ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 18-19 ก.ค. 2566
เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย
เรื่องที่ 2,438 เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย จะเป็นคนต่อไป ที่จะถูกเสนอชื่อต่อที่ประชุมรัฐสภา ในการโหวตนายกรัฐมนตรี หลังจาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ได้รับการโหวตในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้
โดยในเบื้องต้นพรรคเพื่อไทย จะเสนอชื่อเศรษฐาก่อน แม้จะมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีถึง 3 คน ทั้งนี้ เมื่อเสนอชื่อเศรษฐา ขั้ว 8 พรรคร่วมรัฐบาล 312 เสียง ยังคงเดิม แต่เชื่อว่าสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) จะยังไม่โหวตให้กับเศรษฐา เนื่องจาก ส.ว.ยืนยันคำมั่นว่า พรรคก้าวไกล จะต้องไม่ได้เป็นรัฐบาล จะโหวตให้กับพรรคเพื่อไทย ก็ต่อเมื่อสลัดพรรคก้าวไกลทิ้งเท่านั้น
ขณะที่เศรษฐา เอง ก็ยืนยันว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต่อเมื่อมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลด้วย ดังนั้น เรื่องนี้จึงเป็นโจทย์ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ว่าจะยอมสลัดพรรคก้าวไกลเพื่อจะได้จัดตั้งรัฐบาล หรือยอมกอดคอกันเดินต่อ แม้มองไม่เห็นอนาคต
ดังนั้น เวลานี้ จึงพอสรุปได้เพียงว่าถ้าเศรษฐา จะขึ้นเป็นนายกฯก็ต้องมีพรรคก้าวไกล ร่วมรัฐบาล แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยร่วมรัฐบาลโดยไม่มีพรรคก้าวไกล ก็หมายความว่านายกรัฐมนตรี ไม่ได้ชื่อเศรษฐา ทวีสิน
เรื่องที่ 2,439 วันนี้ได้รับข่าวดีกัน 2 ต่อเลยทีเดียวสำหรับผู้ใช้รถเป็นยานพานะหลัก เริ่มต้นกันก่อนเลยที่ช่วงสาย ซึ่ง บก.ชวยคุยเคยบอกเอาไว้แล้วว่าจะมีการแถลงข่าวเรื่องของราคาน้ำมันดีเซล ภายหลังจากไม่มีมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5บาทต่อลิตรอีก หลังวันที่ 20 ก.ค. 66 เป็นต้นไป โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือกบน.เห็นชอบให้ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ประมาณ 32 บาทต่อลิตร
“วิศักดิ์ วัฒนศัพท์” ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง บอกว่า แนวทางการใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อบริหารจัดการราคาน้ำมันดีเซลดังกล่าว จะดำเนินการตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. 66 ต่อเนื่องไปอีกเป็นระยะเวลาหนึ่งตามสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะดำเนินการได้ แถมบอกแบบย้ำด้วยว่าการรักษาเสถียรภาพระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือประชาชนไม่ให้เกิดผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในยามที่เศรษฐกิจประเทศกำลังฟื้นตัว และจะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ส่วนช่วงเย็นก็ถึงเวลายุติวัฏจักรขาขึ้นเสียทีสำหรับน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ เมื่อบมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ (OR) และบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 30 สตางค์ต่อลิตร ขณะที่น้ำมันดีเซลไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคา โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 19 ก.ค. 66 เป็นต้นไป
การปรับลดคราวนี้มีผลทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่นวันพรุ่งนี้เปลี่ยนแปลงเป็นดังนี้ น้ำมันเบนซิน ออกเทน 95 ลิตรละ 44.74 บาท ,แก๊สโซฮอล์ 97 ลิตรละ 46.74 บาท (บางจาก) ,แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 36.95 บาท ,แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 36.68 บาท ,แก๊สโซฮอล์ E20 ลิตรละ 34.64 บาท และแก๊สโซฮอล์ E85 ลิตรละ 35.09 บาท
แม้จะได้ลดลงเพียงน้อยนิดเหมือนไม่ได้ลดเมื่อเทียบกับช่วงที่ขึ้นแบบรัวๆ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ลด หรือยังอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อแหละเนอะ ยังไงก็ทำใจเรื่องราคาน้ำมันกันหน่อยละกันนะครับพี่น้อง เพราะช่วงนี้น่าจะสวิงไปสวิงมาเลยทีเดียวเชียว
เรื่องที่ 2,440 งานนี้ เรียกว่า “เอ็กซิม ซ้ำรอยเดิม” ล่าสุด “ดร.รัก-รักษ์ วรกิจโภคาทร” เอ็มดี EXIM BANK ออกมาชี้แจ้งแล้วว่า EXIM BANK ปล่อยกู้ให้แก่บริษัทลูกของ STARK เป็นความจริง เนื่องจาก การทำดำเนินธุรกิจ บริษัทลูกของ STARK สอดคล้องกับพันธกิจของธนาคาร ชี้แจงแค่นี้ ใช่จะพ้นผิด
ล่าสุด “ปลัดพี่ตู่-กฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง สั่งให้มีการตรวจสอบเพิ่มเติม “ใครผิดใครถูกไม่ทราบ” แต่คนที่ชงให้ EXIM BANK ปล่อยกู้นั้น เป็นใคร ที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor : FA) ชื่อไร เอาส่งมาให้ดู สอบกันให้ชัดๆ เพราะอยู่ดีๆ ปล่อยกู้แล้ว จะกลายเป็นเอ็นพีแอล หาใช่วิสัยของแบงก์รัฐ ก็ “EXIM BANK” แห่งนี่แหละ!! ปล่อยกู้บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ หรือ EARTH สร้างความเสียหายแก่ EXIM BANK นับพันล้านบาทท รอบนี้…อีกกว่า พันล้านบาท “ใคร!!” จะรับผิดชอบ ปลัดคลัง ถาม!!
เรื่องที่ 2,441 เกมฟุตบอลใครๆ ก็ชอบ ดูสนุก มันส์ และเร้าใจ แต่คนที่รักฟุตบอล ยอมมอบหัวใจให้เลย ต้องคนนี้ “บิ๊กหยิม-ยุทธนา หยิมการุณ” นายกสมาคมชาวเพชรบุรี อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ หลังจากประกาศลาออกจากผู้อำนวยการทีม U23 ไม่ทันไร!! ต้องมารับหน้าที่อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ดูแลฟุตบอลทุกรุ่นของไทย ล่าสุด หัวใจ “บิ๊กหยิม” ก็ซาบซ่าน ลุ้นขอบสนามชมชบาแก้ว U19 เฉือนชนะ เวียดนามไป 2-1 พร้อมคว้าแชมป์อาเซียนมาครองได้สำเร็จ งานหายเหนื่อยไปเลยครับพี่น้อง!!
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 2,442 สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566 ขยายตัว 6.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแม้ว่าขยายตัวรวดเร็วขึ้นจากระดับ 4.5% ในไตรมาส 1 แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 7.3%
ขณะที่ สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เกิดความวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้นว่า เศรษฐกิจจีนกำลังจะเผชิญกับภาวะเงินฝืด หลังข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอครั้งล่าสุดตอกย้ำถึงเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างซบเซา จนมีการเรียกร้องให้ภาครัฐออกมาดำเนินการแทรกแซงทางนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพ
“เราต้องพิจารณาแรงกดดันราคาแบบเป็นวงกว้างก่อนถึงจะประกาศเรื่องภาวะเงินฝืดได้” นายหง ฮ่าว หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโกรว์ อินเวสต์เมนต์ กรุ๊ปกล่าว พร้อมระบุว่า “กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในภาคส่วนต้นน้ำ ซึ่งปกติแล้วต้องใช้เวลาประมาณ 2-4 ไตรมาสถึงจะผ่านพ้นไปได้”
“ผมคิดว่าเราใกล้จะเผชิญกับภาวะเงินฝืด โดยขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องเข้าดำเนินการเพื่อสกัดแรงกดดันเงินฝืด” นายหงกล่าว
นายหงบ่งชี้ถึงข้อมูลเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่แสดงให้เห็นว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีนลดลง 5.4% ในเดือนมิ.ย.จากปีก่อนหน้าและลดลง 0.8% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ โดยตัวเลข PPI รายปีเดือนมิ.ย.ถือเป็นการลดลงติดต่อกันเดือนที่ 9 ของจีนและรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2558
เรื่องที่ 2,443 หน่วยงานด้านสภาพอากาศของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ประกาศเตือนให้ประชาชนเตรียมรับมือกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากพายุไต้ฝุ่นตาลิม โดยคาดว่า พายุจะเคลื่อนตัวผ่านสปป.ลาวในวันที่ 18 ก.ค. ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกรรโชกรุนแรงในจังหวัดทางภาคกลางและภาคใต้ของประเทศ
ทั้งนี้ หน่วยงานของสปป.ลาวประเมินว่า ในขณะที่พายุไต้ฝุ่นตาลิมเคลื่อนตัวผ่านประเทศ พื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ซึ่งได้แก่แขวงบอลิคำไซ, แขวงคำม่วน, แขวงสะหวันนะเขต, แขวงจำปาสัก, แขวงสารวัน, แขวงเซกอง และแขวงอัตตะปือ อาจเผชิญลมมรสุมที่มีกำลังแรงจัด พายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า และฝนตกหนัก
เรื่องที่ 2,444 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รถรางอัจฉริยะพลังงานไฮโดรเจนที่พัฒนาโดยบริษัท ซีอาร์อาร์ซี จูโจว อิเล็กทริก โลโคโมทีฟ รีเสิร์ช อินสติทูท จำกัด (CRRC Zhuzhou Electric Locomotive Research Institute Co.) ออกจากสถานที่ผลิตในเมืองจูโจว มณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน และจะถูกส่งออกสู่มาเลเซียในอีกไม่กี่วันนี้จากท่าเรือเซี่ยงไฮ้
รายงานระบุว่า รถรางอัจฉริยะคันนี้จะถูกนำไปใช้สำหรับบริการขนส่งในพื้นที่เขตเมืองของเมืองกูชิง เมืองเอกของรัฐซาราวักในมาเลเซีย โดยเป็นรถรางที่ใช้ระบบไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจนคันแรก มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ โดยหลังจากส่งถึงมาเลเซียแล้ว รถรางดังกล่าวจะเข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบในเมืองกูชิงเป็นเวลา 3 เดือน
เรื่องที่ 2,445 แฮร์รอดส์ (Harrods) ห้างสรรพสินค้าหรูหราชื่อดังจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จะเปิดคลับหรูส่วนตัวสำหรับสมาชิกในนครเซี่ยงไฮ้ของจีน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่แฮร์รอดส์เปิดคลับนอกสหราชอาณาจักร โดยมีเป้าหมายเพื่อตอบสนองอุปสงค์ที่ฟื้นตัวในกลุ่มเศรษฐีชาวจีน
คลับใหม่ดังกล่าวของแฮร์รอดส์ มีชื่อว่า เดอะ เรสซิเดนซ์ (The Residence) จะเปิดให้บริการในช่วงสิ้นปีนี้ โดยคลับจะตั้งอยู่บนชั้นสองของ ชาเฮาส์ (Cha House) ตึกเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงในนครเซี่ยงไฮ้ ที่ซึ่งแฮร์รอดส์ได้เปิดห้องชา (tea room) และบาร์ไว้ให้บริการสำหรับลูกค้าทั่วไปอยู่แล้ว นอกจากนี้ ร้านอาหารของเชฟชื่อดังอย่าง กอร์ดอน แรมซีย์ (Gordon Ramsay) สาขาแรกในเซี่ยงไฮ้จะเปิดให้บริการในคลับแห่งนี้ด้วย
สำหรับผู้ที่จะเข้าเป็นสมาชิกของคลับจะต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปี เริ่มต้นที่ 150,000 หยวน (21,000 ดอลลาร์สหรัฐ) โดยจะเปิดรับสมาชิกในช่วงเริ่มแรกที่ 250 คน
นายไมเคิล วอร์ด กรรมการผู้จัดการของแฮร์รอดส์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ลูกค้าชาวจีนคิดเป็นสัดส่วน 16% ของยอดขายของแฮร์รอดส์ในปีที่แล้ว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ข้อมูลจากไพรซ์วอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ส (PwC) ระบุว่า ผู้บริโภคชาวจีนอยู่ในกลุ่มที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก โดยคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของตลาดสินค้าหรูทั่วโลกซึ่งมีมูลค่า 324,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเนื่องด้วยชาวจีนซื้อสินค้าในจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มมากขึ้น แบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ ระดับโลกจึงกำลังขยายฐานไปยังตลาดในประเทศจีน
โดยนพวัชร์