ข่าวเด่น เย็นนี้ 20 มิ.ย.2567
ข่าวเด่น เย็นนี้ กับประเด็น บิ๊กต่อ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุวิมล ได้กลับไปนั่งในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อีกครั้ง หลังคณะกรรมการตรวจสอบ ที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้น เห็นชอบให้ กลับคืนสู่สถานะเดิม
เรื่องที่ 4,569 ขณะที่ บิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอกสุรเชษฐ หักพาล ซึ่งก่อนหน้านี้โดนคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ยังไม่ได้กลับไป โดยต้องรอตรวจสอบว่าคำสั่งให้ออกจากราชการนั้น ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ดูเหมือนว่า สถานการณ์ในวงการตำรวจกำลังจะคลี่คลาย แต่ลึกๆแล้วก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะความขัดแย้งภายในองค์กรสีกากียังมีอยู่ และจะยังอยู่ต่อไป ตราบใดที่ยังไม่รู้ว่ามีใครแพ้ หรือว่ามีใครชนะ
แน่นอนการกลับเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของ บิ๊กต่อ ย่อมสร้างความไม่พอใจให้กับ “บิ๊กโจ๊ก” ที่ไม่ได้กลับด้วยอีกคน
ประเด็นนี้แหละที่อาจเป็นแรงกระเพื่อม สร้างความระส่ำในวงการตำรวจอีกครั้งหนึ่ง
จึงต้องจับตาดูว่าหลังจากนี้ จะมีแอ็คชั่นอะไรจาก “บิ๊กโจ๊ก” ต่อกรณีดังกล่าว
เรื่องที่ 4,570 นายกฯ ห่วงพี่น้องประชาชน หวั่นจะเกิดน้ำท่วมบ้านเรือนเสียหาย โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อประเมินและเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ รวมทั้งพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รายงานว่ามีโอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน เพราะปีนี้ปริมาณฝนมีมากกว่า 60 มิลลิเมตร/ชม. เช่น กรุงเทพฯ อาจจะเกิดน้ำขัง รอการระบาย ส่วนพื้นที่ลุ่มต่ำมีแนวโน้มน้ำท่วมแน่นอน แต่ สทนช.ได้มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในช่วงท้าย โดยขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันวางแผน และกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน รวมถึงมีตัวชี้วัดที่มีคุณภาพ และเตรียมความพร้อมสำหรับรับมือสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เพื่อทำให้เกิดน้ำท่วมน้อยที่สุด ขณะเดียวกันต้องตรวจดูความแข็งแรงของประตูระบายน้ำด้วย
เรื่องที่ 4,571 ยังคงมุ่งหน้าคว้าความสำเร็จ และรางวัลระดับโลกอย่างต่อเนื่องสำหรับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และภายใต้การนำของ “ดร.เอ้” คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
ในช่วงระยะเวลา 1 เดือนที่เข้ามารับตำแหน่งก็ได้ไปแล้ว 2 รางวัล ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทชั้นนำอันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาคอาเซียน จากนิตยสารฟอร์จูน (Fortune)
ซึ่งการให้รางวัลดังกล่าวมาจากการจัดอันดับบริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 500 (Fortune Southeast Asia 500) เป็นครั้งแรก โดยประเมินจากผลการดำเนินงานด้านการเงินในปีงบประมาณ 2566
รางวัลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นศักยภาพในการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโต รวมถึงการดูแลสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี บนหลักความยั่งยืนอย่างสมดุล
ต้องบอกว่าแม้ ดร.เอ้ จะเป็นผู้ได้รับรางวัลในฐานะซีอีโอ แต่ก็ต้องชื่นชมไปยัง “พี่โด่ง” อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ซีอีโอคนเก่าที่ปูทางเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยนะขอรับเจ้านาย
สรุปข่าวเด่นต่างประเทศ
เรื่องที่ 4,572 ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีแนวโน้มจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี ที่ 5.25% ในวันนี้ (20 มิ.ย.) เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ ซึ่งทำให้นายกรัฐมนตรีริชี ซูนัค ขาดแรงหนุนก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 4 ก.ค.นี้ นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE ได้พูดเปิดช่องไว้เมื่อเดือนที่แล้วสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยกล่าวว่าเขารู้สึก “มองโลกในแง่ดีว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง” และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.นี้ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม แม้ข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อวันพุธ (19 มิ.ย.) จะแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนพ.ค.ลดลงสู่เป้าหมาย 2% ของ BoE เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ซึ่งบ่งชี้ว่าอังกฤษบรรลุเป้าหมายเร็วกว่าสหรัฐหรือยูโรโซน แต่แนวโน้มเงินเฟ้อในระยะปานกลางในขณะนี้ยังไม่ค่อยน่าไว้วางใจนัก
เรื่องที่ 4,573 ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 6.25% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันธนาคารกลางอินโดนีเซียให้คำมั่นว่าจะมุ่งเน้นการรักษาเสถียรภาพสกุลเงินรูเปียห์ ท่ามกลางแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้
นายเพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซียเปิดเผยในระหว่างการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนที่กรุงจาการ์ตาว่า ค่าเงินรูเปียห์ยังคงอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ และความเคลื่อนไหวของค่าเงินรูเปียห์ก็สอดคล้องกับการดำเนินนโยบายของธนาคารกลาง ส่วนการที่รูเปียห์อ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมานั้น นายวาร์จิโยกล่าวว่าเป็นเพราะอุปสงค์สกุลเงินดอลลาร์ในภาคเอกชนและมุมมองที่นักลงทุนมีต่อแนวโน้มด้านการคลัง
เรื่องที่ 4,574 กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และประกันสังคม กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการคลังของจีน ประกาศมาตรการส่งเสริมการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่และเยาวชนคนหนุ่มสาว โดยมีมาตรการสำคัญประกอบด้วยการมอบเงินอุดหนุนครั้งเดียวให้กับนายจ้างที่จ้างงานบัณฑิตจบใหม่หรือเยาวชนที่ลงทะเบียนว่างงานไว้ และการมอบเงินอุดหนุนครั้งเดียวให้กับนายจ้างที่สร้างตำแหน่งงานใหม่เพื่อรองรับบัณฑิตจบใหม่หรือเยาวชนที่ลงทะเบียนว่างงานไว้โดยเฉพาะ โดยมาตรการมอบเงินอุดหนุนดังกล่าวจะมีผลไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2568
นอกจากนั้นยังมีมาตรการสนับสนุนการฝึกงาน เพื่อให้องค์กร โครงการที่รัฐบาลลงทุน และสถาบันภาครัฐ มอบโอกาสในการฝึกงานให้กับเยาวชน โดยในปี 2567 และ 2568 ตั้งเป้ารับเยาวชนเข้าฝึกงานอย่างน้อย 1 ล้านตำแหน่งต่อปี
เรื่องที่ 4,575 รัฐบาลอินเดียเปิดเผยข้อมูลในวันพุธ (19 มิ.ย.) ระบุว่า อินเดียมีปริมาณการส่งออกอาหารทะเลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงปีงบประมาณ 2566-2567 แม้เผชิญความท้าทายต่าง ๆ ก็ตาม ข้อมูลระบุว่า อินเดียได้จัดส่งอาหารทะเล 1,781,602 ตัน มูลค่า 7.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในระหว่างปีงบประมาณดังกล่าว ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น 2.67% แต่มูลค่าการส่งออกลดลง 8.77%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กุ้งแช่แข็งยังคงเป็นสินค้าส่งออกประเภทอาหารทะเลที่สำคัญ โดยคิดเป็น 40.19% ของปริมาณส่งออกรวม และ 66.12% ของมูลค่าส่งออกรวม ทั้งนี้ สหรัฐและจีนเป็นผู้นำเข้าอาหารทะเลรายใหญ่ของอินเดีย
โดยนพวัชร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ข่าวเด่น เย็นนี้ 19 มิ.ย.2567