สรุปข่าวประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2564
หุ้นไทยสัปดาห์หน้า : บล.กสิกรไทย คาดดัชนีหุ้นไทยช่วง 2-6 ส.ค. มีแนวรับที่ 1,500 และ 1,485 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,545 และ 1,555 จุด ตามลำดับ
โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุม กนง. (4 ส.ค.) สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ และมาตรการในการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ รวมถึงการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/64 ของบจ. ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนก.ค. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนก.ค. ของยูโรโซน ญี่ปุ่นและจีน
น้ำมันขึ้นต่อ : ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้ายังคงปรับขึ้นต่อไป โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก เดือน ก.ย. เช้านี้ +0.10 ดอลลาร์/บาร์เรล (+0.14%) ปิดที่ 73.72 ดอลลาร์/บาร์เรล เช่นกัน สัญญาซื้อข่ายล่วงหน้าของน้ำมันเบรนท์ เดือน ต.ค. +0.04 ดอลลาร์/บาร์เรล (+0.05%) ปิดที่ 75.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันขายปลีกในไทย หลังเพิ่งปรับขึ้นไปเมื่อ 2 วันก่อนหน้านี้ แต่เมื่อราคาในตลาดโลกขยับ คงต้องจับตาดูกันต่อไป.
ทองโลกขาลง : ราคาขายทองคำ Spot ดอลลาร์สหรัฐ ที่ปิดตลาดช่วงเช้า ตรงกับ 1 ส.ค.ของไทย ลดแรงถึง -14.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (-0.78%) ปิดที่ 1,814.07 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เช่นเดียวกับที่ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำเมื่อ 31 ก.ค. เพียงครั้งเดียว ลดลงจากราคาปิดวานนี้ 100 บาท กำหนดราคาซื้อทองคำแท่ง บาทละ 28,200 บาท ขาย 28,300 บาท ขณะที่ราคาซื้อทองคำรูปพรรณ 27,697.32 บาท และขาย 28,800 บาท.
ค่าบาทสัปดาห์หน้า : แบงก์กสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทช่วง 2-5 ส.ค. เคลื่อนไหวในกรอบ 32.65-33.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยมีปัจจัยสำคัญทั้งในและต่างประเทศ เช่นเดียวกับปัจจัยของตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้าข้างต้น.
เป็น รปห.ซะงั้น : ท่ามกลางกระแสต่อต้านการออก กม.ปิดปากสื่อและประชาชนของรัฐบาล จู่ๆ กลับมีข่าวการรัฐประหารออกมา ท่ามกลางความงุนงงสงสัยของสังคมไทย กับต้นตอข่าวดังกล่าวที่แม้แต่สื่อและประชาชนเอง ยัง “ตกข่าว” นี้ กระนั้น กองทัพไทยและกองทัพบก ต่างก็ออกมาชี้แจงว่า ตามที่ปรากฏข่าว ผบ.ทบ.ทำการรัฐประหารและนำกำลังเข้าควบคุมตัวบุคคลสำคัญนั้น ข่าวดังกล่าวเป็นข่าวเท็จ ที่หวังสร้างเรื่องให้เกิดความวุ่นวายในสังคม จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ โดย ผบ.ทบ. มอบหมายให้นายทหารพระธรรมนูญแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตํารวจเพื่อดําเนินการตามกม.ต่อผู้ที่ปล่อยข่าวแล้ว.
ส่อล็อกดาวน์เพิ่ม : การประชุม ศบค.ชุดใหญ่นัดประชุมในวันที่ 1 ส.ค.นี้ มีแนวโน้มจะขยายเวลาล็อกดาวน์ในพื้นที่ 10+ 3 จ. เดิมออกไปอีก 14 วัน หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่และคนตายเพิ่มขึ้นสูงมาก ส่วนจะขยายเพิ่มเติมไปยัง จ.อื่นๆ หรือไม่ คงต้องรอฟังความเห็นจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มนายแพทย์ใน ศบค. อีกประเด็นที่ต้องจับตาคือ การลักลอบเข้าเมืองของชาวเมียนมา ตลอดแนวชายแดนกว่า 2.4 พันกม. หลังปัญหาการเมืองภายใน ทำผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเมียนมาเพิ่มขึ้นจนน่าใจหาย.
ฉีด 10 ล.โดสต่อด. : นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สธ. ระบุช่วงการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม รพ.สนาม จ.บุรีรัมย์ ซึ่งภาครัฐและเอกชนจัดสร้างเพื่อรองรับชาวบุรีรัมย์ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อยู่ตามจังหวัดต่างๆ กลับมารักษายังภูมิลำเนา ว่า ในวัคซีนได้รับวัคซีนฯมาแล้ว จะเร่งเดินหน้าฉีดให้กับประชาชนให้ครอบคลุมมากที่สุด โดยจะกระจายวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆทั่วประเทศอย่างสม่ำเสมอ เฉลี่ยฉีดวัคซีนให้ได้เดือนละ 10 ล้านโดส เพื่อลดความรุนแรงของการระบาด และลดจำนวนผู้ติดเชื้อ.
น้ำใจจากจีน : สถานทูตจีนในไทยมอบรถตรวจโควิดฯ (Biosafety Mobile Unit) จำนวน 2 คันให้กับให้ ก.สาธารณสุขไทย เพื่อช่วยให้รัฐบาลไทยเดินหน้าตรวจค้นหาเชื้อในวงกว้าง และต่อสู้กับโควิด-19 อันเป็นการแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพระหว่างจีน-ไทย ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้ช่วยเหลือและมอบหน้ากากอนามัย ชุดตรวจ (Test Kit ) หน้ากาก N95 และชุด PPE แก่รัฐบาลไทยมาตั้งแต่ที่มีการระบาดของโควิดฯ ทั้งยังส่งวัคซีนมาไทยรวม 19.5 ล้านโดส และจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อไป.
หมอสวน “บังซา” : เป็นทั้งจิตอาสาและผู้ป่วยโควิดฯ ถือว่า “บังซา” ดังมากในโลกโซเชียล หลังไลฟ์สดปัญหาการทำงานภายใน รพ.บุษราคัม แล้วเจ้าตัวระบุว่าถูกเชิญออก! ล่าสุด ผอ. รพ.บุษราคัม ชี้ว่า กรณีนี้ “บังซา” อยู่รักษาครบ 7 วันแล้ว ต้องกลับไปรักษาต่อที่บ้าน ส่วนการไลฟ์สด ถือเป็นการสะท้อนแง่มุมภาระงานของ จนท. ไม่เห็นมีการตำหนิเแต่อย่างใด เชื่อว่าไม่ได้มีเจตนาอะไร แต่ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ถือเป็นสิทธิของผู้ป่วย การจะไลฟ์สดจะต้องขออนุญาตผู้ป่วยและรพ. ซึ่งเป็นวิธีการปกติตามกฎหมาย.
มอบเงินเหยื่อโควิดฯ : นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกฯ ระบุ คกก.บริหารจัดการเงินบริจาคและทรัพย์สินเพื่อสนับสนุนการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากโควิดฯ ได้ประชุมฯ ครั้งที่ 4/64 ผ่านระบบออนไลน์ และเห็นชอบมอบเงินช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และจนท.สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ฯ รวม 26 รายเป็นเงิน 1,135,000 บาท แยกเป็น บุคลากรทางการแพทย์ที่เสียชีวิตจากโควิดฯ 11 ราย และจนท.สนับสนุนอีก 15 ราย.
ฟ้าทะลายโจร : ถูกตราหน้าว่าเป็น “ดาราสลิ่ม” กระนั้น สาว ตั๊ก-บงกช เบญจรงคกุล ก็ไม่หวั่นไหว ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือสังคมและเหยื่อโควิดฯต่อไป ล่าสุด มอบฟ้าทะลายโจร 5,000 เม็ด ให้แก่ สำนักรัตนไพบูลย์แม่ชีไทย เพื่อแจกจ่ายผู้ที่เดือดร้อนโควิด พร้อมโพสต์ผ่าน ไอจีส่วนตัวไว้ว่า “ขอนำบุญมาฝากนะคะทุกท่านที่ติดตามตั๊กขอให้ทุกท่านปลอดภัยจากโรคภัยโรคระบาดทั้งหลาย #ตั๊กได้สั่งทำยาฟ้าทะลายโจร 5,000เม็ด ให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อและรักษาตัวเองที่บ้านโดยมีสำนักเเม่ร่วมบุญร่วมแรงกัน”.