ข่าวเด่น เย็นนี้ 22 ต.ค.2567
ข่าวเด่น เย็นนี้ ปมร้อน “ดิไอคอน” ลุกลามยังวงการการเมือง
เรื่องที่ 4,304 พรรคพลังประชารัฐ มีมติปลด สามารถ เจนชัยจิตรวนิช พ้นรองโฆษกของพรรค แต่ยังคงการเป็นสมาชิกพรรคอยู่
สืบเนื่องจากมีการปล่อยคลิปเสียงนักการเมือง ส. โดยทนายชื่อดังอย่าง ทนายตั้ม หรือ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ออกมาแฉว่าเป็นเสียงของสามารถ
แม้เจ้าตัวจะยืนยันว่าไม่ใช่เสียงของตนเอง แต่พรรคพลังประชารัฐ ก็แก้ปัญหาด้วยการให้ สามารถ ออกจากตำแหน่งรองโฆษกพรรคไปก่อน
ส่วนที่ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่นั้น เป็นเพราะลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังเห็นว่าสามารถ บริสุทธิ จึงอยากให้มีการพิสูจน์เสียก่อน
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าว ก่อให้เกิดคำถามไปยังกรรมาธิการในสภาฯว่า เป็นแหล่งเรียกรับผลประโยชน์ หรือ แหล่งตบทรัพย์ของนักการเมืองหรือไม่
เพราะมีบ่อยครั้งที่มีข่าวว่า กรรมาธิการในคณะต่างๆ อาศัยอำนาจเรียกรับผลประโยชน์ ไม่ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบ อย่างที่ควรจะเป็น
และหากกรรมาธิการในสภาฯ เป็นแหล่งตบทรัพย์แล้ว ประชาชนคงหวังพึ่งพาไม่ได้แน่นอน
เรื่องที่ 4,305 การเข้ามาของสินค้าราคาถูก และไม่มีคุณภาพสร้างปัญหาให้กับผู้ประกอบการไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่กำลังซื้ออยู่ในช่วงอ่อนแอ แทบสิ้นแรง เล่นเอาหลายบริษัทต้องปิดกิจการ และอีกหลายบริษัทที่อาการโคม่า
ล่าสุดทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือส.อ.ท.ได้ทำแบบสำรวจหัวข้อ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขายสินค้าราคาถูกบุกไทย อุตสาหกรรมจะรับมืออย่างไร ซึ่งคำตอบที่ได้สะท้อนอะไรได้หลายอย่างที่เป็นสัญญาณอันตราย
ไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้บริหารกว่า 35.1% มียอดขายลดลงจากการเข้ามาของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขายสินค้าถูกจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเครื่องนุ่งห่ม เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก บรรจุภัณฑ์ เป็นต้น
ซึ่งสินค้าที่ขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซบางรายการอาจเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีคุณภาพ หรือไม่ตรงปก ทำให้ผู้บริโภคสูญเสียเงิน และเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย โดยสิ่งหนึ่งที่ผู้บริหารมองก็คือสินค้าไทยยังสู้ได้ แต่ก็ต้องเร่งปรับตัวเพื่อพัฒนาและสร้างจุดแข็ง โดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานผลิตภัณฑ์
นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญมากกว่าเหนืออื่นใดก็คือ ต้องให้รัฐกำหนดเงื่อนไขว่าแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างชาติจะต้องจดทะเบียนในไทย เพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และมีการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเคร่งครัด รวมทั้งกำหนดให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรับผิดชอบในการคืนสินค้า กรณีสินค้าไม่ได้คุณภาพหรือไม่ตรงปก
สิ่งที่ทางฝั่งเอกชนเสนอถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องดูว่าภาครัฐจะกล้าชนกับยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจอย่างพี่จีนหรือไม่ล่ะขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 4,306 เงินหมื่นยังไม่จบ ล็อตแรกยังค้างอยู่อีก 6.5 หมื่นราย โดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงถึงการโอนเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ให้กลุ่มเปราะบางรอบการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ว่า ได้โอนเงินให้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 371,591 ราย โอนสำเร็จแล้ว 311,751 ราย และกลุ่มผู้พิการคงค้าง 43,317 ราย โอนสำเร็จ 38,265 ราย ซึ่งแนะให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับเงิน รีบผูกบัญชีพร้อมเพย์ เพราะจะมีการโอนซ้ำอีก 2 ครั้ง ในวันที่ 21 พ.ย.67 และวันที่ 21 ธ.ค. 67 รอบสุดท้าย หากไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 21 ธ.ค.67 จะถือว่าสละสิทธิ์ และเงินก็จะส่งคืนคลัง ระวังจะอดเงินหมื่นกับเขานะขอรับ รีบด่วนๆ ถ้าไม่อยากตกขบวน
สรุปข่าวเด่นต่างประเทศ
เรื่องที่ 4,307 นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้อาจจะกลับมาขยายตัวอีกครั้งในไตรมาส 3/2567 หลังจากที่หดตัวลงเล็กน้อยในไตรมาส 2 โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะได้รับแรงหนุนจากการส่งออกที่ฟื้นตัว ซึ่งจะช่วยชดเชยอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอลงอันเนื่องมาจากต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวสูงขึ้น
นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเกาหลีใต้จะขยายตัว 0.5% ในไตรมาส 3 หลังจากที่หดตัวลง 0.2% ในไตรมาส 2 และคาดว่า GDP ในไตรมาส 4 จะขยายตัว 2% อย่างไรก็ตาม อัตราการขยายตัวของยอดส่งออกชะลอลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากการค้าระหว่างเกาหลีใต้กับจีน ญี่ปุ่น และอินเดียอ่อนแรงลง นอกจากนี้ ต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวสูงขึ้นกำลังส่งผลกระทบต่อการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ ท่ามกลางหนี้สินภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง
เรื่องที่ 4,308 ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อพยุงค่าเงินรูเปียห์ หลังจากรูเปียห์อ่อนค่าลงท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
เอดี ซูเซียนโต กรรมการบริหารของธนาคารกลางอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซียกำลังเข้าแทรกแซงตลาดสปอตและตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบไม่มีการส่งมอบเงินเมื่อครบกำหนด (Non-Deliverable Forward – NDF) เพื่อลดความผันผวนในตลาดหลังจากรูเปียห์อ่อนค่าลงในวันนี้ (22 ต.ค.) โดยนับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ธนาคารกลางอินโดนีเซียยืนยันว่าได้เข้าแทรกแซงตลาด ทั้งนี้ ความผันผวนของค่าเงินรูเปียห์อาจส่งผลให้ธนาคารกลางอินโดนีเซียชะลอเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
เรื่องที่ 4,309 สถาบันเศรษฐศาสตร์อสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อวานนี้ (21 ต.ค.) ว่า ราคาเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมใหม่ในโตเกียวและสามจังหวัดใกล้เคียงพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 79.53 ล้านเยน (5.27 แสนดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2567 โดย ข้อมูลระบุว่า ราคาเฉลี่ยในเขตมหานครโตเกียว ซึ่งรวมถึงเมืองหลวงและจังหวัดใกล้เคียงอย่างไซตามะ คานางาวะ และชิบะ เพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างที่สูงขึ้นจากต้นทุนวัสดุและค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้น
เมื่อแยกตามพื้นที่ ราคาคอนโดใน 23 เขตของโตเกียว เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4.5% สู่ระดับ 110.51 ล้านเยนในช่วงเดือนเม.ย.-ก.ย. ขณะที่เพิ่มขึ้น 17.3% ในชิบะ และ 10.7% ในคานางาวะ ขณะเดียวกัน จำนวนคอนโดมิเนียมใหม่ที่ลงประกาศขายในเขตมหานครโตเกียวลดลง 29.7% เหลือ 8,238 ยูนิต
เรื่องที่ 4,310 พลเอกเลือง เกื่อง สมาชิกคณะกรรมการกรมการเมือง (โปลิตบูโร) ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และสมาชิกถาวรของสำนักเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคฯ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของเวียดนามในวันจันทร์ (21 ต.ค.) โดยเขาได้ให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากพรรคฯ รัฐ และประชาชน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในการประชุมครั้งที่ 8 ของสภาแห่งชาติสมัยที่ 15 พลเอกเลือง เกื่อง ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจนถึงปี 2569 โดยสมาชิกรัฐสภา 440 คนที่เข้าร่วมประชุม ซึ่งคิดเป็น 91.67% ของสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด ลงมติเห็นชอบให้เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
โดยนพวัชร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดขายวันแรก สลาก N3 หลังทดสอบฉลุย