ไต้หวันเตือนพลเมืองอย่าไปฮ่องกง / จีน
ฮ่องกง (CNN) – พรรคการเมืองที่เป็นพรรครัฐบาลของไต้หวันเตือนพลเมืองไม่ให้เดินทางไปฮ่องกง หรือจีนแผ่นดินใหญ่ โดยระบุว่าสถานการณ์ “ร้ายแรง” หลังจากนักธุรกิจไต้หวันถูกควบคุมตัวหลังจากไปเยือนฮ่องกง
โดยลีเมิ่งชู วัย 43 ปี หายตัวไปหลังจากเขาข้ามพรมแดนจากฮ่องกงไปเมืองเซินเจิ้นของจีนเมื่อวันที่ 19 ส.ค. เฉินหย่าหลิน เพื่อนของเขาเป็นคนรายงานเรื่องนี้ เพราะทั้งคู่มีนัดที่จะต้องพบกันที่สนามบินกรุงจาการ์ตาอีกสองวันต่อมา โดยเฉินระบุว่าลีได้เข้าร่วมการประท้วงในฮ่องกงก่อนที่จะข้ามพรมแดน
เมื่อวันที่ 11 ก.ย. โฆษกประจำสำนักบริหารกิจการไต้หวันของจีนยืนยันว่า ลีถูกสอบสวนในข้อหา “ กระทำการอันเป็นภัยต่อความมั่นคงของจีน” โดยโฆษกไม่ได้ให้รายละเอียดในข้อหาของลี
ขณะที่โฆษกหญิงของพรรครัฐบาลไต้หวันคือ Democratic Progressive Party (DPP) ระบุว่า การควบคุมตัวครั้งนี้ก่อให้เกิดความกลัวในไต้หวันเกี่ยวกับความปลอดภัยของนักเดินทางที่จะไปฮ่องกง หรือจีนแผ่นดินใหญ่
“สถานการณ์ในฮ่องกงและจีนนั้นรุนแรงและควรลดการเดินทางลง หากคุณต้องไปจริงๆ คุณต้องใส่ใจกับความปลอดภัยของตัวคุณให้มาก และให้ข้อมูลกับเพื่อนหรือญาติว่าคุณอยู่ที่ไหน” โฆษกระบุในถ้อยแถลง
ไต้หวันปกครองตนเองมาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองในจีนเมื่อปี 2492 โดยพรรคคอมมิวนิสต์ปกครองจีน และรัฐบาลแห่งชาติต้องหลบหนีมาที่เกาะไต้หวัน หลังจากนั้น ไต้หวันก็เปลี่ยนผ่านการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย แต่จีนก็ไม่ละความพยายามที่จะควบคุมไต้หวัน
ความตึงเครียดข้ามช่องแคบยิ่งเลวร้ายลงเมื่อการประท้วงในฮ่องกงเริ่มขึ้นในเดือนมิ.ย.ที่มีชนวนจากกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างฮ่องกงกับจีน ทางการฮ่องกงระบุว่ากฎหมายฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่ออุดช่องโหว่ของกฎหมายเดิมและทำให้ฮ่องกงส่งฆาตกรชาวฮ่องกงไปไต้หวันได้ แต่ไต้หวันระบุว่าจะไม่ร่วมมือกับกฎหมายนี้ที่มีความเสี่ยงกับพลเมืองที่ถูกส่งไปจีน
ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินของไต้หวันยังได้ประกาศสนับสนุนผู้ประท้วงอย่างชัดเจน โดยระบุว่าเธอจะพิจารณาให้สถานะผู้ลี้ภัยกับบรรดาผู้ประท้วง
ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนในขณะนี้ว่าการควบคุมตัวลีเกี่ยวข้องกับการเข้าร่วมในการประท้วงเมื่อวันที่ 18 ส.ค.หรือไม่ จากข้อมูลของเพื่อนเขา ลีเป็นผอ.ของ United Nations Association for the Advancement of Taiwan ซึ่งเป็นองค์กรที่สนับสนุนการเข้าร่วมสหประชาชาติของไต้หวัน
โดยเฉินระบุว่า แม้ลีจะเป็นนักกิจกรรมทางการเมือง แต่ลีไม่มีความรู้สึกที่ไม่ดีกับจีน และไม่เคยวิจารณ์รัฐบาลจีน หรือพรรคคอมมิวนิสต์ เขาเสริมว่า ลีมักจะเดินทางไปทำธุระที่จีนหลายครั้งต่อปี
ครอบครัวของลียืนยันว่าเขาไม่เป็นภัยกับปักกิ่ง และเรียกร้องให้รัฐบาลจีนอธิบายเรื่องการควบคุมตัวนี้ ในแถลงการณ์ ครอบครัวระบุว่าลีเป็น “แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง”.