“เจโทร” ยาหอมพร้อมลงทุนเพิ่มในอีอีซี
อีอีซี จับมือ JETRO ชูความก้าวหน้า ขับเคลื่อน BCG สร้างโอกาสการลงทุน สู่นวัตกรรมขั้นสูง พร้อมสร้างสิทธิประโยชน์ส่งเสริม จูงใจภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนในพื้นที่ อีอีซี ต่อเนื่อง
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี กล่าวเปิดงานสัมมนา Business Opportunities in Eastern Economic Corridor ว่า การจัดสัมมนาฯ ในครั้งนี้ อีอีซี ได้รับความร่วมมือจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ JETRO เพื่อเผยแพร่ความก้าวหน้าการพัฒนา และสร้างโอกาสการลงทุนในพื้นที่อีอีซี และในประเทศไทย ต่อนักลงทุนและภาคเอกชนญี่ปุ่น รวมไปถึงการนำเสนอสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อขยายผลและจูงใจให้ภาค เอกชนญี่ปุ่น ได้เข้ามาลงทุนในพื้นที่อีอีซีต่อเนื่อง ประกอบกับต่อยอดความสัมพันธ์ของไทยและญี่ปุ่น ที่ได้สนับสนุนการลงทุนร่วมกันอย่างแน่นแฟ้น โดยปัจจุบันมีคำขอการลงทุนจากนักลงทุนญี่ปุ่นเป็นลำดับ 1 ที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงความพร้อมและศักยภาพในพื้นที่อีอีซี ที่เกิดความก้าวหน้าด้านโครงสร้างพื้นฐาน ดิจิทัล 5G และการพัฒนาบุคลากรอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความมั่นใจการเข้าลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนญี่ปุ่น และนักลงทุนทั่วโลก เพิ่มโอกาสการลงทุนในพื้นที่อีอีซีต่อเนื่อง ยกระดับการแข่งขันของประเทศ สร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน
“ในงานสัมมนาครั้งนี้ ยังเป็นเวทีรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนจากอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรับแก้ข้อขัดข้อง และอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน เพื่อสนับสนุนและร่วมพัฒนาระบบนิเวศน์การลงทุน (Business Ecosystem) ผ่านกลไก Regulatory Sandbox ในพื้นที่อีอีซี อันเป็นการสร้างพื้นที่ผ่อนปรนกฎระเบียบหรือข้อกฎหมายต่างๆ ที่ยังล้าหลังกว่า รูปแบบธุรกิจหรือการพัฒนานวัตกรรมโดยยังมีหน่วยงานรัฐกำกับดูแล”
ด้าน Mr. Junichiro Kuroda ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ JETRO กล่าวว่านโยบาย และมาตราการสนับสนุนล่าสุดของรัฐบาลญี่ปุ่นในการส่งเสริมให้ภูมิภาคเอเชียเป็นแหล่งห่วงโซ่อุปทานของโลก โดยการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจสีเขียวที่มีความยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม กรณีที่อีอีซี ได้กำหนดแผนการลงทุนระยะ 2 ตั้งเป้าหมายการลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีเงินลงทุนประมาณปีละ 400,000 – 500,000 ล้านบาท (ปี 2566 -2570) โดยจะเน้นการลงทุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ต่อยอดด้านการวิจัยและพัฒนาในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ 2.อุตสาหกรรมดิจิทัล 3.Decarbonization ครอบคลุมเรื่องยานยนต์สมัยใหม่หรือ EV ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Smart Mobility และ 4.อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ ทั้งนี้ เพื่อจูงใจดึงการลงทุนใหม่จากภาคเอกชนญี่ปุ่น และนักลงทุนทั่วโลกเข้าสู่พื้นที่อีอีซี โดยมุ่งเน้นส่งเสริมการลงทุนภายใต้ BCG โมเดล (เศรษฐกิจชีวภาพ Bioeconomy เศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy เศรษฐกิจสีเขียว Green Economy) รวมทั้งย้ำความมุ่งมั่นที่จะทำให้พื้นที่
อีอีซี เป็นพื้นที่การลงทุนอุตสาหกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่จะเป็นเทรนด์สำคัญของโลกเพิ่มแรงจูงใจและรองรับนักธุรกิจจากทั่วโลกที่จะมาลงทุนได้ต่อเนื่อง
“การลงทุนของนักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศมาเป็นอันดับ1 และในอนาคต ยังคงเป็นอันดับ 1 ต่อไป เพราะการลงทุนในอีอีซีนั้น นอกจากจะมีการลงทุนในนวตกรรมและดิจิทัลแล้ว ซัพพลายเชน หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวจะมีการลงทุนเพิ่มเติมทั้งในส่วนที่เป็นการลงทุนใหม่ และส่วนที่ขยายเพิ่มเติม ดังนั้น เจโทรพร้อมให้การสนับสนุนอีอีซีในทุกๆ ด้าน”