UK ดีลจีนเกือบหมื่นล้านปอนด์
นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์แห่งสหราชอาณาจักรเดินทางออกจากจีนเมื่อวันที่ 2 ก.พ.พร้อมดีลการค้ามูลค่ามากกว่า 9,300 ล้านปอนด์ หรือราว 418,485 ล้านบาท หลังจากจบ 3 ภารกิจดีลการค้าซึ่งประธานาธิบดีสีจิ้นผิงให้คำมั่นที่จะยกระดับให้เป็น ‘ยุคทอง’ ของความสัมพันธ์ระหว่างกัน
สหราชอาณาจักรพยายามจะลงทุนใหม่กับตลาดการค้าทั่วโลกหลังจากมีการโหวตลงมติให้แยกตัวจากสหภาพยุโรปในปี 2559 และจีน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกก็มีความดึงดูดใจสูงในรายชื่อประเทศที่สหราชอาณาจักรต้องการลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีด้วย
ในการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมกลุ่มธุรกิจในจีนในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเมืองหลวงทางการค้าของจีน นายกฯเมย์แสดงออกถึงความสามารถในการช่วยเปิดวิสัยทัศน์แนวโลกาภิวัตน์และเปิดกว้างให้ประเทศจีน
“สหราชอาณาจักรเตรียมพร้อมที่จะออกจากสหภาพยุโรป เรากำลังคว้าโอกาสที่จะกลายเป็นประเทศที่เป็นโลกาภิวัตน์มากขึ้น มีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ลึกซึ้งขึ้นกับหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งจีนด้วย” นายกฯเมย์กล่าว
การลงทุนของจีนช่วยสหราชอาณาจักรในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสร้างงาน ด้วย 50,000 ธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีน และมากกว่า 10,000 ธุรกิจของสหราชอาณาจักรที่ส่งออกสินค้าไปจีน เธอเสริม
“เราเห็นพ้องที่จะมีการเคลื่อนไหวมากขึ้นในการส่งสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงไปจีน เพื่อเปิดตลาดให้กับผู้ให้บริการทางการเงินระดับโลกของสหราชอาณาจักร” เธอกล่าวเสริม
ข้อตกลงการค้าจำนวน 9,300 ล้านปอนด์จะสร้างงานได้มากกว่า 2,500 อัตราทั่วสหราชอาณาจักร รัฐบาลอังกฤษระบุ โดยบริษัทให้บริการทางการเงินช่วยทำให้เกิดดีลการค้าที่มั่นคงมากกว่า 1,000 ล้านปอนด์และการเข้าถึงตลาด ซึ่งจะช่วยสร้างงานประมาณ 890 อัตรา แต่ทางรัฐบาลไม่ได้ให้รายละเอียดมากกว่านี้
จีนมองว่าสหราชอาณาจักรเป็นพันธมิตรสำคัญในการเปิดตลาดทั่วโลก แม้จะมีความกังวลแพร่ไปในกลุ่มธุรกิจต่างชาติเกี่ยวกับความยุ่งยากในการดำเนินธุรกิจในจีน และทั้งสองประเทศอ้างถึง ‘ ยุคทอง’ ในความสัมพันธ์ระหว่างกัน
ทั้งนี้ การประชุมในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ประธานาธิบดีสีกล่าวกับนายกฯเมย์ว่า ทั้งสองประเทศควรเพิ่มความหมายในความสัมพันธ์ทวิภาคีเพื่อให้เกิดเป็นยุคทอง อ้างอิงจากสื่อภาครัฐ
จีนรู้สึกพอใจความกระตือรือร้นของสหราชอาณาจักรที่ให้ความสนใจกับธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชียที่จีนสนับสนุนและนโยบาย Belt and Road Initiative เพื่อสร้างเส้นทางสายไหมใหม่
จากบทบรรณาธิการต่างประเทศของสื่อ People’s Daily เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ระบุว่า สหราชอาณาจักรได้แสดงออกถึงความรู้ความเข้าใจในหลักปฏิบัติในการสนับสนุน Belt and Road
“เป็นต้นแบบสำหรับประเทศตะวันตกประเทศอื่นๆ” สื่อระบุ แต่เบร็กซิททำให้ทางจีนขวัญเสียและแสดงความกังวลถึงการสูญเสียเสียงสำคัญในการสนับสนุนการค้าเสรีในสหภาพยุโรปและสิ่งที่อาจมีความหมายในการเข้าถึงตลาดยุโรปสำหรับบริษัทของจีนที่ลงทุนในสหราชอาณาจักรอยู่ก่อนแล้ว
นายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงกล่าวกับนายกฯ เมย์เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ว่า ความสัมพันธ์ของจีนกับสหราชอาณาจักรจะยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแม้หลังจากเบร็กซิทแล้วก็ตาม.