เศรษฐกิจจีนปี 63 โต 2.3%
เมื่อวันที่ 18 ม.ค. จีนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่เติบโต 2.3% ในปี 2563 ขณะที่ทั่วโลกยังคงยากลำบากในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดยจีดีพีขยายตัวเติบโต 6.5% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากรายงานของสำนักสถิติแห่งชาติของจีน โดยตัวเลขการเติบโตสูงเกินกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคชาวจีนยังคงใช้จ่ายเงินน้อยลง ทำให้การค้าปลีกหดตัวลง 3.9% ในปี 63 การค้าปลีกในไตรมาส 4 เติบโต 4.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ยอดขายออนไลน์ของสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัวเติบโตอย่างรวดเร็วถึง 14.8% ในปีที่แล้ว จากตัวเลขของสำนักงานสถิติแห่งชาติ แต่สัดส่วนของยอดขายค้าปลีกโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 1 ใน 4
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจีนเป็นเพียงประเทศมหาอำนาจประเทศเดียวที่เศรษฐกิจเติบโตในปีที่แล้ว และทำนายว่าจีดีพีในปี 2563 จะขยายตัวเกิน 2% โดยโพลของรอยเตอร์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 6.1% ในไตรมาส 4 สูงกว่า 4.9% ของไตรมาสก่อนหน้า
ทางการจีนพยายามปรับให้เศรษฐกิจพึ่งพาดีมานด์ในประเทศมากขึ้น มากกว่าที่จะเป็นการเติบโตจากแรงขับเคลื่อนแบบเดิม เช่น การลงทุน
เมื่อวันที่ 15 ม.ค. หนิงจี๋เจ้อ หนึ่งในคณะกรรมาธิการของสำนักงานสถิติแห่งชาติกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับปี 2563 การบริโภคคิดเป็น 54.3% ของจีดีพี ซึ่งต่ำกว่า 57.8% ของจีดีพีในปี 2562
บรูซ แปง ผอ.ฝ่ายวิจัยกลยุทธ์ที่ China Renaissance คาดการณ์ว่า การค้าปลีกจะฟื้นตัวในปีนี้ โดยจะเติบโตเกิน 10% จากระดับในปีก่อนหน้า บางส่วนเป็นผลจากการที่ผู้บริโภคใช้จ่ายมากขึ้นจากเงินออมของปีที่แล้ว
โควิด-19 อุบัติขึ้นครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่นช่วงปลายปี 2562 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส ทางการจีนชัทดาวน์เมืองและธุรกิจกว่าครึ่งประเทศ และเศรษฐกิจหดตัวลง 6.8% ในไตรมาสปี 2563
มีการติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ของจีนในปีนี้ โดยมณฑลหูเป่ยมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ตั้งแต่ต้นปี
โดยหนิงระบุว่าการแพร่ระบาดอีกระลอกของไวรัสก่อให้เกิดความผันผวนมากขึ้น และส่งผลต่อการค้าปลีก แต่เขาระบุว่า สามารถควบคุมการแพร่ระบาดระลอกล่าสุดได้เพราะจีนมีประสบการณ์ในปีที่แล้ว
ขณะที่ดัชนีเศรษฐกิจบางตัวสูงเกินปีที่แล้ว แต่บางตัวก็ไม่ใช่ หนิงระบุว่า ปัญหาบางอย่างของจีนไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวกลับมาเติบโตได้ในไตรมาส 2
ในช่วงปลายเดือนธ.ค. สำนักงานสถิติแห่งชาติลดอัตราการเติบโตอย่างเป็นทางการของปี 2562 อยู่ที่ 6.0% เมื่อเทียบกับ 6.1% ที่มีรายงานก่อนหน้านี้ เป็นผลกระทบจากการผลิต เนื่องจากโรงงานต้องจัดการกับมาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ที่จัดเก็บกับสินค้าจีน