ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 24-25 ก.ค. 2566
การจับมือขั้วตรงข้ามเป็นเรื่องราคาแพงที่เพื่อไทยต้องจ่าย
เรื่องที่ 2,576 การจับมือขั้วตรงข้ามเป็นเรื่องราคาแพงที่เพื่อไทยต้องจ่าย เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ทิ้งก้าวไกล พรรคการเมืองอันดับ 1 ให้เป็นฝ่ายค้าน
ราคาที่แพงนี้ พรรคเพื่อไทยจะต้องจ่ายเมื่อถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่ง จะหันไปเลือกพรรคก้าวไกลอย่างเต็มที่
ราคาแพงที่ว่านี้ยังรวมถึงไม่แน่ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทย อาจไม่ใช่พรรคการเมืองขนาดใหญ่อีกต่อไป อาจเป็นเพียงพรรคการเมืองขนาดกลาง ดังเช่นพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น
ว่ากันว่าการที่เพื่อไทยยอมจ่ายราคาแพงนี้ ก็เพื่อปูทางของนายใหญ่ ทักษิณ ชินวิตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กลับประเทศไทย หลังจากที่ต้องห่างจากบ้านเกิดเมืองนอนนานหลายปี
ข่าวว่า ไม่เดือนนี้ ก็เดือนหน้า ทักษิณ จะกลับมาเยียบแผ่นดินไทย จริงเท็จแค่ไหน ถึงเวลาก็รู้เอง
เรื่องที่ 2,577 สมชื่อปลัดหนุ่มขวัญใจสาวๆแห่งกระทรวงอุตสาหกรรม (MIND) จริงๆสำหรับ “ดร.ปั้น” ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงฯ ทั้งหน้าตาดี การศึกษาดี และขยันทำงานแบบสุดๆ ล่าสุดพาทีมงานยุกตะลุยแดนกิมจิพบนายแดจิน จอง (Mr.Dae-jin Jeong) ปลัดกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน (MOTIE) ของสาธารณรัฐเกาหลี หารือถึงทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศ
นอกจากนี้ ในโอกาสเดียวกัน ดร.ปั้น ยังได้ถือโอกาสเข้าพบกับนายแจซึง คิม (Mr.Jaeseung Kim) รองประธานบริษัท LG อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับ 4 ของเกาหลี ซึ่งมีจุดเด่น ด้านการพัฒนาอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ภายในบ้าน อย่างที่พวกเรารู้จักกันดี เช่น ทีวี ,ตู้เย็น , เครื่องซักผ้า ,จอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
แต่ที่เปิดโลกให้กับ บก.ชวนคุยได้สำหรับทริปการไปเยือนของ ดร.ปั้น ครั้งนี้ ก็คือทำให้ได้รู้ว่า LG ยังมีหน่วยธุรกิจ (Business Unit) ที่เน้นการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อป้อนให้กับผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำทั่วโลกเช่นเดียวกัน งานนี้ก็เลยไม่พลาดที่ ดร.ปั้นจะเกลี้ยกล่อมชักจูงให้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ในประเทศไทย
เรียกว่าผลงานเข้าตามาแบบต่อเนื่อง เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้โดยไม่ต้องรอรัฐบาลใหม่เลยนะขอรับเจ้านาย ต้องขอปรับมือให้ดังๆหลายๆรอบเลยขอรับ
เรื่องที่ 2,578 ผลพวงจาก EXIM BANK ปล่อยกู้ให้แก่บริษัทลูกของ STARK ที่กำลังเป็นคดีความ ทั้งทางแพ่ง และอาญาในขณะนี้ ขอเรียนว่า เป็นเพียงหนังตัวอย่าง แม้ จะไม่มีใครรู้ตัวเลขความเสียที่เกิดขึ้นกับ EXIM BANK จริงๆ อยู่เท่าไหร่ แต่ที่หนักไปกว่านั้น เหตุการณ์ของ EXIM BANK กลายเป็นความไม่สบายเกิดขึ้นภายในบอร์ดแบงก์รัฐ แทบทุกแห่งที่ปล่อยกู้บริษัทใหญ่ๆ กล่าวคือ หากปล่อยกู้ไปแล้ว จะด้วยสุจริตก็ดี หรือจะด้วยต่อหน้าที่ และการแสวงหากำไรให้กับองค์กรก็ดี
แต่ต่อมาการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว กลายเป็นปัญหากับแบงก์และสังคม เหมือนกรณี STARK และบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ หรือ EARTH คำถามคือ ใคร!! รับผิดชอบ เอ็มดีในอดีตหรือปัจจุบัน คณะกรรมการหรือบอร์ด ชุดไหน บอร์ดบริหารหรือชุดใหญ่ หรือ จะไล่ลงไปถึง รองผจก. ด้วย ล้วนเป็นสิ่งที่ครุ่นคิด!!
ดังนั้น หนังตัวอย่างที่ฉายให้กับสังคมเราก็รับทราบแล้ว แต่ก็เกรงว่า ถ้าไม่มีการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด และตรงไปตรงมา สักวันหนึ่ง หนังรอบใหม่ ประเด็นใหม่จะเป็นต้นต่อของความหายนะให้กระทรวงการคลัง !!
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 2,579 สำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้เปิดเผยในวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า พบพัสดุต้องสงสัยจำนวน 2,058 ชิ้นถูกส่งไปทั่วประเทศในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าพัสดุเหล่านี้ อาจบรรจุวัตถุที่เป็นอันตราย
รายงานการพบพัสดุต้องสงสัยเริ่มเกิดขึ้นในวันที่ 20 ก.ค. ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอาจจะเป็นวัตถุอันตรายหรือสารพิษ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่พบวัตถุอันตรายหรือสารพิษดังกล่าว โดยพบว่าสิ่งของที่อยู่ในพัสดุเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นลิปบาล์มและสินค้าราคาถูกประเภทอื่น ๆ และบางชิ้นเป็นเพียงพัสดุเปล่าที่ไม่มีสิ่งของอยู่ข้างใน
สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานว่า มีพัสดุต้องสงสัยชิ้นหนึ่งถูกส่งจากไต้หวันไปยังบ้านหลังหนึ่งในเมืองชอนัน ทางตอนกลางของเกาหลีใต้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำพัสดุดังกล่าวสแกนด้วยเครื่องเอ็กซ์เรย์เนื่องจากสงสัยว่าพัสดุอาจจะบรรจุก๊าซบางอย่าง แต่เมื่อทำการตรวจสอบแล้วก็ไม่พบก๊าซใด ๆเจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้กำลังตรวจสอบถึงความเป็นไปได้ว่า การส่งพัสดุเหล่านี้อาจจะเป็นการหลอกลวงรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า “บรัชชิง สแกม” (brushing scam) ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ผู้ขายสินค้าบนแพลตฟอร์มชอปปิงออนไลน์จะส่งพัสดุที่ไม่ได้มีการสั่งซื้อไปให้กับคนอื่น หลังจากได้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับมาอย่างผิดกฎหมาย โดยการหลอกลวงในลักษณะบรัชชิง สแกมนั้น มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มยอดขายและบิดเบือนการให้คะแนนของผู้ขายบนเว็บไซต์ชอปปิงออนไลน์
เรื่องที่ 2,580 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา จีนเริ่มใช้แผนปฏิบัติการระยะ 3 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์และพืชชนิดพันธุ์รุกรานต่างถิ่นเข้าสู่ประเทศจากด่านชายแดนทั่วประเทศ อันเป็นความพยายามในการปกป้องความมั่นคงทางระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศ
รายงานของสำนักงานศุลกากรจีนระบุว่า สืบเนื่องจากการค้าระหว่างประเทศที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และการแลกเปลี่ยนบุคลากรข้ามพรมแดนบ่อยครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความเสี่ยงด้านสัตว์และพืชชนิดพันธุ์รุกรานจากต่างถิ่นที่จีนต้องเผชิญจึงเพิ่มมากขึ้น
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 จีนสกัดกั้นการเข้าสู่ประเทศของสัตว์และพืชมีชีวิตจำนวน 1,405 สายพันธุ์ และจับกุมกลุ่มอาชญากรหลายกลุ่มที่นำเข้าสัตว์เลี้ยงหายากอย่างผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ แผนงานระบุว่า จีนจะนำเทคโนโลยีขั้นสูงและอุปกรณ์อัจฉริยะมาใช้งานอย่างแข็งขัน เพื่อให้สามารถแจ้งเตือนล่วงหน้าได้หากมีสัตว์และพืชชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่จะเข้าสู่ประเทศ
โดยนพวัชร์