ข่าวเด่น เย็นนี้ 16 ก.ค.2567
ข่าวเด่น เย็นนี้ เก็บตกบรรยากาศงานเลี้ยงพรรคร่วมงานรัฐบาล
เรื่องที่ 4,737 งานนี้ พรรคพลังประชารัฐ จัดอย่างคึกคักที่ “บ้านปาร์คนายเลิศ” นำโดย รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร. ) มีผู้ร่วมงานสำคัญอย่าง นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี มีแกนนำทุกพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง เช่น พรรคเพื่อไทย โดยมีผู้บริหารพรรค อาทิ นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะ รองหัวหน้าพรรค นายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นต้น
พรรคภูมิใจไทย นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค พรรครวมไทยสร้างชาติ นำโดย น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช.
พรรคชาติไทยพัฒนา นำโดยนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค พรรคประชาชาติ นำโดย พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ และพรรคชาติพัฒนานำโดย นายสุวัจน์ ลิปตะพัลลภ
บรรยากาศ งานเลี้ยงเป็นด้วยความอบอุ่น มีการสนทนาพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง สำหรับเมนูอาหาร เป็นการคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศของแต่ละจังหวัด เช่น อาหารทะเลสดจากเครือข่ายประมงพื้นบ้าน หมูระบบไบโอไดนามิค จังหวัดขอนแก่น เนื้อวากิว จากจังหวัดหนองคาย คาเวียร์ จากประจวบคีรีขันธ์ ไก่ เลี้ยงระบบอินทรีย์ จังหวัดนครปฐม เป็นต้น
งานนี้มีร่วมร้องเพลง โดยอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้นำร้องเพลง “เราและนาย” ร่วมกับแกนนำพรรคร่วมอย่างสนุกสนาม
เรื่องที่ 4,739 เรียกว่าได้รับเสียงชื่นชมจากทั่วสารทิศสำหรับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง (สภฟ.) ที่นำโดย “เสนอ วิสุทธนะ” ประธาน สภฟ. เมื่อล่าสุดทำหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คัดค้านการผลักภาระค่าไฟฟ้าให้แก่ประชาชน
โดยข้อมูลที่ สภฟ. นำเสนอนั้นถือว่าค่อนข้างลึก และตรงประเด็น ซึ่งระบุชัดเจนเลยว่า การปรับค่าไฟฟ้าหรือค่า Ft ครั้งนี้ ถือเป็นการผลักภาระให้แก่ประชาชนอย่างไม่เป็นธรรม
พร้อมแจกแจงรายละเอียดที่ไม่ธรรมดาว่าแต่เดิม มีการค้ดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ(กฟผ.) ไปเป็นเอกชน แต่ในรอบสิบปีที่ผ่านมา รัฐบาลกลับพยายามจำกัดการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ขณะเดียวกันกลับเปิดช่องทางให้บริษัทเอกชนกลุ่มทุนใหญ่เข้ามาทำการผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้กับ กฟผ.
และปล่อยให้บริษัทเอกชนเหล่านี้เข้ามาหากินหาประโยชน์จากนโยบายของรัฐ โดยการทำสัญญาระยะยาวผูกขาดการขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ. หากินกับการสำรองไฟฟ้า (Reserve Margin) แม้ กฟผ.ไม่ซื้อ ก็ต้องจ่าย(ต้นทุน) เท่ากับยินยอมให้บริษัทเอกชนหรือกลุ่มทุนใหญ่เข้ามาขูดเลือดขูดเนื้อประชาชน
อีกหนึ่งสาเหตุมาจากนโยบายของรัฐที่มีการสำรองไฟฟ้าสูงเกินความจำเป็น อยู่ที่ระดับ 35-50% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ ขณะที่อัตราการสำรองไฟฟ้าตามเกณฑ์เดิมอยู่ที่ 15% การสำรองไฟฟ้ายิ่งสูงมากจะกลายเป็นต้นทุนแฝงที่เป็นภาระของผู้ใช้ไฟฟ้าหรือประชาชน
แต่น่าเสียดายที่ข้อมูลนี้สื่อเกือบทุกแขนงถูกเจ้าพ่อพลังงานเอกชนรายหนึ่งสกัดไว้ไม่ให้ลง ถึงขนาดมีบางสื่อลงไปแล้วยังต้องลบออก นี่แหละหนาประเทศไทยที่ประชาชนไม่มีอำนาจต้องตกเป็นเหยื่อของความร่ำรวย
เรื่องที่ 4,740 มีความชัดเจนมากขึ้น กรณีสำนักสลากฯ จะออกผลิตภัณฑ์ สลาก N3 หรือ นัมเบอร์ 3 เมื่อฝ่ายบริหารนำโดย “เสธหนุน-พันโทหนุน ศันสนาคม” ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ประกาศชัดเจนว่า N3 จะเปิดขายงวดแรก ในวันที่ 2 ต.ค. สามารถตรวจผลการออกรางวัลได้วันที่ 16 ต.ค. โดยจะมีระยะเวลาทดสอบระบบใน Sandbox 6 เดือน หลังจากนั้น เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในต้นปีหน้า
ทีนี้ มาดูว่า N3 นั้น ดีอย่างไร
1.รายการละ 20 บาท ซื้อได้ไม่จำกัดจำนวน
2.ซื้อครั้งเดียว ลุ้นถูก 4 รางวัล 3 ตัวตรง 3 ตัวสลับ (โต๊ด) 2 ตัว (2ตัวล่าง) และรางวัลพิเศษ
3.ไม่หนี ไม่เบี้ยวและไม่มีอั้น
4.มีรางวัลพิเศษ 1% จากยอดเงินจ่ายรางวัล
5.ดำเนินงานโดยสำนักสลากฯ (รัฐบาลเป็นประกัน)
6.ซื้อและจ่ายเงินรางวัล ผ่านแอปเป๋าตัง
7.กดราคาสลากใบลงมาอยู่ในราคาที่กำหนด
8.ผู้ค้าสลากเพิ่มรายได้เพิ่มขึ้น
9.รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้น
เรื่องที่ 4,741 ควันหลงงานเลี้ยงผู้สื่อข่าวสายกระทรวงการคลัง ของกรมศุลกากร จากนี้ไป พวกเรามีนักร้องหน้าใหม่เกิดขึ้นแล้วครับท่าน “อธิบดีตุ้ย-ธีรัชย์ อัตนวานิช” อธิบดีกรมศุลกากร ตอนแรกมองเห็นภาพไม่ชัด พอ ซูมเข้าไปใกล้ๆ คนร้องเพลง “ป้อม–วสันต์ โชติกุล” รวดเดียว 4 เพลง ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น “พี่ตุ้ย” ของพวกเรา และถ้ายิ่งโฟกัสลึกๆ “พี่ตุ้ย” นอกจากจะเสียงเหมือน “วสันต์” ผู้น้องแล้ว หน้าตายังหล่อ คล้ายๆ กันอีก งานปีหน้า “ปลัดบั๊ด-ลวรณ แสงสนิท” ปลัดกระทรวงการคลังที่สั่งให้ กรมศุลกากรไปฝึกซ้อมร้องเพลงมาใหม่นั้น ณ วันนี้ ไม่ต้องแล้ว พี่น้องเราชาวศุลกากร พร้อมยืนหนึ่ง ส่งอธิบดีตุ้ย ชิงประกวดรับรองชนะเข้ารอบ เดอะวอยซ์ อย่างแน่นอนครับท่าน!!
เรื่องที่ 4,742 ตามรอบ MV ลิซ่า ยังไม่แผ่ว โดย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (8-14 ก.ค. 67) นักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นจากการเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว Summer holiday ของนักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรป โดยเพิ่มขึ้น 0.99% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ในขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) เดินทางเข้ามาลดลง จากการสิ้นสุดการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินทางศาสนาอิสลาม แต่อย่างน้อยยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนก็มาตามรอย MV เพลง Rockstar ของลิซ่า ซึ่งเป็นการกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีน เพิ่มขึ้นจำนวน 155,717 คน สูงสุดในรอบ 9 สัปดาห์ ถือว่าเป็นไวรัลแห่งปี ทำให้นักท่องเที่ยวแห่แหนมาเช็คอินประเทศไทย รวมทั้งปักหมุดเยาวราช เพื่อทำการถ่ายคอนเทนต์ต่างๆ ให้เข้ากับ MV เพลงของนักร้องสุดฮอตอย่าง Lisa Blackpink สุดปัง
สรุปข่าวเด่นต่างประเทศ
เรื่องที่ 4,743 นายโยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ (16 ก.ค.) ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมพร้อมที่จะใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็น เพื่อรับมือกับตลาดปริวรรตเงินตราที่มีความผันผวนมากเกินไปในขณะนี้ ส่งผลให้ตลาดจับตาโอกาสที่รัฐบาลจะเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อพยุงค่าเงินเยน
“เป็นเรื่องสำคัญที่เงินตราต้องเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพและสะท้อนปัจจัยพื้นฐาน ความผันผวนที่มากเกินไปเป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา” นายฮายาชิแถลงต่อสื่อมวลชน “เราจะจับตาความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะใช้มาตรการทุกอย่างที่เป็นไปได้” อย่างไรก็ดี นายฮายาชิปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเมื่อถูกถามว่า ญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดเพื่อหนุนให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น 2 วันติดต่อกันในสัปดาห์ที่แล้วหรือไม่
เรื่องที่ 4,744 รายงานล่าสุดจากไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PwC) ระบุว่า ในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้ รายได้ในธุรกิจบันเทิงและสื่อทั่วโลกมีแนวโน้มขยายตัวโดยเฉลี่ย 3.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2571 จากระดับ 2.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2566 โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของการโฆษณาทางออนไลน์และไลฟ์อีเวนต์
PwC ระบุว่า ยอดขายโฆษณาจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2569 ซึ่งจะคิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของการเติบโตของรายได้ทั้งหมดในธุรกิจบันเทิงและสื่อในช่วง 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ PwC ระบุว่า ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้นเพื่อช่วงชิงจำนวนสมาชิกนั้น บริษัทในอุตสาหกรรมสตรีมมิงอาจจะพึ่งพาการโฆษณามากขึ้น โดยคาดว่าภายในปี 2571 นี้ ยอดการสมัครสมาชิกแบบมีโฆษณาจะคิดเป็นสัดส่วนราว 28% ของรายได้ในธุรกิจสตรีมมิงโดยรวม
เรื่องที่ 4,745 ผู้บริหารระดับสูงของเทมาเส็ก (Temasek) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์เปิดเผยเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ว่า บริษัทวางแผนที่จะลงทุนระยะ 3 ปีในอินเดียเป็นเงิน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในธุรกิจต่าง ๆ อาทิ บริการด้านการเงินและเฮลท์แคร์ โดยเลือกที่จะลงทุนในอินเดียในขณะที่มีความระมัดระวังเกี่ยวกับการลงทุนในจีน
โมหิต บันดารี กรรมการผู้จัดการด้านการลงทุนของเทมาเส็กระบุว่า เศรษฐกิจอินเดียขยายตัวขึ้นอย่างมาก และตลาดหุ้นปรับตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ท่ามกลางการขยายตัวของการทำ IPO และการทำข้อตกลงธุรกิจ โดยอินเดียคิดเป็นสัดส่วน 7% ของการลงทุนทั่วโลกของเทมาเส็กซึ่งต้องการที่จะลงทุนเพิ่มอีก สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เทมาเส็กวางแผนมาตั้งแต่ปีที่แล้วที่จะลงทุนประมาณ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในระยะ 3 ปี และมีแนวโน้มที่จะดำเนินการดังกล่าว เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มเศรษฐกิจเชิงบวกโดยรวม
เรื่องที่ 4,746 คณะกรรมการการท่องเที่ยวเขตบริหารพิเศษฮ่องกงเปิดเผยว่า จำนวนผู้เดินทางเยือนฮ่องกงแตะประมาณ 21 ล้านคนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้น 64% เมื่อเทียบรายปี ข้อมูลเบื้องต้นพบว่า จำนวนผู้เดินทางเยือนฮ่องกงในเดือนมิ.ย. สูงแตะ 3.13 ล้านคน เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ จำนวนผู้เดินทางจากจีนแผ่นดินใหญ่แตะประมาณ 16.1 ล้านคน ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปี 2566 ประมาณ 60% โดย 5 ล้านคนเป็นนักเดินทางที่ไม่ได้มาจากแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเพิ่มขึ้น 80% เมื่อเทียบรายปี ส่วนผู้เดินทางมาเยือนแบบค้างคืนคิดเป็น 50% ของจำนวนผู้มาเยือนทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งค้างคืนเฉลี่ย 3.2 คืน ทั้งนี้ ผลการสำรวจระบุว่า ย่านจิมซาจุ่ย, เทมเพิลสตรีท และเดอะพีค เป็นสถานที่ยอดนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบค้างคืนในระหว่างเดือนม.ค.-พ.ค.
เรื่องที่ 4,747 กระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชาเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (16 ก.ค.) ว่า กัมพูชาส่งออกเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าการเดินทาง รวม 6,246 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้น 16.5% จาก 5,360 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รายงานระบุว่า กัมพูชาส่งออกเสื้อผ้า 4,569 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.ปีนี้ เพิ่มขึ้น 18.4% จาก 3,858.5 ล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน กัมพูชาส่งออกรองเท้า 774 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10.4% จาก 700.6 ล้านดอลลาร์ และส่งออกสินค้าการเดินทาง 903 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12.7% จาก 801 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ธนาคารโลกได้ระบุเมื่อเดือนที่แล้วว่า สินค้ากลุ่มเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าการเดินทาง จะเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปีนี้ ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ 5.8% นอกจากนี้ ธนาคารโลกเผยว่า การส่งออกเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าการเดินทาง ได้ดีดตัวขึ้น ในขณะที่การส่งออกที่ไม่ใช่เสื้อผ้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ก็ฟื้นตัวเช่นกัน
โดยนพวัชร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ข่าวเด่น เย็นนี้ 15 ก.ค.2567