกว่า 1 – 1.5 ปี จากช่วงวันหยุดตรุษจีนและกฎหมายควบคุมมลภาวะที่เคร่งครัดยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ที่เผยแพร่อย่างเป็นทางการของจีนร่วงลงมาอยู่ที่ 50.3 จุดในเดือนก.พ. จากเดิม 51.3 จุดในเดือนม.ค. แต่ยังคงสูงกว่า 50 จุด ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่แยกการเติบโตออกจากการหดตัวบนพื้นฐานข้อมูลในแต่ละเดือน
ซึ่งทำให้ภาคการผลิตของจีนยังคงเติบโตต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 20 แล้ว แต่การลดลงอย่างชัดเจนอาจก่อให้เกิดความกังวลสำหรับกลุ่มผู้นำจีน เนื่องจากกำลังมีการเตรียมความพร้อมที่จะจัดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ ( NPC) ในสัปดาห์หน้าในกรุงปักกิ่ง และจะมีการเปิดเผยเป้าหมายตัวเลขทางเศรษฐกิจของปี 2561 นี้ด้วย
โดยก่อนหน้านี้ ผลการสำรวจจากนักวิเคราะห์ของรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่าดัชนีจะปรับลดลงมาเล็กน้อยอยู่ที่ 51.2 จุด
ขณะที่ดัชนีสำหรับผลผลิตอยู่ที่ 50.7 จุด ลดลงมาจากเดิมคือ 53.5 จุดในเดือนม.ค.เนื่องจากวันหยุดยาวช่วงตรุษจีนส่งผลกระทบต่อกิจกรรมโรงงาน คำสั่งซื้อใหม่ทั้งหมดเลื่อนขยายเวลาออกไปและชะลอตัวลงในเดือนก.พ.
เชื่อว่าผู้ผลิตเหล็กบางราย จะมีการลงทุนในวัตถุดิบเช่น แร่เหล็ก เพื่อให้สามารถคืนกำลังการผลิตได้เต็มรูปแบบเมื่อกฎข้อบังคับเรื่องหมอกควันในฤดูหนาวถูกยกเลิกในไม่กี่สัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม ยังมีสัญญาณว่าจีนยังคงควบคุมมลพิษอย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง โดยในเมืองผลิตเหล็กชั้นนำอย่างถังซานเสนอกฎระเบียบการควบคุมการผลิตใหม่ เมื่อกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันหมดอายุลงในเดือนมี.ค.
โดยดัชนี PMI ในภาคการผลิตเหล็กลดลงเหลือ 49.5 จุดในเดือนก.พ.จากเดิม 50.9 จุดในเดือนม.ค.
การเฉลิมฉลองช่วงวันหยุดตรุษจีนช่วยหนุนการใช้จ่ายในการบริโภคเดือนนี้ แม้สำนักงานสถิติระบุว่า บริการภาคอสังหาริมทรัพย์และการเงินชะลอตัวลง โดยภาคค้าปลีกและบริการจัดอาหารตามงานมียอดขายสูงถึง 926,000 ล้านหยวนหรือราว 4.70 ล้านล้านบาทในช่วงวันหยุดตรุษจีน
ทั้งนี้ ภาคบริการมีสัดส่วนคิดเป็นมากกว่าครึ่งของเศรษฐกิจของจีน และด้วยค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นช่วยให้ผู้บริโภคชาวจีนมีอำนาจในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
ผู้กำหนดนโยบายของจีนกำลังพึ่งพาการเติบโตในภาคบริการและการบริโภคเพื่อปรับสมดุลรูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจ จากที่เคยพึ่งพาอย่างหนักในการลงทุนและการส่งออก
โพลล์นักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์คาดการณ์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 6.5% ในปีนี้ เนื่องจากตลาดอสังหาริม
ทรัพย์ไม่ร้อนแรงเหมือนที่ผ่านมา และจากการกดดันของภาครัฐเพื่อลดความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของกิจกรรมทางการเงิน ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนค่าใช้จ่ายในการกู้ยืม
นักวิเคราะห์และตลาดการเงินมีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า รัฐบาลจะประกาศเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของปี 2561 อยู่ที่ประมาณ 6.5% ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ ซึ่งเป็นตัวเลขที่เท่ากับเมื่อปีที่แล้ว
ดัชนี PMI ที่ครอบคลุมทั้งการผลิตและบริการอยู่ที่ 52.9 จุดในเดือนก.พ. ลดลงมาจากค่าที่อ่านได้เดิมคือ 54.6 จุดในเดือนม.ค. แต่ยังคงอยู่เหนือ 50 จุด ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่แยกการเติบโตกับการหดตัวออกจากกัน.