ท่าเรือแหลม เฟส 3 เข้าบอร์ด EEC 16 ก.ค.นี้
กทท.เตรียมเสนอ โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เข้าบอร์ด EEC 16 ก.ค.นี้ คาดว่าจะลงนามอย่างช้าไม่เกินต้นเดือน ส.ค.2564
ความคืบหน้าโครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ล่าสุด เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) บอกว่า คณะทำงานฯ ที่มี ผู้แทนจากจากสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นประธาน และมีผู้แทนจากอีอีซี จากกทท.และฝ่ายกฎหมายอีอีซี ฯลฯ ไม่รับข้อเสนอซองที่ 5 และได้สรุปร่างสัญญาให้อัยการสูงสุดไปเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว คาดว่าจะพิจารณาร่างสัญญาแล้วในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ กทท.จะเร่งนำเสนอ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และเสนอคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ซึ่งจะประชุมในวันที่ 16 ก.ค.64 เพื่ออนุมัติร่างสัญญาและลงนาม จากนั้นจะรายงานต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อทราบ คาดว่าจะลงนามอย่างช้าไม่เกินต้นเดือน ส.ค.2564
สำหรับร่างสัญญา ซองที่ 5 เป็นข้อเสนอในการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ของ กลุ่ม GPC ประกอบด้วย บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (PTT TANK) บริษัท ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด โดยคณะทำงานฯ พบว่า ซอง 5 มีข้อเสนออื่นๆ ไม่มีประเด็นที่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ จึงไม่รับข้อเสนอดังกล่าว
โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ส่วนของท่าเทียบเรือ F วงเงิน 84,361 ล้านบาท ระยะเวลาสัมปทาน 35 ปีนั้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติผลประโยชน์ตอบแทนทางการเงินขั้นต่ำที่ภาครัฐจะได้รับ ระยะที่ 1 ค่าสัมปทานคงที่เท่ากับมูลค่าปัจจุบันสุทธิ(NPV) ที่ 29,050 ล้านบาท และค่าสัมปทานผันแปร ที่ 100 บาทต่อทีอียู ซึ่งค่าสัมปทานคงที่ดังกล่าวต่ำกว่าผลประโยชน์ตอบแทนที่รัฐคาดหมายตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2561 มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ประมาณ 32,225 ล้านบาท
เรือโท กมลศักดิ์ กล่าวว่า งานด้านโครงสร้างพื้นฐานโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ที่ กทท.ดำเนินการเองนั้นกทท.ได้ออกหนังสือให้เริ่มงาน (Notice to Proceed : NTP) ก่อสร้างทางทะเล เป็นงานขุดลอกถมทะเล สร้างเขื่อนกันคลื่น เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2564 แล้วมีระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญา 4 ปี โดยมีกิจการร่วมค้า ซีเอ็นเอ็นซี ( CNNC ) ประกอบด้วย บริษัท เอ็น.ที.แอล.มารีน จำกัด เป็นรับจ้าง วงเงิน 21,320 ล้านบาท ซึ่งในการดำเนินกาการก่อสร้างทางทะเลนั้น กทท.ได้ตั้งงบสำหรับเยียวยาผลกระทบ วงเงิน ประมาณ 1,800 ล้านบาท ในระยะ 6 ปี (ระหว่างก่อสร้าง 4 ปี และหลังก่อสร้างเสร็จ 2 ปี) โดยแบ่งเป็น2 กลุ่ม คือ กลุ่มประมงเล็ก และกลุ่มเลี้ยงหอย โดยอยู่ระหว่างทำข้อมูลและทยอยจ่ายเยียวยา