ข่าวเด่น เย็นนี้ 9 ส.ค.2567
ข่าวเด่น เย็นนี้ พรรคก้าวไกล ถูกยุบไม่ถึง 48 ชั่วโมง พวกเขาเปิดตัวพรรคใหม่ ชื่อ พรรคประชาชน มี สส.เท้ง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นหัวหน้าพรรค
เรื่องที่ 4,801 สำหรับ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หรือ “เท้ง” จบการศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประวัติการทำงานก่อนเข้าสู่การเมือง เคยเป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัทเอกชนที่ให้บริการด้านโซลูชันคลาวด์ ต่อมาปี 2562 ได้รับเลือกตั้งเป็น สส.กรุงเทพฯ เขตบางแค ในนามพรรคอนาคตใหม่ เป็นกรรมาธิการงบประมาณตั้งแต่ปี 2562-2566 ปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณด้วย
นอกจากนี้ ณัฐพงษ์ ยังเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่ม ‘ก้าว Geek’ มีส่วนสำคัญในการผลักดันหลักการ Open Data, Open Government รวมทั้งการ Digitize งบประมาณแผ่นดินให้เป็นรูปแบบของ Machine-readable ทำให้กระบวนการตรวจสอบและจัดทำงบประมาณแผ่นดินนั้นสะดวกมากยิ่งขึ้นทั้งต่อหน่วยงานรัฐและประชาชนทั่วไป
ส่วนเลขาธิการพรรคได้แก่ “ติ่ง” หรือ ศรายุทธิ์ ใจหลัก เพื่อนของเอก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
“ติ่ง” ศรายุทธิ์ จบคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นรองเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (ระหว่างปี 2543-2544) และเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (ระหว่างปี 2544-2545)
เป็นหนึ่งในผู้ร่วมจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่และดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเครือข่ายในปี 2561 หลังการเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการพรรคอนาคตใหม่ หลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า กลางปี 2564 เป็นผู้อำนวยการพรรคก้าวไกล และดำรงตำแหน่งจนกระทั่งพรรคก้าวไกลถูกยุบ
เรื่องที่ 4,802 สัญญาณเศรษฐกิจของไทยดูจะยังไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นัก เมื่อล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งมี “ผยง ศรีวณิช” ประธานสมาคมธนาคารไทย ประธานกกร.ระบุชัดเจนว่า
เศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้ายังเปราะบางแม้การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐจะเริ่มนำเม็ดเงินเข้ามาสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณทำให้การใช้จ่ายของรัฐกลับมาขยายตัวเฉลี่ยสูงกว่า 15% ในเดือนพ.ค.-มิ.ย.
ส่วนอุปสงค์ภายในประเทศชะลอตัวสะท้อนจากยอดโอนอสังหาฯ 5 เดือน/67 หดตัว -8.8% ยอดจำหน่ายรถยนต์ 6เดือน/67 หดตัวต่อเนื่องที่ -24%YoY และการส่งออกที่ยังขยายตัวได้น้อย ทำให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่ำกว่าศักยภาพแม้ว่าภาคการท่องเที่ยวจะทยอยกลับมาฟื้นตัว
ยังดีที่ทาง กกร. ไม่ได้ปรับตัวเลขประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยปี 67 ยังคงไว้ที่ 2.2 – 2.7% เช่นเดียวกับการส่งออกที่คงที่ระดับ 0.8 – 1.5% และเงินเฟ้อคงที่ระดับ 0.5 – 1.0%
เห็นสัญญาณแบบนี้แล้วคงได้แค่บอกคำเดียวว่าให้ระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายกันด้วยนะขอรับ
เรื่องที่ 4,803 ช่วงนี้ ยกนิ้วขึ้นแท่นเบอร์ 1 แถลงข่าวบ่อยและถี่ ต้องกรมศุลกากร “อธิบดีตุ้ย-ธีรัชย์ อัตนวานิช” เพราะวันแถลงข่าวการจับกุมสินค้าไม่ได้มาตรฐานและสำแดงไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพต่ำจากจีน แถมยังมีอาวุธปืนสงคราม สำแดงเป็นอุปกรณ์กีฬา เรื่องนี้ ถึงหู “รมช.หนิม-จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง จึงต้องมานั่งแถลงข่าวด้วยตนเอง พร้อมยืนยัน สั่งให้กรมศุลกากรลุยแหลก โดยเฉพาะสินค้าจีนราคาถูก แต่คุณภาพต่ำเข้ามาตีตลาดไทย ผ่านออนไลน์ ทำให้ไทยกลายเป็นที่ทิ้งขยะพลาสติกและอินเล็กทรอนิกส์ เรียกว่า งานนี้ ยอมกันไม่ได้
ล่าสุดก็มีอีกประเด็น กรมศุลกากรจับมือ กรมสรรพากร ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลตามใบเสร็จรับเงิน กศก. 123 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดเก็บภาษีอากร จากเดิมที่ผู้ประกอบการส่งเอกสารด้วยกระดาษ ก็เปลี่ยนเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ ยังไม่พอ กรมสรรพากรเชื่อมข้อมูล ลุยกวาดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นลำดับต่อไป ดันยอดจัดเก็บรายได้ให้แก่รัฐบาลอีกด้วย กรมศุลกากรเวลา ทำงานเข้าตากรรมการจริงๆ
และในวันพรุ่งนี้ (10 ส.ค.) เวลา 09.30 น. กรมศุลกากรแถลงข่าว กรมศุลกากรรวบยาเสพติดเตรียมลักลอบส่งออก ทางเรือและทางอากาศ มูลค่าเมื่อถึงประเทศปลายทาง 97.49 ล้านบาท โดยมี อธิบดีตุ้ย เป็นผู้แถลงด้วยตนเอง งานนี้ รับรองข่าวดังถึง รมว.คลัง อย่างแน่นอน
เรื่องที่ 4,804 ท่องเที่ยวไทยเราไม่มีแผ่ว รัฐบาล เปิดเผยความคืบหน้าผลงานรัฐบาลด้านการท่องเที่ยว โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงครึ่งปีหลัง 67 จะอยู่ที่ประมาณ 20.47 ล้านคน รวมทั้งปีคาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 37.97 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 34.88% จากในช่วงครึ่งปีแรก ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยแล้ว 17.50 ล้านคน ถ้ารายได้เป็นไปตามเป้า ซึ่งโอกาสเป็นไปได้สูงมาก ปีนี้จะทำรายได้เข้าประเทศมากกว่าปีที่แล้วกว่า 650,000 ล้านบาท หรืออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้ ไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งมาจากการท่องเที่ยว โดยเรื่องการท่องเที่ยวในเชิงเศรษฐกิจ ถือว่ามีบทบาทเป็นพระเอก มารอจับตาดูผลงานของรัฐบาลไทยเรานะขอรับ จะเข็นมาตรการท่องเที่ยวไปได้ถึงตามเป้าที่วางไว้หรือมั้ยนั้น รอดูได้เลย
สรุปข่าวเด่นต่างประเทศ
เรื่องที่ 4,805 ดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์ก (Bloomberg Billionaires Index) บ่งชี้ว่า นายโคลิน หวง (Colin Huang) วัย 44 ปี เจ้าของเทมู (Temu) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากประเทศจีน ได้ขึ้นแท่นบุคคลรวยที่สุดในจีนแล้ว โดยเบียดแซงหน้านายจง ชานซาน (Zhong Shanshan) ราชาน้ำดื่มบรรจุขวดของจีน หลังได้อานิสงส์จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการชอปปิงของผู้บริโภค
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายหวงประสบความสำเร็จในธุรกิจเกมและอี-คอมเมิร์ซ ก่อนล้มป่วยและตัดสินใจออกมาอยู่ที่บ้านนาน 1 ปี และในปี 2558 เขาได้เริ่มก่อตั้งพินตัวตัว (Pinduoduo) แพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซซึ่งเป็นที่รู้จักจากการขายผลิตภัณฑ์ราคาถูกที่มีโปรโมชันมากมาย และหลังจากนั้นนายหวงได้ก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีติดอันดับโลกอย่างรวดเร็ว ด้วยทรัพย์สินสุทธิสูงสุดที่ 7.15 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงต้นปี 2564 โดย นายหวงได้กลายเป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดในจีนโดยมีมูลค่าสินทรัพย์อยู่ที่ 4.86 หมื่นล้านดอลลาร์ แซงหน้านายจง ชานซาน ราชาน้ำดื่มบรรจุขวดที่ครองตำแหน่งนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2564
เรื่องที่ 4,806 คณะกรรมการความปลอดภัยผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคของสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี (8 ส.ค.) ว่า ซัมซุงได้ขอเรียกคืนเตากว่าล้านเครื่อง รวม 30 รุ่น หลังมีรายงานหลายร้อยครั้งเกี่ยวกับเตาเหล่านั้นที่เปิดติดขึ้นเอง ซึ่งนำไปสู่เหตุเพลิงไหม้ที่มีผู้บาดเจ็บหลายสิบรายและคร่าชีวิตสัตว์เลี้ยงไปอีกอย่างน้อย 7 ตัว
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า ซัมซุงระบุในแถลงการณ์ประกาศเรียกคืนโดยสมัครใจว่า ลูกค้าที่เป็นเจ้าของเตา 1 ใน 30 รุ่นของซัมซุงที่ทางบริษัทจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2556 จะได้รับชุดตัวล็อกลูกบิดหรือฝาครอบฟรี เพื่อลดความเสี่ยงจากการจุดเตาจากการสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจทั้งจากมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยง ซัมซุงขอให้ผู้ที่มีเตารุ่นที่บริษัทเรียกคืนติดต่อบริษัทเพื่อดูว่า มีสิทธิ์ได้รับตัวล็อกลูกบิดหรือฝาครอบแบบติดตั้งเองได้ฟรีหรือไม่ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเปิดเตาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เรื่องที่ 4,807 สมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน (CPCA) เปิดเผยข้อมูลในวันพฤหัสบดี (8 ส.ค.) ว่า นับเป็นครั้งแรกในจีนที่รถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) มียอดขายมากกว่ารถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิงแบบดั้งเดิมในเดือนก.ค. รายงานระบุว่า ยอดขายรถยนต์ NEV ซึ่งรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด คิดเป็นสัดส่วน 51% ของรถยนต์ใหม่ที่ขายในจีนในเดือนก.ค.
ข้อมูลจาก CPCA ระบุว่า ยอดขายรถยนต์โดยรวมลดลง 2.8% แตะที่ 1.72 ล้านคันในเดือนก.ค. ส่วนยอดขายรถ NEV เพิ่มขึ้นเกือบ 37% แตะ 878,000 คันในเดือนก.ค. อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเดือนก.ค. จากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน (CAAM) สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า จีนเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอตัว ขณะที่การแข่งขันอย่างดุเดือดในตลาดรถ NEV ได้ก่อให้เกิดสงครามราคา
เรื่องที่ 4,808 นิกเกอิ เอเชียรายงานว่า ธุรกิจในเมียนมาจำนวนมากขึ้นกำลังแห่มาเปิดร้านค้าและร้านอาหารในประเทศไทยเพื่อจำหน่ายเสื้อผ้าและอาหารแก่ผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่หลบหนีจากความขัดแย้งที่ยืดเยื้อในเมียนมา รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายเกณฑ์ทหารเมื่อช่วงต้นปีนี้ ซึ่ง แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับธุรกิจเมียนมาระบุว่า ธุรกิจจากเมียนมาหลายสิบรายได้เข้ามาดำเนินงานในประเทศไทยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
“สถานการณ์ในเมียนมาทำให้ธุรกิจต่าง ๆ เผชิญความยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อและกฎระเบียบทางการเงินที่ไร้เสถียรภาพ” เจ้าของธุรกิจรายหนึ่งซึ่งย้ายร้านมือถือและคอมพิวเตอร์จากเมียนมามาอยู่ที่กรุงเทพกล่าวว่า “ประเทศไทยมีสภาพแวดล้อมที่มีเสถียรภาพมากกว่า และตลาดกำลังเติบโตสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของเรา”
โดยนพวัชร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สำนักงานสลากเปิดรับพนักงานใหม่