ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 14-15 ส.ค. 2566
นอกจากพรรคก้าวไกลแล้ว อีกหนึ่งพรรคที่จะต้องเป็นฝ่ายค้านอย่างแน่แท้ นั่นก็คือ พรรคประชาธิปัตย์
เรื่องที่ 2,684 นอกจากพรรคก้าวไกลแล้ว อีกหนึ่งพรรคที่จะต้องเป็นฝ่ายค้านอย่างแน่แท้ นั่นก็คือ พรรคประชาธิปัตย์
ผ่านไป 3 เดือนหลังจากที่จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถึงวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ ยังไร้หัวเรือ แม้จะมีการประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ถึงสองครั้ง แต่การประชุมก็ล่มอย่างไม่เป็นท่า
พรรคประชาธิปัตย์ จะต้องเป็นฝ่ายค้าน เพราะเป็นพรรคการเมืองที่ต่อสู้กับพรรคเพื่อไทย มานานนับ 20 ปี
อดีตการต่อสู้ของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย มีความบาดหมางยาวนาน ทั้งในศึกการเลือกตั้ง และศึกการเมืองข้างถนน
บาดแผลสำคัญที่พรรคเพื่อไทยไม่อาจดึงพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาลได้ คือบาดแผลจากการชุมนุมทางการเมืองในปี 2553 ที่มีคนเสื้อแดง ล้มตายกว่า 99 ศพ บาดเจ็บกว่า 2,000 คน แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่พบว่าใครมีความผิด
ดังนั้น ในการจัดตั้งรัฐบาลพิเศษ ครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ จึงตกขบวน ไม่อาจร่วมก๊วนรัฐบาลไปกับพรรคเพื่อไทยได้
และวันนี้พอจะมองเห็นภาพของฝ่ายค้านเริ่มชัดขึ้น อันจะประกอบด้วย พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม
เรื่องที่ 2,685 ไม่ว่าจะมีรัฐบาลมาเป็นหัวขบวนคอยนำทัพขับเคลื่อนเศรษฐกิจหรือไม่สำหรับคนขยันทำงานอย่างพี่ปืน “นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์” เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI)แล้วยังคงเดินหน้าทำงานแบบไม่หยุด หลังจากที่กลับมาจากชักชวนนักลงทุนจากออสเตรเลียให้เข้ามาปีกหลักในไทยเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดพี่ปืนก็มุ่งทำงานภายในประเทศต่อ
ครั้งนี้ก็ไปร่วมกับสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ซับคอน) และอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เพื่อผลักดันผู้ประกอบการพื้นที่ภาคตะวันออกภาคการผลิตและธุรกิจบริการไทยให้พร้อมรองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อพื้นที่ภาคตะวันออก เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) อิเล็กทรอนิกส์ และระบบการผลิตอัจฉริยะ
พี่ปืนบอกว่า เป็นการสานต่องานต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาภายใต้การจัดงานSUBCON EEC 2023 โดยมองว่าปีนี้ถือเป็นหนึ่งในปีทองการลงทุนของไทย จากแนวโน้มการลงทุนในครึ่งปีแรกที่มีทิศทางบวก โดยมีโครงการยื่นขอส่งเสริมการลงทุน 891 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 18% เป็นเงินลงทุนกว่า 364,420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70%
ซึ่งเป็นการลงทุนใน 3 กลุ่มหลักที่ขยายตัวโดดเด่น ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ เกษตรและอาหาร และยานยนต์และชิ้นส่วน รวมถึงอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่นๆ ที่ขยายตัวมากขึ้น ได้แก่ ไบโอเทคโนโลยี การแพทย์ ดิจิทัล และอากาศยาน
การลงทุนต่อเนื่องถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับประเทศไทย ก้ได้แต่หวังว่าอย่าให้มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เศรษฐกิจต้องหยุดชะงักลงไปอีกก็แล้วกันนะขอรับเจ้านาย ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะแย่กันหมดครับผม
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 2,686 ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค. โดยการประชุมปีนี้จัดขึ้นในหัวข้อ “Structural Shifts in the Global Economy”
นักลงทุนคาดการณ์ว่า การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในปีนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังเงินเฟ้อสหรัฐเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.3%
ทั้งนี้ การประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮลหรือ “The Jackson Hole Economic Symposium” เป็นหนึ่งในการประชุมที่มีประวัติอันยาวนานที่สุดในโลก โดยเฟดสาขาแคนซัสซิตีเป็นแม่งานจัดการประชุมดังกล่าวในทุกๆ ปี นับตั้งแต่ปี 2521 โดยการประชุมจะมุ่งอภิปรายในประเด็นเศรษฐกิจที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ และผู้ที่ได้เข้าร่วมประชุมจะประกอบไปด้วยผู้ว่าการธนาคารกลางและรัฐมนตรีคลัง รวมทั้งบรรดานักวิชาการ และนักลงทุนชั้นนำในตลาดการเงินทั่วโลก
เรื่องที่ 2,687 ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟป่าในเมืองลาไฮนา บนเกาะเมาวี รัฐฮาวายของสหรัฐ พุ่งขึ้นเป็น 93 รายแล้วในขณะนี้ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่นายจอช กรีน ผู้ว่าการรัฐฮาวายกล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่ายังคงรุนแรงและได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาผู้ที่สูญหาย
นายกรีนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ MSNBC ว่า “เกาะเมาวีในขณะนี้ไม่ต่างจาก ‘เขตสงคราม (war zone) เราพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 93 รายแล้ว ผมสัญญาว่าจะเร่งตรวสอบการรับมือกับภัยพิบัติ และจะเร่งปรับปรุงระบบการเตือนภัยล่วงหน้า หลังจากประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนว่าระบบได้ทำการเตือนภัยล่วงหน้าเพียงไม่นานก่อนที่ไฟป่าจะลุกลามเข้าสู่เขตที่พักอาศัยของประชาชน”
ไฟป่าครั้งนี้ได้กลายเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐฮาวาย โดยมีความรุนแรงกว่าเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มเกาะบิ๊กในรัฐฮาวายเมื่อปี 2503 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 61 ราย นอกจากนี้ยังถือเป็นเหตุการณ์ไฟป่าที่ทำให้เกิดผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบกว่า 100 ปีของสหรัฐ แซงหน้าเหตุการณ์ไฟป่าในเมืองพาราไดซ์ รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2561 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คน 86 ราย
เรื่องที่ 2,688 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สนามบินนานาชาตินครหลวงปักกิ่ง รายงานปริมาณการรองรับผู้โดยสารในปีนี้มากกว่า 30 ล้านคน และเที่ยวบินรวม 220,000 เที่ยว เมื่อนับถึงวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารของสนามบินนานาชาติปักกิ่ง เพิ่มแตะระดับสูงสุด นับตั้งแต่มหกรรมการเดินทางช่วงฤดูร้อน โดยจำนวนผู้โดยสารในเดือนส.ค. เฉลี่ยอยู่ที่ 169,000 คนต่อวัน
ทั้งนี้ สนามบินคาดการณ์ว่า จำนวนผู้โดยสารจะอยู่ในระดับสูงตลอดเดือนส.ค. เนื่องจากความต้องการเดินทางแบบหมู่คณะของครอบครัวและกลุ่มนักศึกษาในช่วงฤดูร้อน
เรื่องที่ 2,689 ฟิทช์ เรทติ้งส์ออกรายงานเตือนว่า ราคาข้าวในตลาดโลกอาจจะพุ่งขึ้นอีก เนื่องจากจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ของโลกเผชิญปัญหาฝนตกหนักและน้ำท่วม
“ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในภูมิภาคตอนเหนือ-ตะวันออกของจีนซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวของจีนนั้น จะทำให้ผลผลิตข้าวลดลงและทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งขึ้นอีก” ฟิทช์ระบุในรายงาน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นทกซูรีส่งผลให้จีนเผชิญปัญหาน้ำท่วมหนักในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกรุงปักกิ่งซึ่งมีฝนตกรุนแรงที่สุดในรอบ 140 ปี นอกจากนี้ ระดับน้ำในภูมิภาคมองโกเลียใน (Inner Mongolia), มณฑลจี๋หลิน และเฮยหลงเจียง กำลังอยู่ในขั้นวิกฤต โดยทั้ง 3 ภูมิภาคเหล่านี้สามารถผลิตข้าวได้ในอัตราส่วน 23% ของผลผลิตข้าวทั่วประเทศจีน
ทั้งนี้ ฟิทช์ระบุว่า พื้นที่เพาะปลูกข้าวหลายแห่งในมองโกเลียใน, จี๋หลิน และเฮยหลงเจียงได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเนื่องจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นทกซูรี และมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นขนุนที่กำลังเคลื่อนตัวสู่พื้นที่ตอนเหนือของจีน ซึ่งภาวะฝนตกหนักจะทำให้ไร่นาน้ำท่วมขังและทำให้ผลผลิตข้าวลดลงในปีนี้
เมื่อไม่นานมานี้ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาข้าวทั่วโลกของ FAO พุ่งขึ้น 2.8% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 129.7 จุด อันเป็นผลมาจากการที่อินเดียระงับการส่งออกข้าว และสภาพอากาศที่แปรปรวนซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการผลิต โดยตัวเลขดังกล่าวพุ่งขึ้น 19.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2554
เรื่องที่ 2,690 ธนาคารกลางจีน (PBOC) เผยว่า ยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวนของธนาคารจีนในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 345,900 ล้านหยวน (ประมาณ 48,320 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่าธนาคารจีนจะปล่อยกู้เพิ่มขึ้น 780,000 ล้านหยวนในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นหลักฐานล่าสุดที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเงินฝืดเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้
คียง ซง นักวิเคราะห์จากธนาคารโซซิเอเต้ เจเนเรล กล่าวว่า “ยอดการปล่อยกู้เดือนก.ค. ถือเป็นระดับที่น่าผิดหวัง และบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนมีความเปราะบางมาก ยอดการปล่อยกู้ที่อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปีถือเป็นอีกหนึ่งในหลักฐานที่บ่งชี้ว่า อุปสงค์ในประเทศจีนอ่อนแอลงอย่างมาก และอาจทำให้เศรษฐกิจจีนเผชิญกับภาวะเงินฝืดเป็นเวลานานกว่าที่คาด หลังจากที่ก่อนหน้านี้จีนเปิดเผยยอดส่งออกและกิจกรรมด้านการผลิตทรุดตัวลง และล่าสุดตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนส่งสัญญาณว่าจะกลับมาเผชิญกับวิกฤตการณ์อีกครั้ง หลังจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ผิดนัดชำระหนี้” รายงานของ PBOC ระบุว่า ปริมาณเงินในระบบ M2 ซึ่งประกอบด้วยเงินสดหมุนเวียนและเงินฝากทุกประเภท เพิ่มขึ้น 10.7% ณ สิ้นเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 285.4 ล้านล้านหยวน
โดยนพวัชร์