ยักษ์ใหญ่ไฮเทคจีนถูกปรับผูกขาดการค้า
ปักกิ่ง – เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ทางการจีนสั่งปรับ 11 บริษัท รวมทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคอย่างเทนเซนต์ จากการเข้าซื้อกิจการและร่วมลงทุนที่ทางการจีนมองว่าเป็นการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดทางการค้า
บทลงโทษนี้มีขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังจากบริษัทยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอย่างอาลีบาบาถูกหน่วยงานที่กำกับดูแลตลาดของจีนสั่งปรับเป็นจำนวนสูงถึง 2,780 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( หรือราว 86,597 ล้านบาท) โดยผลการสอบสวนพบว่าอาลีบาบาละเมิดกฎหมายด้วยการผูกขาดการค้าอย่างชัดเจน
12 บริษัทเทคโนโลยี รวมทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเทนเซนต์ , ไป่ตู้ และไบต์แดนซ์ ถูกสั่งปรับด้วยจำนวนน้อยกว่าในเดือนมี.ค.จากข้อกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดการค้าเช่นกัน
หน่วยงานที่กำกับของจีนดูแลคุมเข้มกฎหมายมากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของประเทศ และแจ้งให้ผู้นำองค์กรในอุตสาหกรรมแก้ไขปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ผูกขาดการค้า
รัฐบาลจีนแสดงความกังวลเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทเอกชนสามารถเข้าถึงระบบการเงินรายวันของประชาชน โดยหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการเงินเรียกบริษัทอินเทอร์เน็ตที่ดำเนินธุรกิจเทคโนโลยีด้านการเงินเข้าพบในสัปดาห์นี้เพื่อเตือนเรื่องการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
ในวันที่ 30 เม.ย. หน่วยงานที่กำกับดูแลด้านตลาดของจีนระบุว่า พบ 9 กรณีที่ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดการค้า ด้วยการสร้างการดำเนินการทางธุรกิจ “ที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน”
โดย State Administration for Market Regulation ระบุว่า ได้สั่งปรับแต่ละบริษัทเป็นจำนวน 500,000 หยวน (หรือราว 2.4 ล้านบาท)
แต่ทางหน่วยงานชี้แจงว่า กรณีการละเมิดกฎหมายที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นการระงับ หรือห้ามไม่ให้มีการแข่งขัน โดยกรณีหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเทนเซนต์ บริษัทพบว่าผิดพลาดที่ไม่ได้ชี้แจงการเข้าซื้อบริษัทบริการรถยนต์ Shanghai Lantu Information Technology
บริษัทแห่งอื่นที่ถูกปรับคือ Didi Intelligent Transportation Technology จากกรณีเหมือนกันคือ ไม่ชี้แจงการร่วมทุน และ Suning Rundong Equity Investment Management ไม่ได้ชี้แจงเรื่องการเข้าซื้อกิจการ