ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 3-4 ต.ค.2566
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2023/10/image-46-1024x768.png)
บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปรากฎตัวครั้งแรก หลังห่างหายไปกว่า 2 สัปดาห์
เรื่องที่ 2,975 โดย พล.อ.ประวิตร โผล่ในที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ในงามสัมมนา ส.ส.ของพรรค พร้อมเปิดเผยว่า ที่หายไปกว่า 2 สัปดาห์ เพราะมีอาการเจ็บขา
จะว่าไปแล้ว บทบาทของ พล.อ.ประวิตร ลดลงเมื่อพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย แม้เป็นหัวหน้าพรรค แต่บทบาทการประสานงานถูกส่งต่อไปที่มือขวาอย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ
ถึงวันนี้ ร.อ.ธรรมนัส มีอำนาจมากในพรรคพลังประชารัฐ ทั้งยังนั่งในตำแหน่งใหญ่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่พรรคเพื่อไทย หมายมั่นจะเก็บไว้สร้างสรรค์ผลงานของตนเอง
นั่นจึงทำให้ถูกมองว่า ที่พรรคเพื่อไทย ยอมให้ตำแหน่งนี้แก่ ร.อ.ธรรมนัส ก็คาดหวังว่าวันหนึ่ง ร.อ.ธรรมนัส จะกลับมาพรรคเพื่อไทย
เมื่อนั้นอำนาจและบารมีของบิ๊กป้อม ก็จะลดลง จนพรรคพลังประชารัฐ เกิดความระส่ำยกใหญ่
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2023/10/IMG_1547-1024x683.jpeg)
เรื่องที่ 2,976 สร้างประเด็นเก่งก็คงต้องขอยกให้ท่านตุ๋ย “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานผู้ไม่ยอมนั่งประจำที่กระทรวงพลังงาน ผู้เก่งฉกาจเรื่องกฎหมาย
ล่าสุดเตรียมแก้กฎหมาย เพื่อกำหนดค่าการตลาดราคาน้ำมันไม่เกิน 2 บาทต่อลิตร ทุกชนิดน้ำมัน และหากผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามจะมีการเพิ่มบทลงโทษ โดยที่มีการหารือร่วมกับ คณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อวางแนวทางในการปรับแก้กฎหมายต่อไป
ท่านตุ๋ยให้เหตุผลว่าที่ผ่านมาเคยขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ในการกำหนดค่าตลาดที่มันเกิน 2 บาท แต่จะต่ำกว่าไม่เป็นไร แต่ปัจจุบันในบางรายมีค่าการตลาดสูงถึง 4 บาทต่อลิตร
ต้องบอกว่าแนวคิดของท่านก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่นโยบายที่ทำแต่สั่งนั้น ไม่รู้ว่าท่านเคยลงไปดูในรายละเอียดให้ลึกแค่ไหน เวลานี้ค่าไฟที่จะเอาให้ได้ 3.99 บาทต่อหน่วยก็ยังเคาะออกมาประกาศใช้ไม่ได้ ผู้รับนโยบายต่างก็ได้แต่กุมขมับหมดแล้วเจ้านาย เรื่องใหม่ก็มาเพิ่มอีก
เรื่องที่ 2,977 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ (3 ต.ค.) อยู่ที่ 37.02/08 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 37.09 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 36.95 – 37.13 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค ระหว่างวันยังไม่มีปัจจัยใหม่ ตลาดยังกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงดอกเบี้ยสูงเป็นเวลานาน ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาไม่ค่อยดี ขณะที่เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะฟื้นตัวช้า และยังไม่เห็นนโยบายทางการเงินการคลังที่คืบหน้า จึงยังไม่มีปัจจัยกดให้เงินบาทแข็งค่า
“เงินบาทอ่อนค่าไปถึง 37.13 บาท/ดอลลาร์ แต่ยังถือเป็นระดับที่อ่อนค่าสุดในรอบ 10 เดือนครึ่ง” นักบริหารเงินกล่าว ส่วนในวันพรุ่งนี้ (4 ต.ค.) คาดว่า จะอยู่ที่ 37.20 – 37.80 บาท/ดอลลาร์
เรื่องที่ 2,978 นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนมากขึ้น และอ่อนค่าผ่านระดับ 37 บาทต่อดอลลาร์ คิดเป็นอ่อนค่าลง 6.75% จากต้นปี สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาค โดยการอ่อนค่าในช่วงหลังได้รับผลจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก โดยเฉพาะการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ จากความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะคงดอกเบี้ยไว้นานกว่าที่คาด ประกอบกับ แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีกว่าประเทศอื่นๆ โดยเปรียบเทียบ
นอกจากนี้ ค่าเงินบาทยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากราคาทองคำที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบปี ซึ่งตลาดมองว่าอาจกระทบต่อดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย ประกอบกับ นักลงทุนยังรอความชัดเจนของนโยบายการคลังและการระดมทุนของภาครัฐ
เรื่องที่ 2,979 มติ ครม.โยกย้ายและตั้งแต่ผู้บริหารระดับของกระทรวงการคลัง ในรอบนี้ ไม่โหดร้ายจนเกินไป แต่ไม่ถึงกับดี หรือมีคุณธรรมครบถ้วน 100% ถ้าพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว เด็กปั้น เด็กเส้น รอบนี้ ยังมีไม่ ได้ขาดหายไปไหน เพราะที่มองเห็นชัดๆ คือ “แบงก์-ธีรลักษ์ แสงสนิท” จากที่ปรึกษา สนบ. เป็นผู้ตรวจฯ “หลุย-วุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล จากที่ปรึกษา สศค.เป็นผู้ตรวจฯ “บิ๊กอวบ-อัครุตม์ สนธยานนท์” ที่ปรึกษากรมสรรพสามิต เป็นรองปลัดกระทรวง “ปิ่น-ปิ่นสาย สุรัสวดี ปรึกษากรมสรรพากร เป็นรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง (ใครเป็น…ใครเดากันเอง เพราะที่เดานะ ถูกทุกข้อ) เช่น คนนามสกุล แสงสนิท อันดับที่ 3 ของกระทรวงการคลัง น้องใคร… !! บิ๊กอวบ ลูกน้องใคร ส่วนลูกพี่ น่าจะชื่อ “บิ๊กตู่” หรือสุรัสวดี ลูกใคร พรรคไหน!! บิ๊กหลุย นั้น น่าถูกวางตัวเป็น ผอ.สศค.คนต่อไป
ส่วน “อธิบดีหม่อง-พชร อนันตศิลป์” จากอธิบดีกรมศุลกากรมาเป็น ผอ.สบน. ก็ดูไม่แย่นัก แต่ถ้า จะให้ดี น่าจะดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะลูกหม้อหน่วยงานนี้ แต่เมื่อผู้ใหญ่ ตัดสินใจลงเอย แบบนี้ “อธิบดีหม่อง” ไม่หลุดเป็นรองปลัด หรือผู้ตรวจฯ ก็ถือว่า ได้ใจ “นพวัชร์”
“อธิบดีอุ๋ย-กุลยา ตันเตมิท” จากกรมบัญชีกลางไปอธิบดีกรมสรรพากร เรียกว่า “เป็นไปตามโผ” เพราะนอกจากอดีตปลัดคลัง คนล่าสุดเห็นด้วยแล้ว อดีตปลัดคนก่อนหน้านี้ ก็ยัง OK อีกด้วย ส่วนปลัดคลัง คนปัจจุบัน “อุ๋ย” เป็นน้องรักอยู่แล้ว
ขณะที่ “ผอ.แพต-แพตริเซีย มงคลวนิช” รอบนี้ ได้ขึ้นเป็นอธิบดีกรมบัญชีกลาง เท่ากับได้คืนความชอบธรรมหลังจากที่ให้เธอไปนั่งเป็น ผอ.สบน.ยาวถึง 4 ปี
สำหรับคนที่น่าเห็นใจ และต้องให้กำลังใจต่อไปมีอยู่ 2 คน 1.“รองนุช-วรนุช ภู่อิ่ม” รองปลัดคลัง ถ้ารอบนี้ ไม่ได้ขึ้น เหลือ 1 ปี ลุ้นเป็นอธิบดีกรมธนารักษ์สมัยเดียวต่อจาก “อธิบดีอ้วน-จำเริญ โพธิยอด” และ2. “ต้อง-ปิยกร อภิบาลศรี” หัวหน้าผู้ตรวจต่อไปอีก 1 สมัย ดันไปว่ายน้ำทวนกระแสรอบที่แล้ว มารอบนี้ รมช.คลัง เลยสกัดไม่ให้ขึ้นฝั่งแบบ “หน่อง-ธบดี วัฒนกุล” จากผู้ตรวจคือ หนึ่งเดียวในรอบนี้ ข้ามไปนั่งผอ.สคร. เรียกว่า “บิ๊กหน่อง” เพราะไม่ต้องเป็นรองปลัด ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเกิดปี2515 อนาคตยังอีกยาวไกล
ส่วนคนที่ไม่ได้เอยถึง “นพวัชร์” ไม่ได้ลืมนะจ๊ะ แต่รอบนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ไปก่อนทั้ง “โป๊ะ-ผอ.สศค.” “เอก-อธิบดีกรมสรรพสามิต” และ “พี่ตุ้ย-อธิบดีกรมศุลกากร”
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 2,980 รัฐบาลสิงคโปร์ คาดว่าจะมีการจับกุมและยึดทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ทางการกำลังสืบสวนหนึ่งในคดีฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกยึดขณะนี้อยู่ที่ 2,800 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในช่วงกลางเดือนส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจของสิงคโปร์ได้เข้าจับกุมชาวต่างชาติ 10 ราย และยึดทรัพย์สินหรูหรา เช่น อสังหาริมทรัพย์, รถยนต์, ทองคำแท่ง, กระเป๋าแบรนด์เนมและเครื่องประดับ รวมเป็นมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
นางโจเซฟิน เตียว รัฐมนตรีคนที่สองของกระทรวงมหาดไทยแห่งสิงคโปร์ แถลงต่อรัฐสภาในวันนี้ (3 ต.ค.) ว่า “คดีนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่า อาชญากรที่มีความมุ่งมั่นสามารถหาวิธีหลีกเลี่ยงได้แม้กระทั่งมาตรการป้องกันที่เข้มงวดที่สุด”
นอกจากนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ยังระบุว่า กำลังดำเนินการตรวจสอบสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว และจะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับสถาบันการเงินและพนักงาน หากพบว่าละเมิดข้อกำหนดของธนาคารกลาง
นางเตียวกล่าวว่า คดีนี้กลายเป็นที่จับตามองของตำรวจมาตั้งแต่ปี 2564 หลังการยื่นรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัยโดยสถาบันการเงิน
เรื่องที่ 2,981 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ลอตเตอรี่พาวเวอร์บอลของสหรัฐทบยอดเงินรางวัลแจ็กพอตจนพุ่งสูงขึ้นถึง 1,200 ล้านดอลลาร์สำหรับการจับสลากในวันพุธนี้ (4 ต.ค.) หลังจากไม่มีคนถูกรางวัลใหญ่มูลค่า 1,040 ล้านดอลลาร์ในการจับสลากคืนวันจันทร์ (2 ต.ค.) โดยเลขที่ออกคือ 12, 26, 27, 43, 47 และพาวเวอร์บอล 5
รางวัลแจ็กพอตในสัปดาห์นี้ จะเป็นรางวัลแจ็กพอตที่ใหญ่เป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์ของสลากกินแบ่งพาวเวอร์บอล โดยผู้ชนะสามารถเลือกรับรางวัลเป็นเงินก้อนมูลค่าก่อนหักภาษีที่ 551.7 ล้านดอลลาร์ ตามที่ระบุไว้บนเว็บไซต์พาวเวอร์บอล
เมื่อวันจันทร์ถือเป็นการจับสลากติดต่อกันครั้งที่ 32 ที่ไม่มีผู้ชนะรางวัลใหญ่ ทำให้ต้องมีการทบยอดเงินรางวัลแจ็กพอตไปงวดหน้า โดยครั้งล่าสุดที่แจ็กพอตแตกคือวันที่ 19 ก.ค. ด้วยลอตเตอรี่ใบที่ซื้อจากรัฐแคลิฟอร์เนียที่ถูกรางวัล 1,080 ล้านดอลลาร์
เรื่องที่ 2,982 กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) เปิดเผยเมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) ว่า ญี่ปุ่นได้เผชิญเดือนก.ย. ที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่ที่เริ่มเก็บข้อมูลเมื่อ 125 ปีก่อน โดยคาดว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
JMA ระบุว่า อุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนก.ย.สูงกว่าปกติ 2.66 องศาเซลเซียส ซึ่งนับเป็นอุณหภูมิที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการเก็บข้อมูลเมื่อปี 2441
ปีนี้คาดว่าจะเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เร่งตัวขึ้นในประเทศต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง ออสเตรีย, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, โปแลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้ประกาศว่า เดือนก.ย. ที่ผ่านมาเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์
เรื่องที่ 2,983 เบอร์เกอร์คิง ยังคงเปิดให้บริการตามปกติในรัสเซีย แม้ว่าเจ้าของแบรนด์ได้ให้คำมั่นว่าจะถอนกิจการออกจากประเทศมานานกว่า 1 ปีแล้วก็ตาม
บริษัทเรสเตอร์รองต์ แบรนด์ อินเตอร์เนชันแนล (RBI) ซึ่งถือหุ้น 15% ของธุรกิจแฟรนไชส์ร้านเบอร์เกอร์คิงในรัสเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวบีบีซีว่า ทางบริษัทยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการถอนกิจการมาแจ้งในตอนนี้
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมี.ค. 2565 บริษัทระบุว่า ทางบริษัทได้เริ่มต้นกระบวนการถอนกิจการออกจากรัสเซียแล้ว
นับตั้งแต่ที่สงครามเริ่มต้นขึ้นในยูเครน บริษัทต่างๆ จากชาติตะวันตกต้องเผชิญกับแรงกดดันให้ถอนกิจการออกจากรัสเซีย โดยนักวิจารณ์จวก RBI ว่า สนับสนุนระบอบการปกครองของประธานาธิบดีปูติน เนื่องจากไม่ยอมถอนกิจการออกจากรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม RBI ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ให้เหตุผลถึงความยุ่งยากในการถอนกิจการออกจากรัสเซียว่าเป็นเพราะข้อตกลงด้านแฟรนไชส์ที่ซับซ้อน โดยข้อตกลงดังกล่าวเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรอีก 3 ราย สำหรับร้านสาขาประมาณ 800 แห่งในรัสเซีย
บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งของไต้หวันกำลังช่วยบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ สร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเครือข่ายโรงงานผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ทั่วพื้นที่ทางตอนใต้ของจีน โดยความร่วมมือครั้งนี้อาจเพิ่มความตึงเครียดแก่ไต้หวัน ซึ่งกำลังเผชิญกับท่าทีอันแข็งกร้าวของจีน
ท่ามกลางฤดูร้อนที่ร้อนระอุของช่วงปลายเดือนส.ค. ในเมืองเซินเจิ้น สถานที่ก่อสร้างขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งก่อตั้งโดยบริษัทที่ได้รับทุนจากหัวเว่ย เต็มไปด้วยคนงาน โดยคนงานสวมหมวกนิรภัยรวมตัวกันอยู่รอบ ๆ แผงขายของริมถนน และวิธีเดียวที่จะแยกพวกเขาออกคือเสื้อชูชีพสีสันสดใสที่แสดงชื่อและโลโก้ของนายจ้าง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คนงานเหล่านี้ประกอบด้วยแรงงานจากบริษัทไต้หวัน ได้แก่ ท็อปโค ไซแอนทิฟิค (Topco Scientific) ผู้ค้าปลีกวัสดุชิป และบริษัทในเครือของแอลแอนด์เค เอ็นจิเนียริ่ง (L&K Engineering) ส่วนที่ไซต์ก่อสร้างอีกแห่งของบริษัทในเครือหัวเว่ย สำนักข่าวบลูมเบิร์กตรวจพบ แรงงานจากบริษัทในเครือของบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างอย่างยูไนเต็ด อินทิเกรทเต็ด เซอร์วิส (United Integrated Services)
ขณะเดียวกัน บริษัทซิกา-ฮันเทค เคมิคอล เทคโนโลยี ไต้หวัน (Cica-Huntek Chemical Technology Taiwan) ของไต้หวันระบุผ่านทางเว็บไซต์ว่า บริษัทคว้าสัญญาในการสร้างระบบจ่ายสารเคมีให้กับผู้ผลิตชิปในจีน 2 ราย ได้แก่ บริษัทเซินเจิ้น เพนซุน เทคโนโลยี (Shenzhen Pensun Technology) และบริษัทเผิงซินเว่ย ไอซี แมนูแฟคเจอริ่ง (Pengxinwei IC Manufacturing) ซึ่งถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำเมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องจากทั้งสองบริษัททำงานร่วมกับหัวเว่ยเพื่อสร้างโรงงานผลิตชิป
อย่างไรก็ดี บริษัทได้ลบข้อมูลอ้างอิงทางออนไลน์ หลังจากที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสอบถามเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวัน ซึ่งรับผิดชอบด้านการควบคุมการส่งออก ระบุว่า จะเข้าตรวจสอบความสัมพันธ์ของบริษัทไต้หวันทั้ง 4 แห่งกับหัวเว่ย
เรื่องที่ 2,984 ดร.กอตอลิน กอริโกและดร.ดรูว์ ไวส์แมน 2 นักวิทยาศาสตร์คว้ารางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ ประจำปี 2566 จากงานวิจัยที่เปิดทางให้เกิดการพัฒนาวัคซีน mRNA เพื่อป้องกันโรคโควิด-19
ผลงานของ 2 นักวิทยาศาสตร์ดังกล่าวช่วยบุกเบิกเทคโนโลยีที่ช่วยให้บริษัทโมเดอร์นา และบริษัทไฟเซอร์ สามารถพัฒนาวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว และวัคซีนดังกล่าวได้ถูกแจกจ่ายให้แก่ผู้คนหลายร้อยล้านคนทั่วโลก ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการบรรเทาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ mRNA (messenger Ribonucleic Acid) เป็นสารพันธุกรรมชนิดหนึ่งในสิ่งมีชีวิต ซึ่งรวมถึงไวรัสด้วย แนวคิดของการพัฒนาวัคซีนด้วย mRNA คือ เมื่อนำส่งสารพันธุกรรมชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ ร่างกายจะมีการสร้างโปรตีนหนาม (spike protein) ซึ่งเป็นโปรตีนส่วนที่จะกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างภูมิคุ้มกันไวรัสCOVID-19 ได้
เรื่องที่ 2,985 ข้อมูลจากทางการตุรกีที่เผยแพร่ในวันนี้ (3 ต.ค.) ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของตุรกี เพิ่มขึ้นแตะ 61.53% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์ในผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 61.7% และนับเป็นการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน โดยมีสาเหตุจากการปรับขึ้นภาษีเมื่อเร็ว ๆ นี้ และสกุลเงินลีราตุรกีที่อ่อนค่าลง
ทั้งนี้ เมื่อเทียบรายเดือน อัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคของตุรกีเพิ่มขึ้น 4.75% ในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของตุรกีพุ่งสูงขึ้นถึงกว่า 85% ในปีที่แล้ว หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งนำไปสู่การลดค่าสกุลเงินลีราลงอย่างมากในช่วงปลายปี 2564
ที่ผ่านมา…
โดยนพวัชร์