ข่าวเด่น เย็นนี้ 8 ก.ย.2567
ข่าวเด่น เย็นนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พัฒนาฟีเจอร์ “ช่วยน้ำท่วม” บนแพลตฟอร์ม ทราฟฟี ฟองดูว์ (Traffy Fondue) เพื่อเป็นช่องทางด่วนพิเศษในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยเป็นศูนย์กลางในการประสานงานความช่วยเหลือให้ไปถึงผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว ใช้งานง่ายเพียงเพิ่มเพื่อนกับไลน์ไอดี @traffyfondue จากนั้น เลือกเมนู “ช่วยน้ำท่วม” แล้วระบุพิกัดและความต้องการให้ชัดเจน
เรื่องที่ 4,986 ภายในแบ่งเป็น 3 ฟังก์ชัน ได้แก่
1. แจ้งสถานการณ์ : ผู้ใช้งานสามารถรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ พร้อมแนบรูปภาพ และระบุพิกัด
2. ขอความช่วยเหลือ : ส่งคำร้องขอความช่วยเหลือตรงไปยัง อว. ส่วนหน้าใน 76 จังหวัด
3. บริจาค : ประสานกับ อว. ส่วนหน้าเพื่อรับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ทั้งนี้ ประชาชนร่วมใช้งานทราฟฟี ฟองดูว์ ด้วยเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
เรื่องที่ 4,987 เรียกว่าคงพร้อมที่จะทำงานเต็มที่แล้วสำหรับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงอุตสาหกรรมคนใหม่ป้ายแดงสดๆร้อน “เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” หรือ รมว. ขิง เมื่อล่าสุดได้ออกมาโพสข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว
โดยมีข้อความระบุว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสแก่คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เนื่องในโอกาสเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี ว่า “ขอให้พรด้วยความยินดี ให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจ มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ถวายสัตย์ไปแล้ว เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชน”
รัฐมนตรีฯของพรรคทุกคน จะน้อมนำพระราชดำรัสมาเป็นแนวทาง และทุ่มเททำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตให้กับประเทศชาติ พรรครวมไทยสร้างชาติ จะยึดมั่นในจุดยืนที่จะรักษาสถาบันเสาหลักของชาติ ตลอดไป
หลังจากนี้ก็ต้องจับตาดูผลงานของ รมว.ขิง ดูกันหน่อยแล้วว่า จะดีเลิศขนาดไหน อย่าให้แพ้คนเก่าเค้าเชียวนะขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 4,988 ไม่เขียนเรื่องภายในกระทรวงการคลัง และลึกๆ ชวนคิด นานหลายวัน วันนี้ ขอเริ่มต้นที่ อาคาร 150 ปี ของพวกเราชาวกระทรวงการคลัง ไม่ได้ซับซ้อน ซ่อนเงื่อนอะไรไว้ แต่อย่ากดลิฟท์ผิดชั้น ไม่อย่างนั้น อาจหลงทางหาทางออกไม่เจอ เพราะสภาพภายในนอกนั้น เยี่ยมยอด 100% แต่ในภายใน ชั้นที่ รมว.คลัง รมช.คลัง ปลัดและรองปลัดอยู่นั้น เรียบร้อยดี ส่วนชั้นอื่นๆ เงียบเหงา โชคดีน้ำไม่รั่ว ไม่ซึม ต่างจากกรมสรรพากร ตอนนี้ ร้อนบ้างไม่ร้อนบ้าง คนที่ไม่ร้อน เพราะแอร์เย็นหลังจากย้ายที่ทำงานอยู่ตึกสำนักงบฯ ซอยอารีย์ เดิม กว่า 300 คน
ส่วนที่ร้อน เพราะไม่ย้าย ยกเว้นเก้าอี อธิบดี ตอนนี้ ร้อนฉ่า จริงๆ ครับพี่น้อง
เรื่องที่ 4,989 “อธิบดีอุ๋ย กุลยา ตันติเมมิท” อธิบดีกรมสรรพากร ถ้าทำงานไม่ดี ไม่มีโชว์ โยกย้ายคราวนี้ ก็เหมือนกับลงโทษเธอ หากย้ายไปเป็นรองปลัดคลัง หรือแม้กระทั่งผู้ตรวจฯ แต่ถ้าสนับสนุน ก็มองได้ว่า อธิบดีไหนก็ได้ ที่ยังไม่ได้นั่ง ทั้งกรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และกรมธนารักษ์ แต่ถ้าจะวกกลับไป สศค.แม้จะเคยนั่งแค่ปีเดียว ก็เหมือนถูกกลั่นแกล้ง
“อธิบดีอุ๋ย” ไม่ใช่ตัวแปรที่สำคัญ แต่เป็นคนที่ถูกกระทบหนักที่สุด และยังส่งไปถึง อธิบดีท่านอื่นๆ อีกด้วย เนื่องจาก ใครๆ ก็รู้ว่า เขามาแน่ “รองปิ่น” คนนี้ ไม่ใช่รองอธิบดีกรมสรรพากร หรือที่ปรึกษาแล้วนะ ต๋อย!! “รองปิ่น” คือ รองปลัดกระทรวงการคลัง
“ภาษี และดีกรี” ลูกชายคนโต ที่พ่อ “ปลอดประสพ สุรัสวดี” ทุ่มเททั้งกายและใจ ทำงานให้พรรคเพื่อนไทย ไม่มีเปลี่ยนแปลง หากจะขอก้าวขึ้นเป็นอธิบดี คนในพรรค คงไม่มีการกล้าขัด หรือขวางทางท่าน เพียงเลือกกลับที่เดิม คือ “กรมสรรพากร” ก็ได้ แต่อาจเสียเพื่อนและพวกพ้องไปหลายคน แต่ไปกรมอื่น “อธิบดีอุ๋ย” นั่งที่เดิมอีก 1 ปี คนเกษียณไป คนใหม่มาแทน สบายใจทุกฝ่าย โดยเฉพาะ “ปลัดบั๊ด-ลวรณ แสงสนิท” ปลัดกระทรวงการคลัง ปากบอกสบาย แต่ในใจนั้น ยากหยั่งถึง
หากจะฝืนใจ “รองปิ่น” ท่านเกิด 2514 เกษียณ 2574 ย้ายมาเป็นอธิบดีกรมสรรพากร “อธิบดีอุ๋ย” ขยับ ไม่ได้นั่งกรมธนารักษ์ “อธิบดีเอก-เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” อธิบดีกรมสรรพสามิต คงเหนื่อย แม้ใจจะสู้ เพราะท่านอยากรับราชการจนเกษียณเหมือนพ่อ-แม่ ก็เหมือนถูกแทงทางอ้อม จัดไม่เข้าพวก กรณีเดียวกับ “ท่านหม่อง-พชร อนันตศิลป์” ผอ.สบน.ไปอีกคน
แต่หากจะย้าย “อธิบดีอุ๋ย” ไปกรมศุลกากร งานนี้ ไม่ใช่อธิบดีอุ๋ยเหนื่อย แต่คนที่เหนื่อยคือ น่าจะเป็น “ปลัดคลัง”
วันนี้ กระทรวงการคลัง เหมือนจะไม่แตกแยก แต่ในใจทุกคนรู้ว่า โยกย้ายคราวนี้ ร้าวลึกจริงๆ ครับพี่น้อง
ปล.ปีนี้ ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลัง เกษียณพร้อมกัน 4 คน ประกอบด้วย “อธิบดีอ้วน-จำเริญ โพธิยอด อธิบดี” กรมธนารักษ์ “รองนุช-วรนุช ภู่อิ่ม” รองปลัดกระทรวงการคลัง “พี่อ้วน-ชาญวิทย์ นาคบุรี” รองปลัดกระทรวงการคลัง และ ขนิษฐา สหเมธาพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง
ส่วนปีหน้า 2568 “อธิบดีตุ๋ย-ธีรัชย์ อัตนวานิช” อธิบดีกรมศุลกากร เกษียณ และ2569 “รองอวบ-อัครุตม์ สนธยานนท์” รองปลัดกระทรวงการคลัง และปี2570 ปลัดกระทรวงการคลัง
เรื่องที่4,990 ฟังทางนี้ ข่าวดีมาแล้ว ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าสำหรับคนใช้แรงงานทุกท่าน เพราะแว่ว ๆ มาแล้วจากฝั่งกระทรวงแรงงาน ซึ่งท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เผยว่า เตรียมปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั้งประเทศ 400 บาท ย้ำนะว่าทั้งประเทศ ไม่ใช่หย่อมหญ้าเฉพาะพื้นที่อีกต่อไป ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยจะใช้เกณฑ์ที่มีสถานประกอบการที่มีแรงงานหรือมีการจ้างแรงงานไม่น้อยกว่า 200 คนขึ้นไป นี่เป็นบทสรุป ซึ่งท่านปลัดจะต้องนำเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้เข้าไปหารือกับสภาพัฒน์ และกระทรวงการคลังอีกครั้งหนึ่ง ก็มารอจับตาดูนะขอรับว่าจะเป็นจริงอย่างท่านว่าหรือไม่…
สรุปข่าวเด่นต่างประเทศ
เรื่องที่ 4,991 คณะทำงานด้านการค้าและการพาณิชย์จีน-สหรัฐฯ ได้จัดการประชุมระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ครั้งที่ 2 ณ นครเทียนจิน ในวันเสาร์ (7 ก.ย.) เพื่อหารือเรื่องธุรกิจและนโยบายการค้าต่าง ๆ อย่างเป็นมืออาชีพ มีเหตุผล และเป็นรูปธรรม
ซึ่งจีนพร้อมจับมือกับสหรัฐฯ เพื่อเสริมสร้างการสื่อสาร ขยายความร่วมมือ แก้ไขความแตกต่าง และสร้างสภาพแวดล้อมด้านนโยบายที่เอื้อต่อความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างสองชาติ นอกจากนี้ จีนจะยกระดับการปฏิรูปให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขยายการเปิดกว้าง และส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูง พร้อมกับเน้นย้ำว่าจีนที่ทันสมัยและมีประชากรมหาศาลถือเป็นโอกาสอันดี ไม่ใช่ภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ
เรื่องที่ 4,992 ผู้ประท้วงมากกว่า 30,000 คนรวมตัวกันในกรุงโซลของเกาหลีใต้ ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการอย่างจริงจังมากขึ้นเพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงเกิน 30 องศาเซลเซียส (86 องศาฟาเรนไฮต์) ผู้ประท้วงทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างเดินขบวนในการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ในปีนี้ ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนักในใจกลางกรุงโซล พวกเขาชูป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนว่า “ความยุติธรรมด้านสภาพอากาศ,” “ปกป้องชีวิตของเรา!” และ “ไม่เอานโยบายสภาพอากาศของประธานาธิบดียุน ซอกยอล” “ความจริงก็คือ ถ้าไม่มีเครื่องปรับอากาศ ฤดูร้อนนี้ก็คงอยู่ไม่ได้ และผู้คนก็คงใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ไม่ได้” หยู ซี-หยุน นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นผู้นำการประท้วงกล่าว
เรื่องที่ 4,993 สหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) เปิดเผยว่า เมียนมาส่งออกข้าวสารและข้าวหักปริมาณ 718,281 ตันในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567-2568 ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนเม.ย. โดย MRF รายงานว่า เมียนมามีรายได้จากการส่งออก 353 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การส่งออกข้าวสารและข้าวหักปริมาณ 207,369 ตันในเดือนส.ค. สร้างรายได้ 97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในช่วงเวลา 5 เดือน (เม.ย.-ส.ค.) เมียนมาส่งออกข้าวสารและข้าวหักทั้งทางทะเลและทางบกไปยังกว่า 30 ประเทศ รวมถึงอินโดนีเซีย จีน ฟิลิปปินส์ เนเธอร์แลนด์ และเบลเยียม ส่วนในปีงบประมาณ 2566-2567 เมียนมาส่งออกข้าวสารและข้าวหักมากกว่า 1.6 ล้านตัน ทำรายได้มากกว่า 845 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เรื่องที่ 4,994 หนังสือพิมพ์สเตรทส์ไทม์สรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่องว่า สิงคโปร์จะเริ่มก่อสร้างอาคารผู้โดยสารขนาดใหญ่แห่งใหม่ที่สนามบินชางงีในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มศักยภาพการรองรับผู้โดยสารประจำปีของศูนย์กลางการบินแห่งนี้ขึ้นอีก 50 ล้านคน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปัจจุบัน สนามบินชางงีมีศักยภาพที่จะรองรับผู้โดยสารได้ 90 ล้านคนต่อปี และอาคารผู้โดยสาร Terminal 5 แห่งใหม่ซึ่งจะเปิดให้บริการในช่วงกลางทศวรรษ 2030 จะช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อกับเมืองต่าง ๆ มากกว่า 200 เมืองจากเกือบ 150 เมืองในปัจจุบัน โดย“บางประเทศได้ประกาศแผนสร้างสนามบินขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 100 ล้านคนต่อปี นั่นหมายความว่า พวกเขากำลังไล่ตามสิงคโปร์” หว่องกล่าวในงานเลี้ยงอาหารค่ำของอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งเมื่อวันศุกร์ (6 ก.ย.)
โดยนพวัชร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สำนักงานสลากฯ ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพบปะ จุดจำหน่ายสลาก 80 ที่อำเภอเมือง จ.ร้อยเอ็ด