ภาคบริการจีนโตสุดในรอบ 6 ปี
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2019/10/y-12.jpg)
ภาคบริการของจีนมีการขยายตัวเติบโตเร็วที่สุดในรอบเกือบ 6 ปี จากออร์เดอร์ที่พุ่งทะยานและหลายบริษัทมีการจ้างพนักงานเพิ่ม อ้างอิงจากผลสำรวจของภาคเอกชนที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 5 ก.พ.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของ Caixin/Markit พุ่งทะยานขึ้นแบบก้าวกระโดดถึง 54.7% ในเดือนม.ค. จากเดิม 53.9% ในเดือนธ.ค.ปี 2560 ทำสถิติเป็นตัวเลขที่อ่านได้สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปี 2555 เป็นต้นมา
โดยในดัชนี หากตัวเลขสูงเกิน 50 จุด จะถือว่าเป็นการเติบโตจากการหดตัวบนพื้นฐานของตัวเลขในแต่ละเดือน
ตัวเลขที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนไปในทิศทางเดียวกับตัวเลขของภาครัฐอย่างเป็นทางการในภาคที่ไม่ใช่การผลิตในสัปดาห์ที่แล้ว เป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับเป้าหมายในระยะยาวของจีนที่จะยกเครื่องและปรับเปลี่ยนรูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น
รัฐบาลจีนกำลังพึ่งพาการเติบโตในการบริโภคและบริการ โดยเฉพาะในภาคส่วนที่มีมูลค่าสูง เช่น การเงินและเทคโนโลยี เพื่อลดการพึ่งพาทางเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม เช่น อุตสาหกรรมหนัก การลงทุนและการส่งออก
โดยภาคส่วนบริการมีมูลค่าคิดเป็นมากกว่าครึ่งของเศรษฐกิจจีน ด้วยค่าจ้างที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคมีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ผลสำรวจของ Caixin ชี้ว่า มีธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 32 เดือน จากการขานรับที่เชื่อมโยงกับโครงการใหม่ๆ การขยายตัวของบริษัท และความพยายามมากขึ้นที่จะชนะใจลูกค้าใหม่ เป็นผลทำให้บริษัทมีการจ้างพนักงานเพิ่มด้วยอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 5 เดือน
อย่างไรก็ตาม การมองในแง่บวกของบริษัทเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจในปีหน้าลดต่ำลงสูงสุดในรอบ 4 เดือน เนื่องจากมีความกังวลว่าสภาพเศรษฐกิจอาจอ่อนแรงลงได้
อัตราผลกำไรยังคงถูกกดดัน เนื่องจากหลายบริษัทรายงานการเติบโตของค่าใช้จ่ายของวัตถุดิบ การคมนาคมขนส่ง และเงินเดือน ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า บริษัทกำลังประสบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากที่จะต้องผลักภาระใช้จ่ายที่สูงขึ้นไปให้กับผู้บริโภค
โดยแรงขับเคลื่อนจากตัวเลขที่แข็งแกร่งทั้งภาคบริการและภาคการผลิต ทำให้ดัชนี PMI เพิ่มขึ้นเป็น 53.7 จุดในเดือนม.ค. เมื่อเทียบกับ 53.0 จุด ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว และสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปี 2554 เป็นต้นมา
“ เมื่อมองไปข้างหน้า เราควรมองเห็นเสถียรภาพของดีมานด์ในอุตสาหกรรมการผลิตและผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นกับผลกำไรของผู้ให้บริการ ” จงเจิ้งเช็ง หัวหน้านักวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่ CEBM Group ให้ความเห็น
จีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก เพิ่งรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่เติบโตอยู่ที่ 6.9% ในปี 2560 สูงกว่าที่รัฐบาลเคยคาดการณ์ไว้คือประมาณ 6.5%
โพลล์จากนักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์คาดการณ์ว่า จีดีพีของจีนในปีนี้จะอยู่ที่ 6.5% เนื่องจากปัจจัยที่อาจฉุดรั้งตัวเลขคือค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมสูงขึ้น การแก้ไขปัญหามลพิษในอากาศ และตลาดที่อยู่อาศัยที่ลดความร้อนแรงลง
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของภาคบริการที่ยังบูมต่อไป อาจช่วยให้เกิดเรื่องเซอร์ไพรส์ในด้านดีมากขึ้นก็เป็นได้.