ข่าวเด่น เย็นนี้ 21 เม.ย.2567
พรรคไทยสร้างไทย จัดประชุมใหญ่ “ไทยสร้างไทย ก้าวต่อไปเพื่อคนตัวเล็ก” โดยมีแกนนำพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง พร้อมด้วยสมาชิกพรรคกว่า 500 คน
เรื่องที่ 4,359 ในการประชุมครั้งนี้ พรรคไทยสร้างไทย ได้ประกาศ อุดมการณ์พรรค โดยเฉพาะการสร้างนโยบายเพื่อช่วยคนตัวเล็ก การมุ่งมั่นลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศ โดยมีคนรุ่นใหญ่เป็นฐาน และมีคนรุ่นใหม่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนพรรค
ในการประชุมพรรคนี้ไฮไลท์สำคัญ คือการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และเลือก สส.ชัชวาล แพทยาไทย เป็นเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย รวมทั้งเลือกคนรุ่นใหม่เป็นรองหัวหน้าพรรค และรองเลขาธิการพรรค ในอีกหลายตำแหน่งสำคัญ เช่น นายสมชาย เวสารัชตระกูล นายกิติ วงษ์กุหลาบ นายเทพฤทธิ์ สีน้ำเงิน เป็นรองหัวหน้าพรรค ส่วน นายนรุตม์ชัย บุนนาค นายรณกาจ ชินสำราญ นายณัฐวัฒน์ พอใช้ได้ นายภัทรดนัย ใหม่พระเนตร นายวรวุฒิ โตวิรัตน์ และนายรัตนมงคล เลิศทวีวิทย์ เป็นรองเลขาธิการพรรค เป็นต้น
เรื่องที่ 4,360 เมื่อคนเก่าไปก็ต้องมีคนใหม่เข้ามาแทนเป็นเรื่องธรรมดาของทุกองค์กร โดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการผู้นำในการขับเคลื่อน จะปล่อยให้ว่างเว้นตำแหน่งผู้นำก็คงจะไม่ดีนัก
ล่าสุดบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group ก็ได้ผู้นำคนใหม่แทนที่ เทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่คนเดิม ที่ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
โดยประกาศแต่งตั้ง “จิราพร ศิริคำ” ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ กรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการชุดย่อย ได้แก่ กรรมการลงทุน กรรมการกำกับความเสี่ยง และกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน
ซึ่งก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด เพราะ “จิราพร” ถือว่ามีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจไฟฟ้าและนวัตกรรมพลังงาน รวมถึงการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจมาอย่างยาวนาน ที่สำคัญเคยดำรงตำแหน่ง รักษาการผู้ว่าการ กฟผ. และได้ดำรงตำแหน่งกรรมการ EGCO Group มาตั้งแต่ปี 2565 ทำให้มีความพร้อมในการดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่
นอกจากนี้ รวมถึงมีความเข้าใจในทิศทางการดำเนินธุรกิจของ EGCO Group และเป็นผู้มีส่วนร่วมในโครงการเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ เรียกว่าเหมาะสมทุกประการเลยขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 4,361 ยังคงจับตา ค่าเงินบาท ทองคำและหุ้น บ้านเรา เพราะในช่วงนี้ ผันผวนหนัก ล่าสุด ตลาดหุ้นไทยทรุดตัวแล้วทรุดตัวอีก ก่อนสงกรานต์ กลางเดือนเม.ย.ยังเห็นแตะ 1,400 จุดอยู่เลย มาเมื่อวันศุกร์ที่ 19 เม.ย. แตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี 5 เดือนที่ 1,330.24 จุด
ขณะที่ค่าเงินบาท อ่อนหนักใกล้แตะ 37 บาท มาอยู่ที่ 36.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ อ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือนครั้งใหม่ ยั้งนี้!! ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจไทยมีแต่ทรงกับทรุด ส่วนทองคำก็ทำ new high ทองรูปพรรณ พุ่ง ทะลุ 40,000 บาท ไปแตะ 42,000 บาท และราคาน้ำมันก็ไม่ต้องพูดถึง
ดังนั้น ความขัดแย้งและไม่ลงรอยระหว่างรัฐบาลกับแบงก์ชาติ สุดท้ายแล้ว ประชาชนเศร้าใจ!!
เรื่องที่ 4,362 สายข่าวเล่าเรื่องจริง นักข่าวเบื่อ คนใน สศค.ก็ยิ่งเบื่อ เปิดดูคำศัพท์ คำว่า เบื่อ หมายถึง ยาเบื่อหรือยาพิษ พิมพ์เพิ่มเข้าไป Google บอกว่า “เบื่อหน่าย” หมายถึง ระอา ระอิดระอา อิดหนาระอาใจ เหนื่อยหน่าย เบื่อหน่ายหรือหมดกำลังใจ เพราะถูกรบกวนทำให้เกิดรำคาญ หรือมีเหตุติดขัดบ่อยๆ
ช่วงนี้ ไม่ต้องมีใครมาย้ายข้าราชการ สศค.ไปให้หมดกรมหรอกครับ อยู่ๆ ไป เดี๋ยวก็ลาออกหมดกรม ไปเอง!! ปล. จากเจ้ากรมข่าวลือ
เรื่องที่ 4,363 มีคนมาต่อว่า “พี่ตู่-กฤษฎา จีนะวิจารณะ” รมช.คลัง ไม่ทำอะไร ปากนิ คันขึ้นมาทันที ไม่รู้จักบิ๊กตู่ กระทรวงการคลัง ผู้ปิดทองหลังพระหลายโครงการ เล่าให้ล่าสุด มาตรการอสังหาริมทรัพย์ ลดค่าธรรมเนียนการโอน และจดจำนอง รวมถึงสินเชื่อแบงก์รัฐทั้ง ธอส.และออมสิน ก็มาจากฝีมือพี่ตู่นะ จะบอกให้!!
นอกจากนี้ ยังมีอีกมากมายทั้งการตั้ง เอเอ็มซีแบงก์รัฐ การสั่งให้ออมสินเน้นสินเชื่อเพื่อสังคมอีกตั้งหลายโครงการ แล้วมาบอกว่า พี่เขาไม่ทำอะไร เสียใจแทนว่ะ!!
เรื่องที่ 4,364 สุดปังที่สุด ณ เวลานี้ สำหรับการประมูลบ้านมือสอง ของธนาคาร ธอส. ที่ล่าสุดได้รายงานผลการจัดงานประมูลขายบ้านมือสอง ธอส. ประจำปี ครั้งที่ 1/2567 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 20 เม.ย. 2567 ระหว่างเวลา 10.00-16.00 น. สามารถจำหน่ายบ้านมือสองได้จำนวน 431 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวม 512 ล้านบาท แบ่งเป็นทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 129 รายการ คิดเป็นมูลค่า 160 ล้านบาท และทรัพย์ในส่วนภูมิภาค จำนวน 302 รายการ คิดเป็นมูลค่า 352 ล้านบาท
เรื่องที่ 4,365 จากข้อมูลของกระทรวงยุติธรรม ที่ได้เดินหน้าจัดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ทั่วประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย และ เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ จากสถาบันการเงิน สามารถไกล่เกลี่ยได้สำเร็จ 94,328 ราย ทุนทรัพย์รวมทั้งสิ้น 23,529,021 บาท ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีได้ 7,024,339,460 บาท โดยข้อมูลการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง สำเร็จ 49,935 ราย ทุนทรัพย์ 7,078,978,618 บาท ลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน 6,419,844,288 บาท ลดต้นทุนภาครัฐได้ถึง 3,677,376บาท และข้อมูลการไกล่เกลี่ยหลังศาลมีคำพิพากษา สำเร็จ 44,393 ราย ทุนทรัพย์ 16,450,422,403บาท ลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน 604,495,172 บาท
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 4,366 ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า บรรดานักลงทุนและผู้สังเกตการณ์ในตลาดการเงินมองว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินคาดท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงนั้น ถือเป็นความเสี่ยงมากที่สุดต่อเสถียรภาพด้านการเงิน “ความเสี่ยงของแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากกว่าที่คาดไว้นั้น ยังคงเป็นความเสี่ยงที่ถูกระบุถึงบ่อยที่สุด” เฟดระบุในรายงานเสถียรภาพด้านการเงินรายครึ่งปีซึ่งเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (19 เม.ย.)
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวประกอบด้วยผลสำรวจบุคคลที่เกี่ยวข้องในตลาดการเงิน รวมถึงการประเมินความเสี่ยงของเฟดใน 4 ประเด็นหลักได้แก่ การประเมินมูลค่าสินทรัพย์, การกู้ยืมโดยธุรกิจและครัวเรือน, หนี้สินในภาคการเงิน และความเสี่ยงด้านการเข้าถึงเงินทุน
เรื่องที่ 4,367 นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวเมื่อวันศุกร์ (19 เม.ย.) ว่า BOJ มีแนวโน้มอย่างมากที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเพิ่มขึ้น โดยเน้นย้ำว่าการตัดสินใจในอนาคตจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเงินเฟ้อ
หลังจาก BOJ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 17 ปีในการประชุมนโยบายครั้งก่อนในเดือนมี.ค.นั้น นายอุเอดะยอมรับว่า การที่ญี่ปุ่นมีอัตราดอกเบี้ยเป็นศูนย์มาเป็นเวลานานนั้น ทำให้ BOJ เผชิญความยากลำบากในการกำหนดว่าอัตราดอกบี้ยควรจะอยู่ที่ระดับสูงเพียงใด อย่างไรก็ตาม สำหรับตอนนี้ นายอุเอดะได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรักษาสภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลาย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงต่ำกว่าเป้าหมายของ BOJ ที่ระดับ 2%
เรื่องที่ 4,368 กระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซา รายงานเมื่อวานนี้ (20 เม.ย.) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาจากการโจมตีของอิสราเอล ได้เพิ่มขึ้นเป็น 34,049 รายแล้ว
แถลงการณ์ระบุว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนการรายงานตัวเลขดังกล่าว กองทัพอิสราเอลได้สังหารชาวปาเลสไตน์ไป 37 คน และบาดเจ็บอีก 68 คน ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 34,049 คน และบาดเจ็บ 76,901 คน นับตั้งแต่ที่เกิดความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว รายงานระบุว่าผู้เคราะห์ร้ายบางส่วนยังคงติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง โดยยังคงมีการทิ้งระเบิดอย่างหนักหน่วงและขาดแคลนกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย
เรื่องที่ 4,369 สำนักข่าวซินหัวรายงานการเปิดเผยของกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า การค้าอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนของจีนในช่วงไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ของปีนี้ รวมอยู่ที่ 5.77 แสนล้านหยวน (ราว 2.88 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 9.6% เมื่อเทียบปีต่อปี
รายงานระบุว่า การนำเข้าและส่งออกอีคอมเมิร์ซของจีนกับกลุ่มประเทศคู่ค้าอีคอมเมิร์ซเส้นทางสายไหม เช่น ฮังการี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กัมพูชา และบราซิล เติบโตอย่างรวดเร็วในไตรมาสแรกของปีนี้ กระทรวงฯ เปิดเผยว่า มีการนำพากลุ่มแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจีนไปจัดงานแสดงสินค้าโรดโชว์ (roadshow) ในหลายประเทศเป็นครั้งแรก ทำให้บริษัทอีคอมเมิร์ซจีนสามารถเชื่อมโยงกับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในอิตาลีได้มากกว่า 60 ราย
เรื่องที่ 4,370 นายฮุซัยน์ อะมีร อับดุลลอฮิยอน (Hossein Amirabdollahian) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (19 เม.ย.) ว่า ทางการอิหร่านกำลังสอบสวนกรณีโดรนโจมตีอิหร่าน แต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงว่าโดรนเจ้าปัญหานี้มาจากอิสราเอล และอาจไม่ใช่โดรนด้วยซ้ำ
รมว.ต่างประเทศอิหร่านเปิดเผยกับสำนักข่าวเอ็นบีซี นิวส์ ว่าโดรนตัวนี้มาจากในอิหร่านเอง และบินอยู่ไม่กี่ร้อยเมตรก่อนที่จะถูกยิงร่วงลงมา โดยกล่าวว่า “ของพวกนี้ … เหมือนของเล่นที่เด็ก ๆ เล่นมากกว่า ไม่ใช่โดรน” อย่างไรก็ดี สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างความคิดเห็นของนักการทูตชาวตะวันตกรายหนึ่งว่า จริง ๆ แล้วอิสราเอลได้ยิงขีปนาวุธโจมตีอิหร่านจริง แต่อิหร่านไม่ยอมออกมายอมรับเนื่องจากกลัวเสียหน้าว่าระบบป้องกันของอิหร่านไม่มีประสิทธิภาพมากพอ
โดยนพวัชร์