ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 8-9 ก.ย. 2566
อีกหนึ่งกระทรวงที่ถูกจับตามองมากที่สุด
เรื่องที่ 2,805 อีกหนึ่งกระทรวงที่ถูกจับตามองมากที่สุด หลังการตั้งรัฐบาลที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี นั่นก็คือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มี ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ
หากยังจำกันได้ เมื่อปลายปี 2564 ผู้กองธรรมนัส ถูก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ขับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ หลังจากมีข่าวว่าผู้กองคนดัง คิดการใหญ่ โค่นล้มนายกรัฐมนตรี
เมื่อครั้งที่พรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายค้าน ผู้กองธรรมนัส ก็ถูกถล่มอย่างหนัก ถึงเรื่องของคุณสมบัติการถือครองตำแหน่งรัฐมนตรีของผู้กองธรรมนัส แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ผู้กองธรรมนัสกลับได้นั่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวง เกรด A
คำถามคือแล้วก่อนหน้านี้ที่พรรคเพื่อไทยโจมตีคุณสมบัติของผู้กองธรรมนัส หมายความว่าอย่างไร เป็นแค่ละครการเมืองหรือไม่
และเมื่อถึงคราวอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน นี่แหละที่จะเป็นสายล่อฟ้า
เรื่องที่ 2,806 ยังไม่ได้ทันได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาท่านรองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานก็สร้างกระแสได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับเรื่องแรกที่ว่าจะเล่าแต่ก็มีเรื่องอื่นมาแซงไปตลอดก็คือ การที่ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ลั่นว่าจะไปนั่งทำงานที่ “บ้านพิบูลธรรม” หรือชื่อเดิม บ้านนนที
ทั้งที่กระทรวงวพลังงาน และห้องทำงานของ รมว.พลังงานอยู่ที่ชั้น 25 อาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ถนนวิภาวดีรังสิต เรื่องนี้ก็ทำให้เกิดความสนใจขึ้นทันทีว่า บ้านพิบูลธรรม คือที่ไหน ทำไมต้องไปทำงานที่นั่น
โดยบ้านพิบูลธรรมนั้นอยู่ในพื้นที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน โดยในอดีตเป็นที่ตั้งกระทรวงพลังงาน ก่อนที่จะย้ายไปอยู่อาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ยกเว้น พพ.ซึ่งยังอยู่ที่เดิม
แถม “พีระพันธุ์” ยังมีการวางตัวนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายณอคุณ สิทธิพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน มาเป็นที่ปรึกษาและให้นั่งทำงานที่กระทรวงพลังงาน อาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์แทน ที่บางคนถึงกับบอกว่าเสมือนเป็น รมว.พลังงานเงาก็ไม่ปาน
ก็เข้าใจแหละนะว่ายุคนี้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีนั่งที่ไหนก็ทำงานเชื่อมต่อกันได้ ก็ได้แต่ภาวนาที่ต้องไปที่นั่นเพราะต้องการความสงบในการคิดงานมากกว่าจะเป็นสถานที่ลับสำหรับผู้มาเข้าพบก็แล้วกันนะขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 2,807 สวนดุสิตโพล เผยสิ่งที่ประชาชนอยากจะบอกกับคณะรัฐมนตรี “เศรษฐา 1” โดยพบว่า ประชาชนอยากจะบอกกับ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง มากที่สุดอันดับแรก อยากให้บริหารประเทศด้วยความโปร่งใส คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนมากสุด 45.99% รองลงมา อยากให้ใช้ความสามารถในการเป็นผู้บริหารธุรกิจมาใช้บริหารประเทศ 31.02% และตามด้วย ให้ทำตามนโยบายที่ประกาศไว้ โดยเฉพาะเงินดิจิทัล 10,000 บาท 28.10%
เรื่องที่ 2,808 “บริษัทของคนหัวคิดทันสมัย” ก็คือ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต ที่สามารถพิชิต “รางวัลบริษัทประกันภัยเกียรติยศสูงสุด (Hall of Fame)” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 รางวัลสูงสุดเหนือเกียรติยศ แห่งเดียวของวงการประกันภัย ตอกย้ำการบริหารงานดีเด่น-สร้างสรรค์นวัตกรรม-ใส่ใจความยั่งยืนทุกมิติ พร้อมรับอีก 2 รางวัลใหญ่ จากสำนักงาน คปภ.
นอกจากนี้ ยังได้รับอีก 2 รางวัลใหญ่ “รางวัลบริษัทประกันชีวิตที่มีการส่งเสริมกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อประชาชนดีเด่น” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 และ “รางวัลบริษัทประกันชีวิตที่สร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีประกันภัยดีเด่น” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
ช่วงนี้ ถ้าเห็น “ป้อง-สาระ ล่ำซำ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต ยิ้มแก้มปริ เดินพยักหน้า ผงกหัว เป็นอันรู้กันหมายถึง “ขอบคุณครับ”!!
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 2,809 บลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ (Bloomberg Intelligence หรือ BI) ประเมินว่า พายุฝนที่โหมกระหน่ำฮ่องกงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2427 นั้น อาจจะสร้างความเสียหายให้กับฮ่องกงเป็นมูลค่าสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อิทธิพลของพายุฝนทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเกาะฮ่องกงตั้งแต่เมื่อคืนวันพฤหัสบที่ 7 ก.ย. ส่งผลให้ยานยนต์จำนวนมากได้รับความเสียหาย, น้ำท่วมสถานีรถไฟใต้ดิน และสร้างความเสียหายต่อห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ขณะที่บริษัทเอ็มทีอาร์ คอร์ป (MTR Corp) ผู้ให้บริการเครือข่ายรถไฟฟ้าของฮ่องกงเปิดเผยว่า จะปิดเส้น ทางเดินรถกวนตง เนื่องจากเกิดเหตุน้ำท่วมใกล้สถานีหว่องไท่ซิน ทั้งนี้ BI ระบุว่า พายุไต้ฝุ่นเซาลาที่พัดถล่มฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายน้อยกว่าพายุฝนในครั้งนี้ แม้จะมีความรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่พายุไต้ฝุ่นมังคุดพัดถล่มเมื่อปี 2561 แต่ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดน้ำท่วมหนัก
ส่วนพายุไต้ฝุ่นมังคุดซึ่งก่อให้เกิดน้ำท่วมนั้น ได้สร้างความเสียหายมูลค่า 470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ไต้ฝุ่นฮาโตะเมื่อปีที่แล้วทำให้เกิดการเรียกร้องค่าเสียหายมูลค่า 140 ล้านดอลลาร์
ตลาดหุ้นฮ่องกงประกาศระงับการซื้อขายนในวันนี้ (8 ก.ย.)
เรื่องที่ 2,810 รายงานวิจัยที่เผยแพร่ เมื่อที่ 7 ก.ย. ระบุว่า ประชากรเกือบทั้งโลกประสบกับอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค. เนื่องจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปอันเกิดจากฝีมือของมนุษย์
ฤดูร้อนในซีกโลกเหนือประจำปี 2566 มีอุณหภูมิสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ที่เริ่มมีการจดบันทึก โดยคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมอเมริกาเหนือและทางตอนใต้ของยุโรป ส่งผลให้เกิดไฟป่าอย่างรุนแรง และอัตราการเสียชีวิตพุ่งขึ้นอย่างมาก โดยเดือนก.ค.เป็นเดือนที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่ที่เคยมีการจดบันทึก ขณะที่อุณหภูมิเฉลี่ยในเดือนส.ค.สูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมอยู่ 1.5 องศาเซลเซียส
การวิจัยของไคลเมท เซนทรัล (Climate Central) กลุ่มวิจัยซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐได้ทำการสำรวจอุณหภูมิของ 180 ประเทศและ 22 เขตพื้นที่ และพบว่า 98% ของประชากรโลกเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงขึ้น และอุณหภูมิมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองเท่า อันเนื่องมาจากมลภาวะจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
เรื่องที่ 2,811 สำนักข่าวซินหัวรายงานข้อมูลจากรัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งระบุว่า ศูนย์ให้คำปรึกษาเด็กทั่วประเทศจัดการกับคดีล่วงละเมิดเด็ก จำนวน 219,170 คดีในปีงบประมาณ 2565
ข้อมูลเบื้องต้นซึ่งเผยแพร่โดยสำนักงานเด็กและครอบครัวรายงานว่า ตัวเลขคดีล่วงละเมิดเด็กที่เกี่ยวข้องกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เพิ่มขึ้น 11,510 คดีจากปีก่อนหน้า ทำสถิติสูงสุดเป็นปีที่ 32 ติดต่อกันนับตั้งแต่เริ่มบันทึกสถิติในปีงบประมาณ 2533
รายงานระบุว่า คดีล่วงละเมิดทางจิตใจครองสัดส่วนประมาณ 60% ของคดีล่วงละเมิดทั้งหมด โดยมีจำนวนคดีประมาณ 129,500 คดี เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ามากกว่า 4,700 คดี
ขณะที่คดีล่วงละเมิดทางร่างกายครองสัดส่วนเกือบ 24% อยู่ที่ราว 51,700 คดี ตามมาด้วยคดีทอดทิ้งเด็กที่ประมาณ 16% อยู่ที่ราว 35,600 คดี ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศอยู่ที่ประมาณ 1% จำนวนราว 2,500 คดี
ช่วงปีงบประมาณ 2565 ซึ่งสิ้นสุดเดือนมี.ค. 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งรายงานคดีกว่าครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดไปยังศูนย์ให้คำปรึกษาเด็ก ซึ่งสะท้อนความตระหนักรู้เกี่ยวกับการป้องกันกาล่วงละเมิดเด็กที่เพิ่มขึ้นในองค์กรต่าง ๆ
เรื่องที่ 2,812 สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) รายงานว่า เกาหลีเหนือเปิดตัว “เรือดำน้ำโจมตีนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี” ลำแรก และมอบหมายให้ประจำการกับกองเรือที่ลาดตระเวนน่านน้ำระหว่างคาบสมุทรเกาหลีและญี่ปุ่น
นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือระบุว่า การติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ให้กับกองทัพเรือเป็นเรื่องเร่งด่วน พร้อมให้คำมั่นว่า จะถ่ายโอนเรือดำน้ำและเรือผิวน้ำที่ติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีเพิ่มเติมให้กับกองทัพเรือ
KCNA รายงานว่า “พิธีเปิดตัวเรือดำน้ำถือเป็นการเริ่มต้นบทใหม่ของการเสริมสร้างความแกร่งให้กับกองทัพเรือของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี”
นายคิมระบุว่า เรือดำน้ำหมายเลข 841 ชื่อ ฮีโร่ คิม คัน อ๊ก (Hero Kim Kun Ok) ซึ่งตั้งชื่อตามบุคคลในประวัติศาสตร์ของเกาหลีเหนือ จะปฏิบัติภารกิจในฐานะ “หนึ่งในยุทธวิธีหลักในการจู่โจมใต้น้ำของกองทัพเรือเกาหลีเหนือ”
เรื่องที่ 2,813 สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ภูมิอากาศวิทยา และธรณีฟิสิกส์ของอินโดนีเซีย (BMKG) กล่าวว่า ฤดูฝนในอินโดนีเซียคาดว่าจะเริ่มต้นในเดือนพ.ย. ซึ่งล่าช้ากว่าปกติ 1 เดือน หลังจากเผชิญกับฤดูแล้งที่ยาวนานกว่าปกติ อันเนื่องมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ
รายงานระบุว่า ฤดูแล้งของอินโดนีเซียคาดว่าจะรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2562 โดยจะแล้งหนักสุดในเดือนก.ย.- ต.ค. ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเก็บเกี่ยว และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า
BMKG คาดการณ์ว่า ฤดูฝนจะเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย. ในพื้นที่มากกว่า 60% ของอินโดนีเซีย รวมถึงจังหวัดส่วนใหญ่บนเกาะชวา และเกาะสุลาเวสี พร้อมเสริมว่า ปริมาณน้ำฝนอาจจะอยู่ในระดับปกติ แต่ภาคเกตรกรรมอาจได้รับผลกระทบ
นางดวีโกริตา การ์นาวาตี หัวหน้า BMKG แถลงต่อสื่อมวลชนว่า “เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นปัญหา เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่ต่างกำหนดเวลาการเก็บเกี่ยวไว้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ ฤดูฝนจะมาช้ากว่าปกติ” นอกจากนี้ สภาพอากาศที่ร้อนเป็นระยะเวลานานยังส่งผลให้การเพาะปลูกข้าวหยุดชะงัก และส่งผลให้ราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นอีกด้วย
เรื่องที่ 2,814 อัลทราทา (Altrata) และเวลธ์ ? เอ็กซ์ (Wealth ? X) เผยแพร่รายงานความมั่งคั่งพิเศษโลก (World Ultra Wealth Report) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์กลุ่มผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ (Ultra – High – Net – Worth: UHNW) ของโลก โดยบ่งชี้ถึงคนรวยที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิมากกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
รายงานระบุว่า กลุ่ม UHNW นี้ขยายใหญ่ขึ้นและมีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยปัจจุบันถือครองทรัพย์สินรวมกันถึงกว่า 45 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 จำนวนคนที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม UHNW ลดลง 5.4% สู่ระดับ 395,070 คน โดยถือเป็นการลดลงรายปีครั้งแรกในรอบ 4 ปีและลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558
รายงานระบุว่า เอเชียเป็นทวีปที่มีจำนวนประชากรกลุ่ม UHNW มากที่สุดอันดับสอง รองจากอเมริกาเหนือ แต่จำนวนประชากรและความมั่งคั่งสะสมในกลุ่มดังกล่าวลดลงมากที่สุดในโลกในปี 2565 โดยประชากร UHNW ของเอเชียลดลง 10.9% แตะที่ 108,370 ราย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 27% ของโลก ส่วนความมั่งคั่งรวมลดลง 10.6%
ปัจจัยที่กระทบต่อกลุ่ม UHNW ของเอเชียในปี 2565 คือการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของจีน ซึ่งเพิ่งยกเลิกไปในเดือนธ.ค.ปีที่ผ่านมา และผลกระทบจากสงครามในยูเครนที่มีต่อการส่งออกและการบริโภค รวมถึงภาวะติดขัดด้านห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาคและภาวะหุ้นซบเซา โดยเฉพาะในตลาดที่มีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นจำนวนมาก เช่น เกาหลีใต้และไต้หวัน
นอกจากนี้ ความมั่งคั่งของกลุ่ม UHNW ในเอเชียยังเผชิญแรงกดดันจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น โดยกรณีดังกล่าวทำให้เกิดความผันผวนในตลาดสินทรัพย์ต่าง ๆ ทั่วเอเชียและทำให้ภาวะการเงินตึงตัวขึ้น เนื่อง จากธนาคารกลางระดับภูมิภาคต้องเคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนสกุลเงินท้องถิ่นที่ถูกกดดันส่วนอเมริกาเหนือเป็นทวีปที่มีประชากร UHNW มากที่สุดในโลก แต่ประชากรกลุ่มดังกล่าวลดลง 4% แตะที่ 142,990 รายในปี 2565 ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 ปีและลดลงรายปีมากที่สุดในรอบหนึ่งทศวรรษ
ประเทศและดินแดนที่มีประชากร UHNW มากที่สุดประจำปี 2565
- สหรัฐ 129,665 คน
- จีน 47,190 คน
- เยอรมนี 19,590 คน
- ญี่ปุ่น 14,940 คน
- อังกฤษ 14,005 คน
- แคนาดา 13,320 คน
- ฮ่องกง 12,615 คน
- ฝรั่งเศส 11,980 คน
- อิตาลี 8,930 คน
- อินเดีย 8,880 คน
โดยนพวัชร์