‘เซี่ยงไฮ้’ ปิดเมือง 9 วัน ตรวจโควิดชาวบ้าน 26 ล้านคน
มหานครเซี่ยงไฮ้ “ล็อกดาวน์” ปิดเมือง 9 วัน แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน เร่งตรวจเชื้อโควิด-19 ประชากรทั้งหมด 26 ล้านคน ซูเปอร์มาร์เก็ตของขาด ผู้คนพากันแห่ซื้อกักตุนอาหาร
ทางการมหานครเซี่ยงไฮ้ ประกาศ “ล็อกดาวน์” ปิดเมือง 9 วัน นับตั้งแต่วันจันทร์ 28 มี.ค.ถึงวันที่ 5 เม.ย. แบ่งพื้นที่เมืองเป็น 2 ส่วน คือ ด้านตะวันตกและตะวันออกฝั่งแม่น้ำฮวงผู่ที่ไหลผ่ากลางเมือง และเร่งระดมตรวจหาเชื้อโควิด-19 แก่ประชากรทั้งหมดประมาณ 26 ล้านคน แบ่งเป็นช่วงวันที่ 28 มี.ค.ถึง 1 เม.ย. กับช่วงวันที่ 1 เม.ย. ถึง 5 เม.ย. สั่งปิดระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ห้ามรถยนต์ทุกชนิดวิ่งบนท้องถนน ยกเว้นรถหน่วยงานราชการ หน่วยแพทย์และรถส่งอาหาร
ทั้งนี้ ตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทางการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เฉลี่ยวันละมากกว่า 3,400 – 4,300 ราย จากที่เคยพบเฉลี่ยวันละ 1,200 ราย แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างเป็นทางการทั้งประเทศจีน ยังอยู่ที่ 145,808 ราย ผู้เสียชีวิต 4,638 ราย ท่ามกลางนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ชาวบ้านจำนวนมากพากันแสดงออกผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ระบุ เรื่องนี้ทำได้ยาก ทั้งต้องใช้งบประมาณดำเนินการมหาศาล
ขณะเดียวกัน ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากมาตรการ “ล็อกดาวน์” ทำให้ผู้คนต่างพากันแห่ซื้อกักตุนอาหารและของใช้จำเป็นตามซูเปอร์มาร์เก็ต จนชั้นที่วางของแทบว่างเปล่า บริษัทต่างชาติมากมายต้องหยุดดำเนินการ รวมถึงบริษัทเทสลา โฟล์คสวาเกนและบริษัท SMIC ผู้ผลิตไมโครชิพรายใหญ่ที่สุดของประเทศ แต่สนามบินนานาชาติ ท่าเรือและภาคการผลิตสินค้าบางชนิด ได้รับอนุญาตเปิดดำเนินการได้เป็นช่วงๆ
ก่อนหน้านี้ ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนควบคุมการระบาดโควิด-19 ภายในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สถานการณ์แย่ลงหลังเกิดการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน.